เมนู

7. สฬายตนวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

[304] เวทิตพฺพานีติ เอตฺถ ยถา วิทิตานิ ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ วฏฺฏทุกฺขสมติกฺกมาย โหนฺติ, ตถา เวทนํ อธิปฺเปตนฺติ อาห – ‘‘สหวิปสฺสเนน มคฺเคน ชานิตพฺพานี’’ติฯ ตตฺถ วิปสฺสนาย อารมฺมณโต มคฺเคน อสมฺโมหโต ชานนํ ทฏฺฐพฺพํฯ เสสปเทสุปิ เอเสว นโยฯ มโน สวิเสสํ อุปวิจรติ อารมฺมเณ ปวตฺตติ เอเตหีติ มโนปวิจารา, วิตกฺกวิจาราฯ อารมฺมเณ หิ อภินิโรปนานุมชฺชเนหิ วิตกฺกวิจาเรหิ สห จิตฺตํ ปวตฺตติ, น ตพฺพิรหิตํฯ เตนาห ‘‘วิตกฺกวิจารา’’ติอาทิฯ สตฺตา ปชฺชนฺติ เอเตหิ ยถารหํ วฏฺฏํ วิวฏฺฏญฺจาติ สตฺตปทา , เคหนิสฺสิตา วฏฺฏปทาฯ โยคฺคานํ ทมนอาจริยา โยคฺคาจริยาฯ เตนาห ‘‘ทเมตพฺพทมกาน’’นฺติฯ เสสนฺติ วุตฺตาวเสสํ เอกสตฺตติวิธวิญฺญาณํ สผสฺสรูปกสฺเสว อธิปฺเปตตฺตาฯ

[305] อิธาติ อิมิสฺสํ ฉวิญฺญาณกายเทสนายํฯ มโนธาตุตฺตยวินิมุตฺตเมว มโนวิญฺญาณธาตูติ เวทิตพฺพํฯ

จกฺขุมฺหิ สมฺผสฺโสติ จกฺขุํ นิสฺสาย อุปฺปนฺโน สมฺผสฺโสฯ เตนาห – ‘‘จกฺขุวิญาณสมฺปยุตฺตสมฺผสฺสสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติฯ

ยถา เกวเลน วิญฺญาเณน รูปทสฺสนํ น โหติ, เอวํ เกวเลน จกฺขุปสาเทนปีติ วุตฺตํ ‘‘จกฺขุวิญฺญาเณนา’’ติฯ เตน ปาฬิยํ จกฺขุนาติ นิสฺสยมุเขน นิสฺสิตกิจฺจํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติฯ อารมฺมณวเสนาติ อารมฺมณปจฺจยภาเวนฯ ‘‘อุปวิจรติ’’จฺเจว กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตตฺถ วิตกฺกพฺยาปาโรปิ อตฺถีติ? สจฺจํ อตฺถิฯ โส ปเนตฺถ ตคฺคติโกติ อาห – ‘‘วิตกฺโก ตํสมฺปยุตฺโต จา’’ติฯ สมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ อุปวิจรณํ วิตกฺกวิจารานํเยเวตฺถ กิจฺจนฺติ ‘‘วิตกฺกวิจารสงฺขาตา มโนปวิจารา’’ติ วุตฺตํฯ โสมนสฺสยุตฺโต อุปวิจาโร โสมนสฺสูปวิจาโร ยถา ‘‘อาชญฺญรโถ’’ติ อาห ‘‘โสมนสฺเสน สทฺธิ’’นฺติอาทิฯ

