เมนู

อาณตฺติเก ปน สตฺตหิปิ เจตนาหิ สห วจีวิญฺญตฺติสมฺภวโต สตฺต สตฺต สทฺทา เอกโต หุตฺวา เอเกกกฺขรภาวํ คนฺตฺวา ยตฺตเกหิ อกฺขเรหิ อตฺตโน อธิปฺปายํ วิญฺญาเปนฺติ, ตทวสานกฺขรสมุฏฺฐาปิกาย สตฺตมเจตนาย สหชาตวจีวิญฺญตฺติยา อาณตฺติกตา เวทิตพฺพาฯ

ตติยปาราชิกวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

4. จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา

อิเธว สงฺคหนฺติ ‘‘อิติ ชานามิ, อิติ ปสฺสามี’’ติ ปเท กถนฺติ เจ, ‘‘อิติ ชานามี’’ติอาทิมาห ฯ เกวลํ ‘‘ปาปิจฺฉตายา’’ติ (กงฺขา. อฏฺฐ. จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา) วจนโต มนฺทตฺตา โมมูหตฺตา สมุทาจรนฺตสฺส อนาปตฺตีติ ทีปิตํฯ ‘‘อตีตกาเล โสตาปนฺโนมฺหี’’ติ วทนฺโต ปริยาเยน วทติ, ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส ภิกฺขุ อรหา’’ติอาทีสุ (ปริ. 165) วิย สิกฺขาปเทปิ ‘‘อิติ ชานามี’’ติ (ปารา. 195, 197) ปจฺจุปฺปนฺนเมว วุตฺตํฯ

จตุตฺถปาราชิกวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

มาตุฆาตกปิตุฆาตกอรหนฺตฆาตกา ตติยปาราชิกํ อาปนฺนา, ภิกฺขุนิทูสโก, ลมฺพีอาทโย จ จตฺตาโร ปฐมปาราชิกํ อาปนฺนา เอวาติ กตฺวา กุโต จตุวีสตีติ เจ? น, อธิปฺปายาชานนโตฯ มาตุฆาตกาทโย หิ จตฺตาโร อิธานุปสมฺปนฺนา เอว อธิปฺเปตา, ลมฺพีอาทโย จตฺตาโร กิญฺจาปิ ปฐมปาราชิเกน สงฺคหิตา, ยสฺมา ปน เอเกน ปริยาเยน เมถุนธมฺมํ ปฏิเสวิโน โหนฺติ, ตสฺมา วิสุํ วุตฺตาฯ น ลภติ ภิกฺขูหีติ เอตฺถ ‘‘อุโปสถาทิเภทํ สํวาส’’นฺติ เอตฺตกํ วุตฺตํฯ วินยฏฺฐกถายํ ‘‘อุโปสถปฺปวารณาปาติโมกฺขุทฺเทสสงฺฆกมฺมปฺปเภท’’นฺติ วุตฺตํฯ ปาฬิยํ ‘‘สํวาโส นาม เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส สมสิกฺขตา’’ติ (ปารา. 55, 92, 172, 198) วุตฺตํฯ ติวิเธนาปิ สงฺฆกมฺมํ กาตุํ น วฏฺฏตีติ ปฏิกฺขิตฺตํฯ ‘‘น, ภิกฺขเว, คหฏฺเฐน นิสินฺนปริสาย ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิตพฺพ’’นฺติอาทิ (มหาว. 154) ปาติโมกฺขปฺปวารณาสุ เอว อาคตํ, อญฺเญสุ จ เอวรูเปสุ ฐาเนสุ เสสํ กมฺมํ กาตุํ นตฺถิ ปฏิกฺเขโปฯ อาจริยาปิ ‘‘เสสํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, นตฺถิ อาปตฺตี’’ติ วทนฺติฯ

‘‘อนฺติมวตฺถุ อชฺฌาปนฺนํ อมูลเกน ปาราชิเกน โจเทนฺตสฺส สงฺฆาทิเสโส, สงฺฆาทิเสเสน โจเทนฺตสฺส ปาจิตฺติยนฺติ ภิกฺขุโน วิย วุตฺตํ, น อนุปสมฺปนฺนสฺส วิย ทุกฺกฏํฯ ตสฺมา เตน สหเสยฺยา, ตสฺส ปฏิคฺคหณญฺจ ภิกฺขุสฺส วฏฺฏตีติ อาจริยา วทนฺตี’’ติ ลิขิตํฯ ‘‘ยถา ปุเร ตถา ปจฺฉาติ ‘เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส สมสิกฺขตา’ติ เอวํ วุตฺตสํวาสสฺส อภพฺพตามตฺตํ สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํฯ

