เมนู

4. อตฺตกามสิกฺขาปทวณฺณนา

อตฺตกามปาริจริยาวเสนาติ อตฺตกามปาริจริยาย ราควเสนฯ อิธาปิ ทุฏฺฐุลฺลาทุฏฺฐุลฺลชานนสมตฺถาว อิตฺถี อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ทุฏฺฐุลฺโลภาเสน วุตฺตปฺปการาย อิตฺถิยา’’ติฯ สมีเปติ สวนูปจาเรฯ ‘‘ฐตฺวา’’ติ ปาฐเสโสฯ อตฺตกามปาริจริยาติ กามียตีติ กาโม, เมถุนธมฺโม, ปริจรณํ อุปฏฺฐานํ ปริจริยา, สาว ปาริจริยา, กาเมน ปาริจริยา กามปาริจริยา, อตฺตโน กามปาริจริยา อตฺตกามปาริจริยา, อตฺตโน อตฺถาย เมถุนธมฺเมน อุปฏฺฐานนฺติ อตฺโถฯ อถ วา กามิตาติ กามา, ปาริจริยา, อตฺตโน กามา อตฺตกามา, อตฺตกามา จ สา ปาริจริยา จาติ อตฺตกามปาริจริยา, สยํ เมถุนราควเสน ปตฺถิตอุปฏฺฐานนฺติ อตฺโถฯ เตนาห ‘‘เมถุนธมฺมสงฺขาเตนา’’ติอาทิฯ เอตฺถ จ ปฐเมน อตฺถวิกปฺเปน กามเหตุปาริจริยาสงฺขาตํ อตฺถตฺตยํ ทสฺเสติ, ทุติเยน อธิปฺปายปาริจริยาสงฺขาตํ อตฺถทฺวยํฯ พฺยญฺชเน (ปารา. อฏฺฐ. 2.291) ปน อาทรํ อกตฺวา อตฺถมตฺตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ (ปารา. 292) ปทภาชนํ วุตฺตํฯ ‘‘อตฺตโน กามํ อตฺตโน เหตุํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ หิ วุตฺเต ชานิสฺสนฺติ ปณฺฑิตา ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตโน อตฺถาย กามปาริจริยา วุตฺตา’’ติ, ‘‘อตฺตโน อธิปฺปายํ อตฺตโน ปาริจริย’’นฺติ (ปารา. 292) วุตฺเตปิ ชานิสฺสนฺติ ‘‘เอตฺตาวตา อตฺตนา อิจฺฉิตกามิตฏฺเฐน อตฺตกามปาริจริยา วุตฺตา’’ติฯ

กลฺยาเณน ภทฺทเกน คุเณน สมนฺนาคตตฺตา กลฺยาณธมฺมํฯ เตนาห ‘‘ตทุภเยนาปี’’ติอาทิฯ อภิรเมยฺยาติ โตเสยฺยฯ เอตทคฺคนฺติ เอสา อคฺคาฯ ปาริจริยานนฺติ ปาริจริยานํ มชฺเฌ, นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํฯ นนุ ทุฏฺฐลฺลวาจาสิกฺขาปเท (ปารา. 285) เมถุนยาจนํ อาคตํ, อถ กสฺมา อิทํ วุตฺตํ? นายํ โทโสฯ ตตฺถ (สารตฺถ. ฏี. 2.291) หิ ทุฏฺฐุลฺลวาจสฺสาทราควเสน วุตฺตํ, อิธ ปน อตฺตโน เมถุนสฺสาทราควเสนาติฯ

ตสฺมิํเยว ขเณติ ภณิตกฺขเณฯ อุภโตพฺยญฺชนโก ปน ปณฺฑกคติกตฺตา วิสุํ น วุตฺโต ฯ ‘‘อิมสฺมิํ สิกฺขาปททฺวเย กายสํสคฺเค วิย ยกฺขิเปตีสุปิ ทุฏฺฐุลฺลตฺตกามวจเน ถุลฺลจฺจย’’นฺติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก 295) วทนฺติฯ ตสฺมิํเยวาติ ปณฺฑเกเยว อิตฺถิสญฺญิโน อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณภณเนปิ ทุกฺกฏํฯ ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, ตสฺส อคฺคทานํ เมถุนํ ธมฺมํ เทหี’’ติ ปริยายวจเนปิ ทุกฺกฏํฯ ‘‘อตฺตกามปาริจริยาย วณฺณํ ภาเสยฺย ยา มาทิสํ ‘สีลวนฺต’นฺติ วุตฺตตฺตา’’ติ (วชิร. ฏี. ปาราชิก 295) เอเกฯ ‘‘ปญฺจสุ องฺเคสุ สพฺภาวา สงฺฆาทิเสโสวา’’ติ อปเรฯ ‘‘เมถุนุปสํหิเตนา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘จีวราทีหิ…เป.… ภาสนฺตสฺส อนาปตฺตี’’ติ วุตฺตํฯ

อตฺตกามสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

5. สญฺจริตฺตสิกฺขาปทวณฺณนา

สญฺจรณํ สญฺจโร, โส เอตสฺส อตฺถีติ สญฺจรี, สญฺจรณสีโลติ วา สญฺจรี, ตสฺส ภาโว สญฺจริตฺตํ, สญฺจรณนฺติ อตฺโถฯ ตญฺจ ปรโต ‘‘อิตฺถิยา วา ปุริสมติ’’นฺติอาทิวจนโต อิตฺถิปุริสานํ เวมชฺเฌติ อาห ‘‘อิตฺถิปุริสานํ อนฺตเร สญฺจรณภาว’’นฺติฯ ปฏิคฺคณฺหนวีมํสนปจฺจาหรณานีติ เอตฺถ ปฏิคฺคณฺหนํ นาม ปุริเสน วา อิตฺถิยา วา อุภินฺนํ มาตาทีหิ วา ‘‘ภนฺเต, อิตฺถนฺนามํ อิตฺถิํ วา ปุริสํ วา เอวํ ภณาหี’’ติ วุตฺเต เตสํ วจนํ ‘‘สาธู’’ติ วา ‘‘โหตู’’ติ วา ‘‘ภณามี’’ติ วา เยน เกนจิ อากาเรน วจีเภทํ กตฺวา, สีสกมฺปนาทีหิ วา สมฺปฏิจฺฉนํฯ วีมํสนํ นาม วุตฺตปฺปกาเรน สาสนํ คเหตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา เตสํ อวสฺสํ อาโรจนกานํ มาตาปิตุภาตาภคินิอาทีนํ วา สนฺติกํ คนฺตฺวา ตสฺส สาสนสฺส อาโรจนํฯ ปจฺจาหรณํ นาม เตน คนฺตฺวา อาโรจิเต สา อิตฺถี วา ปุริโส วา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉตุ วา, มา วา, ลชฺชาย วา ตุณฺหี โหตุ, ปุน อาคนฺตฺวา ตสฺสา อิตฺถิยา วา ปุริสสฺส วา ตสฺสา ปวตฺติยา อาโรจนํฯ อาปชฺเชยฺยาติ ปฏิปชฺเชยฺยฯ

อิตฺถิยา วา ปุริสมติํ ปุริสสฺส วา อิตฺถิมตินฺติ เอตฺถ ‘‘อาโรเจยฺยา’’ติ ปาฐเสโส ทฏฺฐพฺโพฯ เตเนวาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิฯ ชายาภาเวติ ภริยาภาเวฯ ชารภาเวติ ปติภาเว, นิมิตฺตตฺเถ เจตํ ภุมฺมวจนํฯ ตสฺมา ภริยาภาวนิมิตฺตํ ปติภาวนิมิตฺตํ, ภริยาภาวเหตุ ปติภาวเหตุ, ภริยาภาวปจฺจยา ปติภาวปจฺจยา อาโรเจตีติ อตฺโถฯ เอส นโย ‘‘ชายตฺตเน อาโรเจตี’’ติอาทีสุปิฯ ‘‘ชายตฺตเน วา ชารตฺตเน วา’’ติ หิ อิทํ ยทตฺถํ ตํ เตสํ มติํ อาโรเจติ , ตํ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํฯ อิทานิ ปน ปทภาชนิยํ (ปารา. 302) วุตฺตนเยนาปิ อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิมาหฯ กิญฺจาปิ อิตฺถิลิงฺควเสน ปทภาชนิยํ วุตฺตํ, ‘‘ชายตฺตเน วา ชารตฺตเน วา’’ติ ปน นิทฺเทสสฺส อุภยลิงฺคสาธารณตฺตา ปุริสลิงฺควเสนาปิ โยเชตฺวา วตฺตพฺพนฺติ อาห ‘‘เอเตเนว อุปาเยนา’’ติอาทิฯ มุหุตฺติกาติ คณิกาฯ ‘‘อนฺตมโส ตงฺขณิกายปี’’ติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตนฺติ อาห ‘‘เอเตเนว อุปาเยนา’’ติอาทิฯ