[306] อุปวิจารานํ อุปสฺสยฏฺเฐน เคหํ วิยาติ เคหํ, รูปาทโยติ อาห – ‘‘เคหสฺสิตานีติ กามคุณนิสฺสิตานี’’ติฯ นิจฺจสญฺญาทินิกฺขมนโต เนกฺขมฺมํ วิปสฺสนาติ, ‘‘เนกฺขมฺมสฺสิตานีติ วิปสฺสนานิสฺสิตานี’’ติ วุตฺตํฯ อิฏฺฐานนฺติ กสิวณิชฺชาทิวเสน ปริยิฏฺฐานนฺติ อาห ‘‘ปริเยสิตาน’’นฺติฯ ปิยภาโว ปน กนฺตสทฺเทเนว กถิโตติ กามิตพฺพานํ มโน รเมตีติ มโนรมานํฯ โลเกน อามสียตีติ โลกามิสํ, ตณฺหาฯ ตาย คเหตพฺพตาย อิฏฺฐภาวาปาทเนน ปฏิสงฺขตตาย จ ปฏิสํยุตฺตานํฯ อตีเต กตํ อุปฺปชฺชติ อารมฺมณิกอนุภวนสฺส อสมฺภวโตติ อธิปฺปาโยฯ เอทิสํ อนุสฺสรณํ ทิฏฺฐคฺคหณานุสฺสเรน จ โหตีติ ทสฺเสตุํ, ‘‘ยถาห’’นฺติอาทิ วุตฺตํฯ

อนิจฺจาการนฺติ หุตฺวา อภาวาการํฯ วิปริณามวิราคนิโรธนฺติ ชราย มรเณน จาติ ทฺเวธา วิปริณาเมตพฺพญฺเจว, ตโต เอว ปโลกิตํ ภงฺคญฺจฯ

อฏฺฐกถายํ ปน ยสฺมา อุปฺปนฺนํ รูปํ เตเนวากาเรน น ติฏฺฐติ , อถ โข อุปฺปาทาวตฺถาสงฺขาตํ ปกติํ วิชหติ, วิชหิตญฺจ ชราวตฺถาย ตโต วิคจฺฉติ, วิคจฺฉนฺตญฺจ ภงฺคุปฺปตฺติยา นิรุชฺฌตีติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ, ‘‘ปกติวิชหเนนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ กามญฺเจตฺถ ‘‘ยถาภูตํ สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสโต’’ติ วุตฺตํ, อนุโพธญาณํ ปน อธิปฺเปตํ วีถิปฏิปนฺนาย วิปสฺสนาย วเสนาติ ‘‘วิปสฺสนาปญฺญายา’’ติ วุตฺตํ อุปวิจารนิทฺเทสภาวโตฯ ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘ฉสุทฺวาเรสุ อิฏฺฐารมฺมเณ อาปาถคเต’’ติอาทิฯ สงฺขารานํ เภทํ ปสฺสโตติ สพฺเพสํ สงฺขารานํ ขเณ ขเณ ภิชฺชนสภาวํ วีถิปฏิปนฺเนน วิปสฺสนาญาเณน ปสฺสโตฯ เตนาห ‘‘สงฺขารคตมฺหิ ติกฺเข’’ติอาทิฯ ตตฺถ สงฺขาคตมฺหีติ สงฺขารคเต วิสยภูเตฯ ติกฺเขติ ภาวนาพเลน อินฺทฺริยานญฺจ สมตาย ติพฺเพฯ สูเรติ ปฏิปกฺเขหิ อนภิภูตตาย, เตสญฺจ อภิภวนสมตฺถตาย วิสเท ปฏุภูเต ปวตฺตนฺเตฯ

กิเลสานํ วิกฺขมฺภนวเสน วูปสนฺตตาย สนฺตจิตฺตสฺส, สํสาเร ภยสฺส อิกฺขนโต ภิกฺขุโน, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมสนฺนิสฺสิตตฺตา อมานุสี รตีติ วิเวกรติ เนกฺขมฺมรติฯ ยโต ยโตติ ยถา ยถา นยวิปสฺสนาทีสุ เยน เยน สมฺมสนากาเรนาติ อตฺโถฯ ขนฺธานํ อุทยพฺพยนฺติ ปญฺจุปาทานกฺขนฺธานํ อุปฺปาทญฺจ ภงฺคญฺจฯ อมตนฺตํ วิชานตนฺติ วิชานนฺตานํ วิญฺญูนํ อารทฺธวิปสฺสนานํ ตํ ปีติปาโมชฺชํ อมตาธิคมเหตุตาย อมตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺฐารมฺมเณ อาปาถคเตติ รูปาทิวเสน ฉพฺพิเธ อิฏฺฐารมฺมเณ ยถารหํ ฉสุ ทฺวาเรสุ อาปาถคเตฯ วิสเย เจตํ ภุมฺมวจนํฯ

