เมนู

[219] ปญฺจกามคุณนิสฺสิตสีลานนฺติ อกุสลานํฯ เคหสฺสิตสีลานนฺติ วา วฏฺฏสนฺนิสฺสิตสีลานํฯ

[222] เอส นโย สพฺพตฺถาติ, ‘‘มชฺฌิโม, ทหโร’’ติ อาคเตสุ อุปมาวาเรสุ, ‘‘เถโร’’ติอาทินา อาคเตสุ อุปเมยฺยวาเรสูติ ปญฺจสุ สํกิเลสปกฺขิเยสุ วาเรสุ เอส ยถาวุตฺโตว นโยติ เวทิตพฺโพฯ เสสํ สุวิญฺเญยฺยเมวฯ

ทนฺตภูมิสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

6. ภูมิชสุตฺตวณฺณนา

[223] อาสญฺเจปิ กริตฺวาติ, ‘‘อิมินาหํ พฺรหฺมจริเยน เทโว วา ภเวยฺยํ เทวญฺญตโร วา, ทุกฺขโต วา มุจฺเจยฺย’’นฺติ ปตฺถนํ กตฺวา เจปิ จรนฺติ, อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย ตณฺหาย พฺรหฺมจริยสฺส วิทูสิตตฺตาติ อธิปฺปาโยฯ อนาสญฺเจปิ กริตฺวาติ วุตฺตนเยน ปตฺถนํ อกตฺวาฯ อภพฺพา ผลสฺส อธิคมาย อนิยมิตภาวโตฯ ปณิธานวเสน หิ ปุญฺญผลํ นิยตํ นาม โหติ, ตทภาวโต กตํ ปุญฺญํ น ลภตีติ อธิปฺปาโยฯ ตติยปกฺเข อุภยฏฺฐาเนหิ วุตฺตํ, จตุตฺถปกฺโข สมฺมาวตาโร อิติ จตุโกฏิโก ปญฺโห ชาลวเสน อาหโฏ, ตตฺถ อาสา นาม ปตฺถนา, มิจฺฉาคาหสฺมิํ สติ น วิปจฺจติ, สมฺมาคาหสฺมิํ สติ วิปจฺจติ, อุภยถาปิ อุภยาเปกฺขานาม, โย มิจฺฉตฺตธมฺเม ปุรกฺขตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรติ, ตสฺส ยถาธิปฺปายผลํ สมิชฺฌตีติ น วตฺตพฺพํ อโยนิโส พฺรหฺมจริยสฺส จิณฺณตฺตา; โย ปน สมฺมตฺตํ ปุรกฺขตฺวา พฺรหฺมจริยํ จรติ, ตสฺส ยถาธิปฺปายํ พฺรหฺมจริยผลํ น สมิชฺฌตีติ น วตฺตพฺพํ โยนิโส พฺรหฺมจริยสฺส จิณฺณตฺตาฯ เตน วุตฺตํ – ‘‘อาสญฺเจปิ กริตฺวา อโยนิโส พฺรหฺมจริยํ จรนฺตี’’ติอาทิฯ เสสํ สุวิญฺเญยฺยเมวฯ

ภูมิชสุตฺตวณฺณนาย ลีนตฺถปฺปกาสนา สมตฺตาฯ

7. อนุรุทฺธสุตฺตวณฺณนา

[230] อุปสงฺกมิตฺวา เอวมาหํสูติ วุตฺตํ อุปสงฺกมนการณํ ทสฺเสนฺโต, ‘‘ตสฺส อุปาสกสฺส อผาสุกกาโล อโหสี’’ติ อาหฯ อวิราธิตนฺติ อวิรชฺฌนกํฯ ยทิ วา เต ธมฺมา นานตฺถา, ยทิ วา เอกตฺถา, ยํ ตตฺถ อวิรชฺฌนกํ, ตํ ตํเยว ปฏิภาตูติ โยชนาฯ ฌานเมวาติ อปฺปมาณชฺฌานเมว, ‘‘เจโตวิมุตฺตี’’ติ ปน วุตฺตตฺตา จิตฺเตกคฺคตาเยว เอวํ วุจฺจตีติ อุปาสกสฺส อธิปฺปาโยฯ

[231] ยาวตา มชฺฌนฺหิเก กาเล ฉายา ผรติ, นิวาเต ปณฺณานิ ปตนฺติ, เอตฺตาวตา ‘‘รุกฺขมูล’’นฺติ วุจฺจตีติ เอวํ วุตฺตํ เอกรุกฺขมูลปฺปมาณฏฺฐานํฯ กสิณนิมิตฺเตน โอตฺถริตฺวาติ กสิณารมฺมณํ ฌานํ สมาปชฺชนฺโต ตสฺมิํ กสิณ…เป.… วิหรตีติ วุตฺโตฯ อาโภโค นตฺถิ ฌานกฺขเณฯ กามํ สมาปตฺติกฺขเณ อาโภโค นตฺถิ ตโต ปน ปุพฺเพ วา สิยา โส อาโภโค, ตมฺปิ สนฺธาย มหคฺคตนฺติ เกจิฯ อิทานิ ตาสํ เจโตวิมุตฺตีนํ สติปิ เกนจิ วิเสเสน อเภเท วิสยาทิโต ลพฺภมานเภทํ ทสฺเสตุํ, ‘‘เอตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํฯ นิมิตฺตํ น วฑฺฒติ วฑฺเฒตพฺพสฺส นิมิตฺตสฺเสว อภาวโตฯ ปถวีกสิณาทีนํ วิย อากาสภาวนาย อุคฺฆาฏนํ น ชายติฯ ตานิ ฌานานีติ พฺรหฺมวิหารชฺฌานานิฯ จุทฺทสวิเธน ปริทมนาภาวโต อภิญฺญานํ ปาทกานิ น โหนฺติฯ นิมิตฺตุคฺฆาฏสฺเสว อภาวโต อรูปชฺฌานานํ อนธิฏฺฐานตาย นิโรธสฺส ปาทกานิ น โหนฺตีติฯ กมฺมวฏฺฏภาเวน กิเลสวฏฺฏวิปากวฏฺฏานํ ติณฺณํ วฏฺฏานํ ปจฺจยภาโว วฏฺฏปาทกตาฯ อุปปชฺชนวเสเนว ตํ ตํ ภวํ โอกฺกมติ เอเตหีติ ภโวกฺกมนานิฯ ทุติยนยสฺส วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ อุคฺฆาฏนสฺส ลพฺภนโต อรูปชฺฌาโนปริ สมติกฺกโม โหตีติ อยเมว วิเสโสฯ เอวนฺติ ยถาวุตฺเตน นิมิตฺตาวฑฺฒนนิมิตฺตวฑฺฒนาทิปฺปกาเรนฯ นานตฺถาติ นานาสภาวาฯ เอวนฺติ อปฺปมาณมหคฺคตสทฺทวจนียตาย นานาพฺยญฺชนาฯ กามญฺเจตฺถ อปฺปมาณสมาปตฺติโตปิ นีหริตฺวา วกฺขมานภวูปปตฺติการณํ ทสฺเสตุํ สกฺกา, อฏฺฐกถายํ ปน กสิณฌานโตว นีหริตฺวา โยชนา กตาติ ตถา วุตฺตํฯ อถ วา มหคฺคตคหเณเนตฺถ อปฺปมาณาติ วุตฺตพฺรหฺมวิหารานมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ ตสฺสา สมญฺญาย อุภเยสมฺปิ สาธารณภาวโตฯ