เมนู

2. กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘โอติณฺโณ’’ติ อิมินาสฺส เสวนาธิปฺปายตา ทสฺสิตาฯ เตเนว ‘‘กายสํสคฺคราคสมงฺคิสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ วุตฺตํฯ ‘‘วิปริณเตน…เป.… สทฺธิ’’นฺติ อิมินาสฺส วายาโม ทสฺสิโตฯ ‘‘สทฺธิ’’นฺติ หิ ปทํ สํโยคํ ทีเปติ, โส จ สํโยโค สมาคโมฯ เกน จิตฺเตน? วิปริณเตน จิตฺเตน, น ปตฺตปฺปฏิคฺคหณาธิปฺปายาทินาติ อธิปฺปาโยฯ ‘‘กายสํสคฺคํ สมาปชฺเชยฺยา’’ติ อิมินาสฺส วายมโต ผสฺสปฺปฏิวิชานนา ทสฺสิตา โหติฯ วายมิตฺวา ผสฺสํ ปฏิวิชานนฺโต หิ สมาปชฺชติ นามฯ เอวมสฺส ติวงฺคสมฺปตฺติ ทสฺสิตา โหติฯ อถ วา โอติณฺโณ วิปริณเตน จิตฺเตน ยกฺขาทินา สตฺโต วิยฯ อุปโยคตฺเถ วา เอตํ กรณวจนํ, โอติณฺโณ วิปริณตํ จิตฺตํ กูปาทิํ วิย สตฺโตฯ อถ วา ‘‘ราคโต อุตฺติณฺโณ ภวิสฺสามี’’ติ ภิกฺขุภาวํ อุปคโตปิ โย ปน ภิกฺขุ ตโต อุตฺติณฺณาธิปฺปายโต วิปริณเตน จิตฺเตน เหตุภูเตน ตเมว ราคํ โอติณฺโณฯ มาตุคาเมน อตฺตโน สมีปํ วา อาคเตน, อตฺตนา อุปคเตน วาฯ เอเตน มาตุคามสฺส สารตฺตตา วา โหตุ, วิรตฺตตา วา, สา อิธ อปฺปมาณํฯ

หตฺถคฺคาหํ วาติ เอตฺถ หตฺเถน สพฺโพปิ อุปาทินฺนโก กาโย สงฺคหิโต, น ภินฺนสนฺตาโน ตปฺปฏิพทฺโธ วตฺถาลงฺการาทิฯ เวณิคฺคหเณน อนุปาทินฺนโก อภินฺนสนฺตาโน เกสโลมนขคฺคทนฺตคฺคาทิโก กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺฐาโน คหิโตติ เวทิตพฺพํฯ เตเนวาห ‘‘อนฺตมโส โลเมน โลมํ ผุสนฺตสฺสาปี’’ติฯ เตน อญฺญตรสฺส วา…เป.… ปรามสนนฺติ เอตฺถ อนุปาทินฺนกานมฺปิ เสสโลมาทีนํ องฺคภาโว เวทิตพฺโพฯ เอวํ สนฺเต ‘‘ผสฺสํ ปฏิชานนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส’’ติ อิมินา วิรุชฺฌตีติ เจ? น, ตทตฺถชานนโตฯ ผุฏฺฐภาวํ ปฏิวิชานนฺโตปิ ผสฺสํ ปฏิชานาติ นาม, น กายวิญฺญาณุปฺปตฺติยา เอวฯ อเนกนฺติกญฺเหตฺถ กายวิญฺญาณํฯ ตสฺมา เอว อิธ ผสฺสปฺปฏิวิชานนํ องฺคนฺเตฺวว น วุตฺตํฯ ตสฺมิญฺหิ วุตฺเต ฐานเมตํ วิชฺชติ ‘‘น จ เม โลมฆฏฺฏเนน กายวิญฺญาณํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมิํ ‘น ผสฺสํ ปฏิชานามี’ติ อนาปนฺนสญฺญี สิยา’’ติฯ ‘‘เวณี นาม กหาปณมาลาทิสมฺปยุตฺตํ, ตตฺถ ‘เวณิํ คณฺหิสฺสามี’ติ กหาปณมาลาทิํ เอว คณฺหาติ, น โลมํ, นตฺถิ สงฺฆาทิเสโส’’ติ วทนฺติฯ วีมํสิตพฺพํฯ

กายสํสคฺคสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

3. ทุฏฺฐุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา

‘‘กทา เต มาตา ปสีทิสฺสตี’’ติ อายาจนํ ทุฏฺฐุลฺลวาจาย สิขาปตฺตลกฺขณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น เมถุนุปสํหิเตเยว ทุฏฺฐุลฺลวาจาติ ทสฺสนตฺถํฯ ‘‘อุภโตพฺยญฺชนกาสี’’ติ วจนํ ปน ปุริสนิมิตฺเตน อสงฺฆาทิเสสวตฺถุนา มิสฺสวจนํ, ปุริสอุภโตพฺยญฺชนกสฺส จ อิตฺถินิมิตฺตํ ปฏิจฺฉนฺนํ, อิตรํ ปากฏํฯ ยทิ ตมฺปิ ชเนติ, กถํ ‘อนิมิตฺตาสี’ติอาทีนิ ปทานิ น สงฺฆาทิเสสํ ชเนนฺตี’’ติ เอเก, ตํ น ยุตฺตํ ปุริสสฺสาปิ นิมิตฺตาธิวจนตฺตาฯ ‘‘เมถุนุปสํหิตาหิ สงฺฆาทิเสโส’’ติ (ปารา. 248) มาติกายํ ลกฺขณสฺส วุตฺตตฺตา จ เมถุนุปสํหิตาหิ โอภาสเน ปฏิวิชานนฺติยา สงฺฆาทิเสโส, อปฺปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, อิตเรหิ โอภาสเน ปฏิวิชานนฺติยา ถุลฺลจฺจยํ, อปฺปฏิวิชานนฺติยา ทุกฺกฏนฺติ เอเก, วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํฯ เอตฺถาห – ‘‘สิขรณี’’ติอาทีหิ อกฺโกสนฺตสฺส ปฏิฆจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, กสฺมา ‘‘ติเวทน’’นฺติ อวตฺวา ‘‘ทฺวิเวทน’’นฺติ วุตฺตนฺติ? ราควเสน อยํ อาปตฺติ, น ปฏิฆวเสนฯ ตสฺมา ราควเสเนว ปวตฺโต อกฺโกโส อิธ อธิปฺเปโตฯ ตสฺมา ‘‘ทฺวิเวทน’’นฺติ วจนํ สุวุตฺตเมวฯ

ทุฏฺฐุลฺลวาจาสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. อตฺตกามสิกฺขาปทวณฺณนา

ทุฏฺฐุลฺโลภาสเน วุตฺตปฺปการายาติ ทุฏฺฐุลฺลาทุฏฺฐุลฺลชานนสมตฺถายฯ ปรสฺส ภิกฺขุโน อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณภณเน ทุกฺกฏํ, ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, ตสฺส อคฺคทานํ เมถุนํ ธมฺมํ เทหี’’ติ ปริยายวจเนปิ ทุกฺกฏํ, ‘‘อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาเสยฺย, ยา มาทิสํ สีลวนฺต’’นฺติ จ วุตฺตตฺตาติ เอเกฯ ปญฺจสุ องฺเคสุ สพฺภาวา สงฺฆาทิเสโสวาติ เอเก, วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํฯ ‘‘อิมสฺมิํ สิกฺขาปททฺวเย กายสํสคฺเค วิย ยกฺขิเปตีสุปิ ทุฏฺฐุลฺลตฺตกอามวจเน ถุลฺลจฺจยนฺติ วทนฺติฯ อฏฺฐกถาสุ ปน นาคต’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก 295) ลิขิตํฯ อุภโตพฺยญฺชนโก ปน ปณฺฑกคติโกวฯ

อตฺตกามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