[307] ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํฯ อนุตฺตรวิโมกฺโข นาม อรหตฺตํ อิธ อธิปฺเปตํ อุกฺกฏฺฐนิทฺเทเสนฯ กถํ ปน ตตฺถ ปิหํ อุปฏฺฐเปติ, น หิ อธิคตํ อรหตฺตํ อารมฺมณํ โหติ, น จ ตํ อารพฺภ ปิหา ปวตฺตตีติ? โก วา เอวมาห – ‘‘อรหตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา ปิหํ อุปฏฺฐเปตี’’ติฯ อนุสฺสุติลทฺธํ ปน ปริกปฺปสิทฺธํ อรหตฺตํ อุทฺทิสฺส ปตฺถนํ ฐเปติ, ตตฺถ จิตฺตํ ปณิทหติฯ เตนาห ภควา – ‘‘กุทาสฺสุ นามาหํ ตทายตนํ อุปสมฺปชฺช วิหริสฺสามี’’ติฯ

อายตนนฺติ อรหตฺตเมว ฉฬงฺคสมนฺนาคมาทิการณภาวโต, มนายตนธมฺมายตนภาวโต จ ตถา วุตฺตํ, ตํ ปเนตํ โทมนสฺสํ ปตฺถนํ ปฏฺฐเปนฺตสฺส อุปฺปชฺชติ ปตฺถนาย สหาวตฺตนโตฯ น หิ โลภโทสานํ สห วุตฺติ อตฺถิฯ ปตฺถนามูลกตฺตาติ อิมินา อุปฏฺฐาปยโต ปทสฺส เหตุอตฺถโชตกตมาหฯ เอวนฺติ ‘‘กุทาสฺสุนามา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรนฯ อุสฺสุกฺกาเปตุนฺติ ยถา มคฺเคน ฆเฏติ, เอวํ อุสฺสุกฺกาเปตุํฯ

[308] อญฺญาณุเปกฺขาติ อญฺญาณสหิตา อุเปกฺขา อสมเปกฺขนปวตฺตาฯ เตน เตน มคฺโคธินา ตสฺส ตสฺส อปายคมนียกิเลโสธิสฺส อนวเสสโต ชิตตฺตา ขีณาสโว นิปฺปริยายโต โอธิชิโน นาม; ตทภาวโต ปุถุชฺชโน นิปฺปริยายโตว อโนธิชิโน นาม; เสโข ปน สิยา ปริยายโต โอธิชิโนติฯ ตมฺปิ นิวตฺเตนฺโต, ‘‘อขีณาสวสฺสาติ อตฺโถ’’ติ อาหฯ อายติํ วิปากํ ชินิตฺวาติ อปฺปวตฺติกรณวเสน สพฺพโส อายติํ วิปากํ ชินิตฺวา ฐิตตฺตา ขีณาสโวว นิปฺปริยายโต วิปากชิโน นาม; ตทภาวโต ปุถุชฺชโน นิปฺปริยายโต อวิปากชิโน นาม; เสโข ปน สิยา ปริยายโต วิปากชิโนติฯ ตมฺปิ นิวตฺเตนฺโต ‘‘อขีณาสวสฺเสวาติ อตฺโถ’’ติ อาหฯ อปสฺสนฺตสฺส รูปนฺติ ปาฬิโต ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํฯ ปาฬิยํ ปุพฺเพ ‘‘ปุถุชฺชนสฺสา’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘อสฺสุตวโต ปุถุชฺชนสฺสา’’ติ วจนํ อนฺธปุถุชฺชนสฺสายํ อุเปกฺขา, น กลฺยาณปุถุชฺชนสฺสาติ ทสฺสนตฺถํฯ เคหสฺสิตา อุเปกฺขา หิ ยํ กิญฺจิ อารมฺมณวตฺถุํ อเปกฺขสฺเสว, น นิรเปกฺขสฺสาติ อิฏฺเฐ, อิฏฺฐมชฺฌตฺเต วา อารมฺมเณ สิยาติ วุตฺตํ ‘‘อิฏฺฐารมฺมเณ อาปาถคเต’’ติฯ อญฺญาเณน ปน ตตฺถ อชฺฌุเปกฺขนาการปฺปตฺติ โหติฯ เตนาห ‘‘คุฬปิณฺฑเก’’ติอาทิฯ