อิทานิ จตุนฺนมฺปิ สาธารณํ ปกิณฺณกํ – เมถุนธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต อตฺถิ โกจิ ปาราชิโก โหติ อสํวาโส, อตฺถิ โกจิ น ปาราชิโก โหติ อสํวาโส, อตฺถิ โกจิ น ปาราชิโก สํวาโส ทุกฺกฏวตฺถุสฺมิํ วา ถุลฺลจฺจยวตฺถุสฺมิํ วา ปฏิเสวนฺโต, อตฺถิ โกจิ น ปาราชิโก ปกฺขปณฺฑโก อปณฺฑกปกฺเข อุปสมฺปนฺโน ปณฺฑกปกฺเข เมถุนธมฺมํ ปฏิเสวนฺโตฯ โส อาปตฺติํ นาปชฺชตีติ น ปาราชิโก นามฯ น หิ อภิกฺขุสฺส อาปตฺติ นาม อตฺถิฯ โส อนาปตฺติกตฺตา อปณฺฑกปกฺเข อาคโต กิํ อสํวาโส โหติ, น โหตีติ? โหติฯ ‘‘อภพฺโพ เตน สรีรพนฺธเนนา’’ติ (มหาว. 129) หิ วุตฺตํฯ ‘‘โย ปน ภิกฺขุ ภิกฺขูนํ สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน…เป.… อสํวาโส’’ติ (ปารา. 44) วุตฺตตฺตา โย ภิกฺขุภาเวน เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวติ, โส เอว อภพฺโพฯ นายํ อปาราชิกตฺตาติ เจ? น, ‘‘พฺยตฺเตน ภิกฺขุนา ปฏิพเลน สงฺโฆ ญาเปตพฺโพ’’ติ (มหาว. 126) วุตฺตฏฺฐาเน ยถา อภิกฺขุนา กมฺมวาจาย สาวิตายปิ กมฺมํ รุหติ กมฺมวิปตฺติยา อสมฺภวโต, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺฐพฺพํฯ ตตฺรายํ วิเสโส – อุปสมฺปนฺนปุพฺโพ เอวํ เจ กมฺมวาจํ สาเวติ, สงฺโฆ จ ตสฺมิํ อุปสมฺปนฺนสญฺญี เอว เจ, กมฺมํ รุหติ, นาญฺญถาติ โน ขนฺตีติ อาจริโยฯ

คหฏฺโฐ วา ติตฺถิโย วา ปณฺฑโก วา กมฺมวาจํ สาเวติ, สงฺเฆน กมฺมวาจา น วุตฺตา โหติฯ ‘‘สงฺโฆ อุปสมฺปาเทยฺย สงฺโฆ อุปสมฺปาเทติ, อุปสมฺปนฺโน สงฺเฆนา’’ติ (มหาว. 127) หิ วจนโต สงฺเฆน กมฺมวาจาย วตฺตพฺพตาย สงฺฆปริยาปนฺเนน, สงฺฆปริยาปนฺนสญฺญิเตน วา เอเกน วุตฺตาย สงฺเฆน วุตฺตา โหตีติ เวทิตพฺโพ, น คหฏฺฐติตฺถิยปณฺฑกาทีสุ อญฺญตเรนฯ อยเมว สพฺพกมฺเมสุ ยุตฺติ ทฏฺฐพฺพาฯ

