เมนู

‘‘ปถวี เจ, ภิกฺขเว , นาสฺส กฺวาสฺส ปติฏฺฐิตา’’ติ? ‘‘อาปสฺมิํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘อาโป เจ, ภิกฺขเว, นาสฺส กฺวาสฺส ปติฏฺฐิตา’’ติ? ‘‘อปฺปติฏฺฐิตา, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, กพฬีกาเร เจ อาหาเร นตฺถิ ราโค นตฺถิ นนฺที นตฺถิ ตณฺหา…เป.…ฯ

‘‘ผสฺเส เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร… มโนสญฺเจตนาย เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร… วิญฺญาเณ เจ, ภิกฺขเว, อาหาเร นตฺถิ ราโค นตฺถิ นนฺที นตฺถิ ตณฺหา, อปฺปติฏฺฐิตํ ตตฺถ วิญฺญาณํ อวิรูฬฺหํฯ ยตฺถ อปฺปติฏฺฐิตํ วิญฺญาณํ อวิรูฬฺหํ, นตฺถิ ตตฺถ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติฯ ยตฺถ นตฺถิ นามรูปสฺส อวกฺกนฺติ, นตฺถิ ตตฺถ สงฺขารานํ วุทฺธิฯ ยตฺถ นตฺถิ สงฺขารานํ วุทฺธิ, นตฺถิ ตตฺถ อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ ฯ ยตฺถ นตฺถิ อายติํ ปุนพฺภวาภินิพฺพตฺติ, นตฺถิ ตตฺถ อายติํ ชาติชรามรณํฯ ยตฺถ นตฺถิ อายติํ ชาติชรามรณํ อโสกํ ตํ, ภิกฺขเว, อทรํ อนุปายาสนฺติ วทามี’’ติฯ จตุตฺถํฯ

5. นครสุตฺตํ

[65] สาวตฺถิยํ วิหรติ…เป.… ‘‘ปุพฺเพ เม, ภิกฺขเว, สมฺโพธา อนภิสมฺพุทฺธสฺส โพธิสตฺตสฺเสว สโต เอตทโหสิ – ‘กิจฺฉา วตายํ โลโก อาปนฺโน ชายติ จ ชียติ จ มียติ จ จวติ จ อุปปชฺชติ จฯ อถ จ ปนิมสฺส ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํ นปฺปชานาติ ชรามรณสฺสฯ กุทาสฺสุ นาม อิมสฺส ทุกฺขสฺส นิสฺสรณํ ปญฺญายิสฺสติ ชรามรณสฺสา’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชรามรณํ โหติ, กิํปจฺจยา ชรามรณ’นฺติ ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา อหุ ปญฺญาย อภิสมโย – ‘ชาติยา โข สติ ชรามรณํ โหติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณ’’’นฺติฯ

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ ชาติ โหติ…เป.… ภโว โหติ… อุปาทานํ โหติ… ตณฺหา โหติ… เวทนา โหติ… ผสฺโส โหติ… สฬายตนํ โหติ… นามรูปํ โหติ… กิํปจฺจยา นามรูป’นฺติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา อหุ ปญฺญาย อภิสมโย – ‘วิญฺญาเณ โข สติ นามรูปํ โหติ, วิญฺญาณปจฺจยา นามรูป’นฺติฯ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข สติ วิญฺญาณํ โหติ, กิํปจฺจยา วิญฺญาณ’นฺติ ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา อหุ ปญฺญาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข สติ วิญฺญาณํ โหติ, นามรูปปจฺจยา วิญฺญาณ’’’นฺติฯ

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ปจฺจุทาวตฺตติ โข อิทํ วิญฺญาณํ นามรูปมฺหา น ปรํ คจฺฉติฯ เอตฺตาวตา ชาเยถ วา ชีเยถ วา มีเยถ วา จเวถ วา อุปปชฺเชถ วา, ยทิทํ นามรูปปจฺจยา วิญฺญาณํ; วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ; นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ; สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติฯ ‘สมุทโย, สมุทโย’ติ โข เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ ญาณํ อุทปาทิ ปญฺญา อุทปาทิ วิชฺชา อุทปาทิ อาโลโก อุทปาทิฯ

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ, ชรามรณํ น โหติ; กิสฺส นิโรธา ชรามรณนิโรโธ’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา อหุ ปญฺญาย อภิสมโย – ‘ชาติยา โข อสติ, ชรามรณํ น โหติ; ชาตินิโรธา ชรามรณนิโรโธ’ติฯ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ ชาติ น โหติ…เป.… ภโว น โหติ… อุปาทานํ น โหติ… ตณฺหา น โหติ… เวทนา น โหติ… ผสฺโส น โหติ… สฬายตนํ น โหติ… นามรูปํ น โหติฯ กิสฺส นิโรธา นามรูปนิโรโธ’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา อหุ ปญฺญาย อภิสมโย – ‘วิญฺญาเณ โข อสติ, นามรูปํ น โหติ; วิญฺญาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ’’’ติ