อิฏฺเฐ อรชฺชนฺตสฺส อนิฏฺเฐ อทุสฺสนฺตสฺสาติ อิทํ เยภุยฺเยน สตฺตานํ อิฏฺเฐ รชฺชนํ, อนิฏฺเฐ ทุสฺสนนฺติ กตฺวา วุตฺตํฯ อโยนิโยมนสิกาโร หิ ตํตํอารมฺมณวเสน น กตฺถจิปิ ชวนนิยมํ กโรตีติ วุตฺตวิปรีเตปิ อารมฺมเณ รชฺชนทุสฺสนํ สมฺภวติ, ตถาปิสฺส รชฺชนทุสฺสนํ อตฺถโต ปฏิกฺขิตฺตเมวาติ ทฏฺฐพฺพํฯ อสมเปกฺขเนติ อสมํ อยุตฺตทสฺสเน อโยนิโส สมฺโมหปุพฺพกํ อารมฺมณสฺส คหเณฯ

[309] ปวตฺตนวเสนาติ อุปฺปาทนวเสน เจว พหุลีกรณวเสน จฯ

นิสฺสาย เจว อาคมฺม จาติ อาคมนฏฺฐานภูเต นิสฺสยปจฺจยภูเต จ กตฺวาฯ อติกฺกนฺตานิ นาม โหนฺติ วิกฺขมฺภเนน อุสฺสาเรนฺตา สมุสฺสาเรนฺตาฯ

โสมนสฺสภาวสามญฺญํ คเหตฺวา, ‘‘สริกฺขเกเนว สริกฺขกํ ชหาเปตฺวา’’ติ วุตฺตํฯ อิธาปิ ปหายกํ นาม ปหาตพฺพโต พลวเมว, สํกิเลสธมฺมานํ พลวภาวโต สาติสยํ ปน พลวภาวํ สนฺธาย ‘‘อิทานิ พลวตา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ พลวภาวโต โวทานธมฺมานํ อธิคมสฺส อธิปฺเปตตฺตา เหตฺถ เนกฺขมฺมสฺสิตโทมนสฺสานมฺปิ ปหานํ โชติตํฯ

อุเปกฺขาย ปหายกภาเวน อธิปฺเปตตฺตา ‘‘อุเปกฺขากถา เวทิตพฺพา’’ติ วุตฺตํฯ ฌานสฺส อลาภิโน จ ลาภิโน จ ปกิณฺณกสงฺขารสมฺมสนํ สนฺธาย, ‘‘สุทฺธสงฺขาเร จ ปาทเก กตฺวา’’ติฯ อุเปกฺขาสหคตาติ ภาวนาย ปคุณภาวํ อาคมฺม กทาจิ อชฺฌุเปกฺขนวเสนปิ หิ สมฺมสนํ โหตีติฯ ปาทกชฺฌานวเสน, สมฺมสิตธมฺมวเสน วา อาคมนวิปสฺสนาย พหุลํ โสมนสฺสสหคตภาวโต ‘‘วุฏฺฐานคามินี ปน วิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาวา’’ติ นิยเมตฺวา วุตฺตํฯ อุเปกฺขาสหคตา โหตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ จตุตฺถชฺฌานาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อรูปชฺฌานานิ สงฺคณฺหาติฯ ปุริมสทิสาวาติ ปุริมสทิสา เอว, อุเปกฺขาสหคตา วา โหติ โสมนสฺสสหคตา วาติ อตฺโถฯ อิทํ สนฺธายาติ ยํ จตุตฺถชฺฌานาทิปาทกโต เอว อุเปกฺขาสหคตํ วุฏฺฐานคามินิวิปสฺสนํ นิสฺสาย โสมนสฺสสหคตาย วิปสฺสนาย ปหานํ, อิทํ สนฺธายฯ ปหานนฺติ เจตฺถ สมติกฺกมลกฺขณํ เวทิตพฺพํฯ