ตถา อตฺถิ เมถุนํ ธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต โกจิ นาเสตพฺโพ, ‘‘โย ภิกฺขุนิทูสโก, อยํ นาเสตพฺโพ’’ติ (มหาว. 114-115 อตฺถโต สมานํ) วุตฺตตฺตา เตน เอว โส อนุปสมฺปนฺโนว สหเสยฺยาปตฺติํ วา อญฺญํ วา ตาทิสํ ชเนติ, ตสฺส โอมสเน จ ทุกฺกฏํ โหติฯ อภิกฺขุนิยา เมถุนธมฺมํ ปฏิเสวนฺโต น นาเสตพฺโพ, ‘‘อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโน, ภิกฺขเว, อนุปสมฺปนฺโน น อุปสมฺปาเทตพฺโพ’’ติ ปาฬิยา อภาวโต, เตเนว โส อุปสมฺปนฺนสงฺขํ คจฺฉติ, สหเสยฺยาปตฺติอาทิํ น ชเนติ, เกวลํ อสํวาโสติ กตฺวา คณปูรโก น โหติฯ เอกกมฺมเอกุทฺเทโส หิ สํวาโสติ วุตฺโต, สมสิกฺขตาปิ สํวาโสติ กตฺวา โส เตน สทฺธิํ นตฺถีติฯ ปทโสธมฺมาปตฺติํ ปน ชเนตีติ การณจฺฉายา ทิสฺสตีติฯ ยถา ภิกฺขุนิยา สทฺธิํ ภิกฺขุสงฺฆสฺส เอกกมฺมาทิโน สํวาสสฺส อภาวา ภิกฺขุนี อสํวาสา ภิกฺขุสฺส, ตถา ภิกฺขุ จ ภิกฺขุนิยา, ปทโสธมฺมาปตฺติํ ปน น ชเนติฯ ตถา อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺโนปิ เอเกจฺโจ ‘‘โย นาเสตพฺโพติ วุตฺโต’’ติ อิมินา นิทสฺสเนน สการณจฺฉายา อชฺฌุเปกฺขิตา โหตีติ น คหณํ คจฺฉติฯ อปิจ ‘‘อุโภ นาเสตพฺพา, ทูสโก นาเสตพฺโพ’’ติ (ปารา. 66) วจนโต, ‘‘เมตฺติยํ ภิกฺขุนิํ นาเสถา’’ติ (ปารา. 384) วจนโต จ โย สงฺฆมชฺฌํ ปวิสิตฺวา อนุวิชฺชเกน อนุวิชฺชิยมาโน ปราชิโต, โสปิ อนุปสมฺปนฺโนว, น โอมสวาทปาจิตฺติยํ ชเนตีติ เวทิตพฺโพฯ

อปิเจตฺถ สิกฺขาปจฺจกฺขาตกจตุกฺกํ เวทิตพฺพํฯ อตฺถิ หิ ปุคฺคโล สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก น สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน, อตฺถิ ปุคฺคโล น สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน, อตฺถิ ปุคฺคโล สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก เจว สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโน จ, อตฺถิ ปุคฺคโล เนว สิกฺขาปจฺจกฺขาตโก น สิกฺขาสาชีวสมาปนฺโนฯ ตตฺถ ตติโย ภิกฺขุนี สิกฺขาปจฺจกฺขาตกา เวทิตพฺพาฯ สา หิ ยาว น ลิงฺคํ ปริจฺจชติ, กาสาเวสุ สอุสฺสาหาว สมานา สามญฺญา จวิตุกามา สิกฺขํ ปจฺจกฺขนฺตีปิ ภิกฺขุนี เอว สิกฺขาสาชีวสมาปนฺนาวฯ วุตฺตญฺหิ ภควตา ‘‘นตฺถิ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนิยา สิกฺขาปจฺจกฺขาน’’นฺติฯ กทา ปน สา อภิกฺขุนี โหตีติ? ยทา สา วิพฺภนฺตาติ สงฺขํ คจฺฉติฯ วุตฺตญฺหิ ภควตา ‘‘ยเทว สา วิพฺภนฺตา, ตเทว สา อภิกฺขุนี’’ติ (จูฬว. 434)ฯ

กิตฺตาวตา ปน วิพฺภนฺตา โหตีติ? สามญฺญา จวิตุกามา กาสาเวสุ อนาลยา กาสาวํ วา อปเนติ, นคฺคา วา คจฺฉติ, ติณปณฺณาทินา วา ปฏิจฺฉาเทตฺวา คจฺฉติ, กาสาวํเยว วา คิหินิวาสนากาเรน นิวาเสติ, โอทาตํ วา วตฺถํ นิวาเสติ, ลิงฺเคเนว วา สทฺธิํ ติตฺถิเยสุ ปวิสิตฺวา เกสลุญฺจนาทิวตํ สมาทิยติ, ติตฺถิยลิงฺคํ วา สมาทิยติ, ตทา วิพฺภนฺตา นาม โหติฯ ตตฺถ ยา สลิงฺเค ฐิตาว ติตฺถิยวตํ สมาทิยติ, สา ติตฺถิยปกฺกนฺตภิกฺขุ วิย ปจฺฉา ปพฺพชฺชมฺปิ น ลภติฯ เสสา ปพฺพชฺชเมว ลภติ, น อุปสมฺปทํฯ ปาฬิยํ กิญฺจาปิ ‘‘ยา, ภิกฺขเว, ภิกฺขุนี สกาวาสา ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา, สา อาคตา น อุปสมฺปาเทตพฺพา’’ติ (จูฬว. 434) วจนโต ยา ปฐมํ วิพฺภมิตฺวา ปจฺฉา ติตฺถายตนํ สงฺกนฺตา, สา อาคตา อุปสมฺปาเทตพฺพาติ อนุญฺญาตํ วิย ทิสฺสติฯ สงฺคีติอาจริเยหิ ปน ‘‘จตุวีสติ ปาราชิกานี’’ติ (ปารา. อฏฺฐ. 2.233) วุตฺตตฺตา น ปุน สา อุปสมฺปาเทตพฺพาฯ ตสฺมา เอว สิกฺขาปจฺจกฺขานํ นานุญฺญาตํ ภควตาฯ อนฺติมวตฺถุํ อชฺฌาปนฺนา ปน ภิกฺขุนี เอวฯ ปกฺขปณฺฑกีปิ ภิกฺขุนี เอวฯ อิมํ นยํ จตูสุปิ โยเชตฺวา ยถารหํ กเถตพฺพํฯ

ปาราชิกวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

สงฺฆาทิเสสกณฺฑํ

1. สุกฺกวิสฺสฏฺฐิสิกฺขาปทวณฺณนา

อญฺญตฺร สุปินนฺตาติ สฺวายํ ทุพฺพลวตฺถุกตฺตา เจตนาย ปฏิสนฺธิํ อากฑฺฒิตุํ อสมตฺถา, สุปิเน อุปฏฺฐิตํ นิมิตฺตญฺหิ ทุพฺพลํฯ ปวตฺเต ปน อญฺเญหิ กุสลากุสเลหิ อุปตฺถมฺภิตา วิปากํ เทติฯ กิญฺจาปิ วิปากํ เทติ, อถ โข อวิสเย อุปฺปนฺนตฺตา อพฺโพหาริกาว สุปินนฺตเจตนาติ ลิขิตํฯ ยํ ปเนตฺถ ‘‘สุปิเน อุปฏฺฐิตํ นิมิตฺตญฺหิ ทุพฺพล’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ อเนกนฺตํ, น จ อารมฺมณทุพฺพลตาย จิตฺตปฺปวตฺติ ทุพฺพลา อตีตานาคตารมฺมณาย, ปญฺญตฺตารมฺมณาย วา อทุพฺพลตฺตาฯ ตสฺมา ทุพฺพลวตฺถุกตฺตาติ ทุพฺพลหทยวตฺถุกตฺตาติ โน ตกฺโกติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก 236-237) อาจริโยฯ อวตฺถุกตาย ทุพฺพลภาโว ยุชฺชตีติ เจ? น, อวตฺถุกาย ภาวนาปภวาย อติเรกพลวสมฺภวโตฯ ภาวนาพลสมปฺปิตญฺหิ จิตฺตํ อรูปมฺปิ สมานํ อติภารมฺปิ กรชกายํ คเหตฺวา เอกจิตฺตกฺขเณเนว พฺรหฺมโลกมฺปิ ปาเปตฺวา ฐเปติ, ตปฺปฏิภาคํ อนปฺปิตมฺปิ กามาวจรจิตฺตํ กรชกายํ อากาเส ลงฺฆนสมตฺถํ กโรติฯ กิํ ปเนตฺถ ตํ อนุมานกรณํ? เยน จิตฺตสฺเสว อานุภาโวติ ปญฺญาเยยฺย จิตฺตานุภาเวน ฐปนลงฺฆนาทิกิริยาวิเสสนิพฺพตฺติทสฺสนโตฯ ปกติจิตฺตสมุฏฺฐานรูปํ วิย อสํสฏฺฐตฺตา, นิกฺขมนตฺตา จ วตฺถิสีสํ, กฏิ, กาโยติ ติธา สุกฺกสฺส ฐานํ ปกปฺเปนฺติ อาจริยาฯ สปฺปวิสํ วิย ตํ ทฏฺฐพฺพํ, น จ วิเส ฐานนิยโม, โกธวเสน ปสฺสนฺตสฺส โหติฯ เอวมสฺส น ฐานนิยโม, ราควเสน อุปกฺกมนฺตสฺส โหตีติ โน ตกฺโกติ อาจริโยฯ

‘‘ทกโสตํ อโนติณฺเณปี’’ติ อิทํ ‘‘โอติณฺณมตฺเต’’ติ อิมินา วิรุชฺฌตีติ เจ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ฐานโต ปน จุต’’นฺติอาทิมาหฯ