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – ‘กิมฺหิ นุ โข อสติ วิญฺญาณํ น โหติ; กิสฺส นิโรธา วิญฺญาณนิโรโธ’ติ? ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, โยนิโส มนสิการา อหุ ปญฺญาย อภิสมโย – ‘นามรูเป โข อสติ, วิญฺญาณํ น โหติ; นามรูปนิโรธา วิญฺญาณนิโรโธ’’’ติฯ

‘‘ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, เอตทโหสิ – อธิคโต โข มฺยายํ มคฺโค โพธาย ยทิทํ – นามรูปนิโรธา วิญฺญาณนิโรโธ; วิญฺญาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ; นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ; สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหติฯ ‘นิโรโธ, นิโรโธ’ติ โข เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ ญาณํ อุทปาทิ ปญฺญา อุทปาทิ วิชฺชา อุทปาทิ อาโลโก อุทปาทิฯ

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส อรญฺเญ ปวเน จรมาโน ปสฺเสยฺย ปุราณํ มคฺคํ ปุราณญฺชสํ ปุพฺพเกหิ มนุสฺเสหิ อนุยาตํฯ

โส ตมนุคจฺเฉยฺย ฯ ตมนุคจฺฉนฺโต ปสฺเสยฺย ปุราณํ นครํ ปุราณํ ราชธานิํ ปุพฺพเกหิ มนุสฺเสหิ อชฺฌาวุฏฺฐํ [อชฺฌาวุตฺถํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อารามสมฺปนฺนํ วนสมฺปนฺนํ โปกฺขรณีสมฺปนฺนํ อุทฺธาปวนฺตํ [อุทฺทาปวนฺตํ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] รมณียํฯ อถ โข โส, ภิกฺขเว, ปุริโส รญฺโญ วา ราชมหามตฺตสฺส วา อาโรเจยฺย – ‘ยคฺเฆ, ภนฺเต, ชาเนยฺยาสิ – อหํ อทฺทสํ อรญฺเญ ปวเน จรมาโน ปุราณํ มคฺคํ ปุราณญฺชสํ ปุพฺพเกหิ มนุสฺเสหิ อนุยาตํ ตมนุคจฺฉิํฯ ตมนุคจฺฉนฺโต อทฺทสํ ปุราณํ นครํ ปุราณํ ราชธานิํ ปุพฺพเกหิ มนุสฺเสหิ อชฺฌาวุฏฺฐํ อารามสมฺปนฺนํ วนสมฺปนฺนํ โปกฺขรณีสมฺปนฺนํ อุทฺธาปวนฺตํ รมณียํฯ ตํ, ภนฺเต, นครํ มาเปหี’ติฯ อถ โข โส, ภิกฺขเว, ราชา วา ราชมหามตฺโต วา ตํ นครํ มาเปยฺยฯ ตทสฺส นครํ อปเรน สมเยน อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ พาหุชญฺญํ อากิณฺณมนุสฺสํ วุทฺธิเวปุลฺลปฺปตฺตํฯ เอวเมว ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, อทฺทสํ ปุราณํ มคฺคํ ปุราณญฺชสํ ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาตํฯ

‘‘กตโม จ โส, ภิกฺขเว, ปุราณมคฺโค ปุราณญฺชโส ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาโต ? อยเมว อริโย อฏฺฐงฺคิโก มคฺโค, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺฐิ…เป.… สมฺมาสมาธิฯ อยํ โข โส, ภิกฺขเว, ปุราณมคฺโค ปุราณญฺชโส ปุพฺพเกหิ สมฺมาสมฺพุทฺเธหิ อนุยาโต, ตมนุคจฺฉิํ; ตมนุคจฺฉนฺโต ชรามรณํ อพฺภญฺญาสิํ; ชรามรณสมุทยํ อพฺภญฺญาสิํ; ชรามรณนิโรธํ อพฺภญฺญาสิํ; ชรามรณนิโรธคามินิํ ปฏิปทํ อพฺภญฺญาสิํฯ ตมนุคจฺฉิํ; ตมนุคจฺฉนฺโต ชาติํ อพฺภญฺญาสิํ…เป.… ภวํ อพฺภญฺญาสิํ… อุปาทานํ อพฺภญฺญาสิํ… ตณฺหํ อพฺภญฺญาสิํ… เวทนํ อพฺภญฺญาสิํ… ผสฺสํ อพฺภญฺญาสิํ… สฬายตนํ อพฺภญฺญาสิํ… นามรูปํ อพฺภญฺญาสิํ… วิญฺญาณํ อพฺภญฺญาสิํฯ ตมนุคจฺฉิํ; ตมนุคจฺฉนฺโต สงฺขาเร อพฺภญฺญาสิํ; สงฺขารสมุทยํ อพฺภญฺญาสิํ; สงฺขารนิโรธํ อพฺภญฺญาสิํ; สงฺขารนิโรธคามินิํ ปฏิปทํ อพฺภญฺญาสิํฯ ตทภิญฺญา อาจิกฺขิํ ภิกฺขูนํ ภิกฺขุนีนํ อุปาสกานํ อุปาสิกานํฯ ตยิทํ, ภิกฺขเว , พฺรหฺมจริยํ อิทฺธญฺเจว ผีตญฺจ วิตฺถาริกํ พาหุชญฺญํ ปุถุภูตํ ยาว เทวมนุสฺเสหิ สุปฺปกาสิต’’นฺติฯ ปญฺจมํฯ

6. สมฺมสสุตฺตํ

[66] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา กุรูสุ วิหรติ กมฺมาสธมฺมํ นาม กุรูนํ นิคโมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘สมฺมสถ โน ตุมฺเห, ภิกฺขเว, อนฺตรํ สมฺมส’’นฺติ [อนฺตรา สมฺมสนนฺติ (สี.)]ฯ เอวํ วุตฺเต, อญฺญตโร ภิกฺขุ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘อหํ โข, ภนฺเต, สมฺมสามิ อนฺตรํ สมฺมส’’นฺติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตฺวํ, ภิกฺขุ, สมฺมสสิ อนฺตรํ สมฺมส’’นฺติ? อถ โข โส ภิกฺขุ พฺยากาสิฯ ยถา โส ภิกฺขุ พฺยากาสิ น โส ภิกฺขุ ภควโต จิตฺตํ อาราเธสิฯ

เอวํ วุตฺเต, อายสฺมา อานนฺโท ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล; ยํ ภควา อนฺตรํ สมฺมสํ ภาเสยฺยฯ ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติฯ ‘‘เตนหานนฺท, สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สมฺมสมาโน สมฺมสติ อนฺตรํ สมฺมสํ [สมฺมสนํ (สี.)] – ‘ยํ โข อิทํ อเนกวิธํ นานปฺปการกํ ทุกฺขํ โลเก อุปฺปชฺชติ ชรามรณํฯ อิทํ โข ทุกฺขํ กิํนิทานํ กิํสมุทยํ กิํชาติกํ กิํปภวํ, กิสฺมิํ สติ ชรามรณํ โหติ, กิสฺมิํ อสติ ชรามรณํ น โหตี’ติ? โส สมฺมสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘ยํ โข อิทํ อเนกวิธํ นานปฺปการกํ ทุกฺขํ โลเก อุปฺปชฺชติ ชรามรณํฯ อิทํ โข ทุกฺขํ อุปธินิทานํ อุปธิสมุทยํ อุปธิชาติกํ อุปธิปภวํ, อุปธิสฺมิํ สติ ชรามรณํ โหติ, อุปธิสฺมิํ อสติ ชรามรณํ น โหตี’ติฯ โส ชรามรณญฺจ ปชานาติ ชรามรณสมุทยญฺจ ปชานาติ ชรามรณนิโรธญฺจ ปชานาติ ยา จ ชรามรณนิโรธสารุปฺปคามินี ปฏิปทา ตญฺจ ปชานาติฯ ตถาปฏิปนฺโน จ โหติ อนุธมฺมจารีฯ อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพโส สมฺมา ทุกฺขกฺขยาย ปฏิปนฺโน ชรามรณนิโรธายฯ

‘‘อถาปรํ สมฺมสมาโน สมฺมสติ อนฺตรํ สมฺมสํ – ‘อุปธิ ปนายํ กิํนิทาโน กิํสมุทโย กิํชาติโก กิํปภโว, กิสฺมิํ สติ อุปธิ โหติ, กิสฺมิํ อสติ อุปธิ น โหตี’ติ? โส สมฺมสมาโน เอวํ ชานาติ – ‘อุปธิ ตณฺหานิทาโน ตณฺหาสมุทโย ตณฺหาชาติโก ตณฺหาปภโว, ตณฺหาย สติ อุปธิ โหติ, ตณฺหาย อสติ อุปธิ น โหตี’ติฯ