เอตํ วิเสสํ วิปสฺสนาย อาวชฺชนฏฺฐานภูตํฯ วุฏฺฐานคามินิยา อาสนฺเน สมาปนฺนชฺฌานวิปสฺสนา ปาทกชฺฌานวิปสฺสนา, สมฺมสิตธมฺโมติ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธาฯ ปุคฺคลชฺฌาสโยติ ปาทกชฺฌานสฺส สมฺมสิตชฺฌานสฺส จ เภเท สติ ปฏิปชฺชนกสฺส ปุคฺคลสฺส, ‘‘อโห วต มยฺหํ ปญฺจงฺคิกํ ฌานํ ภเวยฺย จตุรงฺคิก’’นฺติอาทินา ปุพฺเพ ปวตฺตอชฺฌาสโยฯ เตสมฺปิ วาเทติ เอตฺถ ปฐมเถรวาเทฯ

อยเมว…เป.… นิยเมติ ตโต ตโต ทุติยาทิปาทกชฺฌานโต อุปฺปนฺนสฺส สงฺขารุเปกฺขาญาณสฺส ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตา วิราคภาวนาภาวโต อิตรสฺส จ อตพฺภาวโตฯ เอเตเนว หิ ปฐมเถรวาเท อปาทกปฐมชฺฌานปาทกมคฺคา ปฐมชฺฌานิกาว โหนฺติ, อิตเร จ ทุติยชฺฌานิกาทิมคฺคา ปาทกชฺฌานวิปสฺสนานิยเมหิ ตํตํฌานิกาวฯ เอวํ เสสวาเทสุปิ วิปสฺสนานิยโม ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพฯ เตนาห – ‘‘เตสมฺปิ วาเท อยเมว ปุพฺพภาเค วุฏฺฐานคามินิวิปสฺสนาว นิยเมตี’’ติฯ วุตฺตาว, ตสฺมา น อิธ วตฺตพฺพาติ อธิปฺปาโยฯ

[310] นานตฺตาทิ กามาวจราทิกุสลาทิวิภาคโต นานาวิธาฯ เตนาห ‘‘อเนกปฺปการา’’ติฯ นานตฺตสิตาติ รูปสทฺทาทินานารมฺมณนิสฺสยาฯ เอกตฺตา เอกสภาวา ชาติภูมิอาทิวิภาคาภาวโตฯ เอการมฺมณนิสฺสิตาติ เอกปฺปกาเรเนว อารมฺมเณ ปวตฺตาฯ เหฏฺฐา อญฺญาณุเปกฺขา วุตฺตา ‘‘พาลสฺส มุฬฺหสฺสา’’ติอาทินา (ม. นิ. 3.308)ฯ อุปริ ฉฬงฺคุเปกฺขา วกฺขติ ‘‘อุเปกฺขโก วิหรตี’’ติอาทินา (ม. นิ. 3.311)ฯ ทฺเว อุเปกฺขา คหิตา ทฺวินฺนมฺปิ เอกตฺตา, เอกชฺฌํ คเหตพฺพโต, นานตฺตสิตาย อุเปกฺขาย ปกาสิตภาวโต จฯ

อญฺญาณุเปกฺขา อญฺญา สทฺทาทีสุ ตตฺถ ตตฺเถว วิชฺชมานตฺตาฯ รูเปสูติ จ อิมินา น เกวลํ รูปายตนวิเสสา เอว คหิตา, อถ โข กสิณรูปานิปีติ อาห – ‘‘รูเป อุเปกฺขาภาวญฺจ อญฺญา’’ติอาทิฯ เอกตฺตสิตภาโวปิ อิธ เอกตฺตวิสยสมฺปโยควเสเนว อิจฺฉิโต, น อารมฺมณวเสน จาติ ทสฺเสตุํ, ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ เตเนวาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิฯ สมฺปยุตฺตวเสนาติ สมฺปโยควเสนฯ อากาสานญฺจายตนํ นิสฺสยตีติ อากาสานญฺจายตนนิสฺสิตา, อากาสานญฺจายตนขนฺธนิสฺสิตาฯ เสสาสุปีติ วิญฺญาณญฺจายตนนิสฺสิตาทีสุปิฯ

อรูปาวจรวิปสฺสนุเปกฺขายาติ อรูปาวจรธมฺมารมฺมณาย วิปสฺสนุเปกฺขายฯ รูปาวจรวิปสฺสนุเปกฺขนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ

ตาย กามรูปารูปเภทาย ตณฺหาย นิพฺพตฺตาติ ตมฺมยา, เตภูมกธมฺมา, เตสํ ภาโว ตมฺมยตา, ตณฺหา ยสฺส คุณสฺส วเสน อตฺเถ สทฺทนิเวโส, ตทภิธานโกติ อาห – ‘‘ตมฺมยตา นาม ตณฺหา’’ติ อตมฺมยตา ตมฺมยตาย ปฏิปกฺโขติ กตฺวาฯ วิปสฺสนุเปกฺขนฺติ, ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ที. นิ. 3.71; อ. นิ. 7.55) เอวมาคตํ สงฺขารวิจินเน มชฺฌตฺตภูตํ อุเปกฺขํฯ

[311] ยทริโยติ เอตฺถ -กาโร ปทสนฺธิกโร, อุปโยคปุถุวจเน จ -สทฺโทติ ทสฺเสนฺโต, ‘‘เย สติปฏฺฐาเน อริโย’’ติ อาหฯ กามํ ‘‘อริโย’’ติ ปทํ สพฺเพสมฺปิ ปฏิวิทฺธสจฺจานํ สาธารณํ, วกฺขมานสฺส ปน วิเสสสฺส พุทฺธาเวณิกตฺตา, ‘‘อริโย สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ วุตฺตํฯ น หิ ปจฺเจกพุทฺธาทีนํ อยมานุภาโว อตฺถิฯ ตีสุ ฐาเนสูติ น สุสฺสูสนฺตีติ วา, เอกจฺเจ น สุสฺสูสนฺติ เอกจฺเจ สุสฺสูสนฺตีติ วา, สุสฺสูสนฺตีติ วา, ปฏิปนฺนาปฏิปนฺนานํ สาวกานํ ปฏิปตฺติสงฺขาเตสุ ตีสุ สติปฏฺฐาเนสุฯ สติํ ปฏฺฐเปนฺโตติ ปฏิฆานุนเยหิ อนวสฺสุตตฺตา ตทุภยนิวตฺตตฺตา สพฺพทา สติํ อุปฏฺฐเปนฺโตฯ พุทฺธานเมว สา นิจฺจํ อุปฏฺฐิตสติตา, น อิตเรสํ อาเวณิกธมฺมภาวโตฯ อาทเรน โสตุมิจฺฉา อิธ สุสฺสูสาติ ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต, ‘‘สทฺทหิตฺวา โสตุํ น อิจฺฉนฺตี’’ติ อาหฯ น อญฺญาติ ‘‘น อญฺญายา’’ติ วตฺตพฺเพ ยการโลเปน นิทฺเทโสติ อาห ‘‘น ชานนตฺถายา’’ติฯ สตฺถุ โอวาทสฺส อนาทิยนเมว โวกฺกมนนฺติ อาห – ‘‘อติกฺกมิตฺวา…เป.… มญฺญนฺตี’’ติฯ

เคหสฺสิตโทมนสฺสวเสนาติ อิทํ อิธ ปฏิกฺขิปิตพฺพมตฺตทสฺสนปทํ ทฏฺฐพฺพํฯ เนกฺขมฺมสฺสิตโทมนสฺสสฺสปิ สตฺถุ ปสงฺควเสน ‘‘น เจว อตฺตมโน โหตี’’ติ อตฺตมนปฏิกฺเขเปน อนตฺตมนตา วุตฺตา วิย โหตีติ ตํ ปฏิเสเธนฺโต – ‘‘อปฺปตีโต โหตีติ น เอวมตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ’’ติฯ ตสฺส เสตุฆาโต หิ ตถาคตานํฯ ยทิ เอวํ กสฺมา อตฺตมนตาปฏิกฺเขโปติ อาห – ‘‘อปฺปฏิปนฺนเกสุ ปน อนตฺตมนตาการณสฺส อภาเวเนตํ วุตฺต’’นฺติฯ ปฏิฆอวสฺสเวนาติ ฉหิ ทฺวาเรหิ ปฏิฆวิสฺสนฺทเนน, ปฏิฆปฺปวตฺติยาติ อตฺโถฯ อุปฺปิลาวิโตติ น เอวมตฺโถ ทฏฺฐพฺโพ อุปฺปิลาวิตตฺตสฺส โพธิมูเล เอว ปหีนตฺตาฯ ปฏิปนฺนเกสูติ อิทํ อธิการวเสน วุตฺตํ, อปฺปฏิปนฺนเกสุปิ ตถาคตสฺส อนตฺตมนตาการณํ นตฺเถวฯ

เอตํ วุตฺตนฺติ เอตํ ‘‘อตฺตมโน เจว โหตี’’ติอาทิวจนํ วุตฺตํ สาวกานํ สมฺมาปฏิปตฺติยา สตฺถุ อนวชฺชาย จิตฺตาราธนาย สมฺภวโตฯ

[312] ทมิโตติ นิพฺพิเสวนภาวาปาทเนน สิกฺขาปิโตฯ อิริยาปถปริวตฺตนวเสน อปริวตฺติตฺวา เอกทิสาย เอว สตฺตทิสาวิธาวนสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา สาริตานํ หตฺถิทมฺมาทีนํ เอกทิสาธาวนมฺปิ อนิวตฺตนวเสเนว ยุตฺตนฺติ อาห – ‘‘อนิวตฺติตฺวา ธาวนฺโต เอกํเยว ทิสํ ธาวตี’’ติฯ กาเยน อนิวตฺติตฺวาวาติ กาเยน อปริวตฺติตฺวา เอวฯ วิโมกฺขวเสน อฏฺฐ ทิสา วิธาวติ, น ปุรตฺถิมาทิทิสาวเสนฯ เอกปฺปหาเรเนวาติ เอกนีหาเรเนว, เอกสฺมิํเยว วา ทิวเส เอกภาเคนฯ ‘‘ปหาโร’’ติ หิ ทิวสสฺส ตติโย ภาโค วุจฺจติฯ วิธาวนญฺเจตฺถ ฌานสมาปชฺชนวเสน อกลงฺกมปฺปติสาตํ ชวนจิตฺตปวตฺตนฺติ อาห ‘‘สมาปชฺชติเยวา’’ติฯ เสสํ สุวิญฺเญยฺยเมวฯ

สฬายตนวิภงฺคสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

8. อุทฺเทสวิภงฺคสุตฺตวณฺณนา

[313] เทเสตพฺพสฺส อตฺถสฺส อุทฺทิสนํ อุทฺเทโส, วิภชนํ วิภงฺโคติ อาห – ‘‘มาติกญฺจ วิภชนญฺจา’’ติ ตุเลยฺยาติอาทีนิ จตฺตาริปิ ปทานิ ปญฺญาเววจนานิฯ อถ วา ตุเลยฺยาติ ตุลนภูตาย ปญฺญาย ตสฺส ธมฺมสฺส ปคฺคหาทิวิธินา ปริตุเลยฺยฯ ตีเรยฺยาติ ตีรณภูตาย ปญฺญาย ตตฺถ ญาณกิริยาสมาปนวเสน ตีเรยฺยฯ ปริคฺคณฺเหยฺยาติ ตถาสมาปนฺโน อานิสํเส อสฺสาทอาทีนเว จ วิจิเนยฺยฯ ปริจฺฉินฺเทยฺยาติ ปริจฺฉินฺทภูเตน ญาเณน อตฺถํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ชาเนยฺยฯ อารมฺมเณสูติ รูปาทิปุถุตฺตารมฺมเณสุฯ นิกนฺติวเสนาติ นิกามนวเสน อเปกฺขาวเสนฯ ติฏฺฐมานนฺติ ปวตฺตมานํฯ โคจรชฺฌตฺเตติ ฌานารมฺมณภูเตฯ ตญฺหิ ภาวนาจิตฺเตนาภิภุยฺย อวิสฺสชฺชิตฺวา คยฺหมานํ อชฺฌตฺตํ วิย โหตีติ ‘‘โคจรชฺฌตฺต’’นฺติ วุจฺจติฯ ภาวนํ อารทฺธสฺส ภิกฺขุโน ยทิ ภาวนารมฺมเณ นิกนฺติ อุปฺปชฺเชยฺย, ตาย นิกนฺติยา อุปริ ภาวนํ วิสฺสชฺเชตฺวา จิตฺตสํโกจวเสน สณฺฐิตํ นาม, ตทภาเวน อสณฺฐิตํ นาม โหตีติ, ‘‘อชฺฌตฺตํ อสณฺฐิต’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต, ‘‘โคจรชฺฌตฺเต นิกนฺติวเสน อสณฺฐิต’’นฺติ อาหฯ ตถา หิ วกฺขติ – ‘‘นิกนฺติวเสน หิ อติฏฺฐมานํ หานภาคิยํ น โหติ, วิเสสภาคิยเมว โหตี’’ติฯ อคฺคเหตฺวาติ รูปาทีสุ กิญฺจิ ตณฺหาทิคฺคาหวเสน อคฺคเหตฺวาฯ ตถา อคฺคหเณเนว หิ ตณฺหาปริตาสาทิวเสน น ปริตสฺเสยฺยฯ อวเสสสฺส จ ทุกฺขสฺสาติ โสกาทิทุกฺขสฺสฯ อวเสสสฺส จ ทุกฺขสฺสาติ วา ชาติชรามรณสีเสน วิปากทุกฺขสฺส คหิตตฺตา กิเลสทุกฺขสฺส เจว สํสารทุกฺขสฺส จาติ อตฺโถฯ

[316] รูปเมว กิเลสุปฺปตฺติยา การณภาวโต รูปนิมิตฺตํฯ ราคาทิวเสน ตํ อนุธาวตีติ รูปนิมิตฺตานุสารี

[318] นิกนฺติวเสน อสณฺฐิตนฺติ อเปกฺขาวเสน สณฺฐิตํ นิกนฺติํ ปหาย ปวตฺตมานํ อุปริ วิเสสาวหโตติฯ เตนาห ‘‘นิกนฺติวเสน หี’’ติอาทิฯ

[320] อคฺคเหตฺวา อปริตสฺสนาติ ปญฺจุปาทานกฺขนฺเธ, ‘‘เอตํ มมา’’ติอาทินา ตณฺหาทิคฺคาหวเสน อุปาทิยิตฺวา ตณฺหาปริตาสาทิวเสน ปริตสฺสนา, วุตฺตวิปริยาเยน อคฺคเหตฺวา อปริตสฺสนา เวทิตพฺพาฯ กถํ ปเนสา อนุปาทาปริตสฺสนา โหตีติ มหาเถรสฺส อธิปฺปายํ วิวริตุํ โจทนํ สมุฏฺฐเปติ? อุปาทาตพฺพสฺส อภาวโตติ ตสฺส อนุปาทาปริตสฺสนาภาเว การณวจนํฯ ยทิ หีติอาทิ ตสฺส สมตฺถนํฯ อุปาทาปริตสฺสนาว อสฺส ตถา อุปาทาตพฺพสฺส ตเถว อุปาทินฺนตฺตาฯ เอวนฺติ นิจฺจาทิอากาเรนฯ อุปาทินฺนาปีติ คหิตปรามฏฺฐาปิฯ อนุปาทินฺนาว โหนฺติ อโยนิโส คหิตตฺตา, วิญฺญูสุ นิสฺสาย ชานิตพฺพตฺตา จฯ ทิฏฺฐิวเสนาติ มิจฺฉาทิฏฺฐิยา คหณาการวเสน, ตสฺส ปน อยถาภูตคาหิตาย ปรมตฺถโต จ อภาวโตฯ อตฺถโตติ ปรมตฺถโตฯ อนุปาทาปริตสฺสนาเยว นาม โหติ อุปาทาตพฺพาการสฺส อภาเวน ตํ อนุปาทิยิตฺวา เอว ปริตสฺสนาติ กตฺวาฯ

ปริวตฺตตีติ น ตเทว รูปํ อญฺญถา ปวตฺตํ ปริวตฺตติ, อถ โข ปกติชหเนน สภาววิคเมน นสฺสติ ภิชฺชติฯ วิปริณตนฺติ อญฺญถตฺตํ คตํ วินฏฺฐํฯ กมฺมวิญฺญาณนฺติ อภิสงฺขารวิญฺญาณํฯ ‘‘รูปํ อตฺตา’’ติอาทิ มิจฺฉาคาหวเสน วิญฺญาณสฺส รูปเภเทน วุตฺตสฺส เภทานุปริวตฺติ โหติ