เมนู

8. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

[646] อฏฺฐเม ฉฏฺฐิยํ อุปฺปนฺนจีวรสฺส เอกาทสมารุโณ จีวรกาเล อุฏฺฐาตีติ อาห ‘‘ฉฏฺฐิโต ปฏฺฐายา’’ติอาทิ, เตน จ ‘‘ทสาหานาคต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปญฺจมิโต ปฏฺฐาย ปุณฺณมิโต ปุพฺเพ ทสสุ อรุเณสุ อุฏฺฐิเตสุปิ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ น โหติฯ ปุณฺณมิยา สห เอกาทส ทิวสา ลพฺภนฺตีติ เอตฺตกเมว อิมินา สิกฺขาปเทน ลทฺธํ, ฉฏฺฐิโต ปฏฺฐาย อุปฺปนฺนํ สพฺพจีวรํ ปฐมกถินสิกฺขาปทวเสเนว ยาว จีวรกาลํ นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ ทสฺเสติฯ

[650] อิทานิ ปฐมกถินาทิสิกฺขาปเทหิ ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส ลพฺภมานํ ปริหารํ อิเธว เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อติเรกจีวรสฺสา’’ติอาทิมาหฯ ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปญฺจ มาสา’’ติ อยเมว ปาโฐ ปาฬิยา สเมติฯ เกจิ ปน ‘‘ทสทิวสาธิโก มาโส, ทสทิวสาธิกา ปญฺจ มาสาติ ปาเฐน ภวิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อญฺญถา ‘‘นวาหานาคต’’นฺติ วตฺตพฺพโตฯ ยํ ปเนตฺถ มาติกาฏฺฐกถายญฺจ ‘‘กามญฺเจส ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺฐุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ฐปิต’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺฐ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) ลิขนฺติ, ตํ ปมาทลิขิตํ ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปญฺจมิโต ปฏฺฐาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺฐ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตาฯ อิมเมว จ ปมาทลิขิตํ คเหตฺวา ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน จ ‘‘ปริหาเรกมาโสว, ทสาหปรโม มโต’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํฯ

อจฺเจกจีวรสทิเส อญฺญสฺมินฺติ ปุพฺเพ อธิฏฺฐิเต อุปฺปนฺนกาลาการาทิ สาทิเสน อจฺเจกจีวรสทิเส อญฺญสฺมิํ จีวเร อจฺเจกจีวรสญฺญาย จีวรกาลํ อติกฺกเมตีติ อตฺโถฯ เตเนเวตฺถ ทุกฺกฏํ, อนาปตฺติ จ วุตฺตา, อิตรถา ตีสุปิ ปเทสุ ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺตพฺพโตฯ อนจฺเจกจีวรมฺปิ หิ จีวรกาลํ อติกฺกมยโต ปาจิตฺติยเมว อจฺเจกจีวรตฺติเก วิยาติ ทฏฺฐพฺพํฯ

วิกปฺปนุปคปจฺฉิมปฺปมาณสฺส อจฺเจกจีวรสฺส อตฺตโน สนฺตกตา , ทสาหานาคตาย กตฺติกเตมาสิปุณฺณมาย อุปฺปนฺนภาโว, อนธิฏฺฐิตอวิกปฺปิตตา, จีวรกาลาติกฺกโมติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ

อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา

[652-3] นวเม อนฺตรนฺตรา ฆรเมตฺถาติ อนฺตรฆรนฺติ คาโม วุตฺโตติ อาห ‘‘อนฺโตคาเม’’ติฯ ‘‘ปฐมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (วิภ. 624) อิมสฺส วิภงฺเค ‘‘อุปสมฺปชฺช’’นฺติ สานุสารํ อุทฺธฏํฯ ตํ สนฺธายาห ‘‘อุปสมฺปชฺชนฺติอาทีสุ วิยา’’ติฯ ตสฺสาปีติ ‘‘วุตฺถวสฺสาน’’นฺติ วิภงฺคปทสฺสปิฯ วุตฺถวสฺสานนฺติ จ นิทฺธารเณ สามิวจนํ, เอเตน จ ปุริมสิกฺขาปเท อนตฺถตกถินานํ กถินมาเสปิ อสมาทานจาโร น ลพฺภตีติ สิทฺธํ โหติ, อิตรถา สิกฺขาปทสฺเสว นิรตฺถกตฺตาติ ทฏฺฐพฺพํฯ

ปริกฺเขปารหฏฺฐานโตติ เอตฺถ คามปริยนฺเต ฐิตฆรูปจารโต ปฏฺฐาย เอโก เลฑฺฑุปาโต ปริกฺเขปารหฏฺฐานํ นามฯ วิสุทฺธิมคฺเคปิ ‘‘อปริกฺขิตฺตสฺส ปฐมเลฑฺฑุปาตโต ปฏฺฐายา’’ติ (วิสุทฺธิ. 1.31) วุตฺตํฯ นฺติ ตํ ปฐมเสนาสนาทิํฯ มชฺฌิมนิกายฏฺฐกถายํ ปน วิหารสฺสปิ คามสฺเสว อุปจารํ นีหริตฺวา อุภินฺนํ เลฑฺฑุปาตานํ อนฺตรา มินิตพฺพนฺติ วุตฺตํฯ

‘‘โกสมฺพิยํ อญฺญตโร ภิกฺขุ คิลาโน โหตี’’ติ อาคตตฺตา ‘‘โกสมฺพกสมฺมุติ อนุญฺญาตา’’ติ วุตฺตํฯ ‘‘อยญฺจ ปจฺฉิมทิสํ คโต โหตี’’ติ อิมินา อนฺตรฆเร จีวรํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺมิํ วิหาเร วสนฺตสฺส สกลมฺปิ จีวรมาสํ วิปฺปวสิตุํ วฏฺฏติ, ตโต อญฺญตฺถ คมนกิจฺเจ สติ วิหารโต พหิ ฉารตฺตํ วิปฺปวาโส อนุญฺญาโตติ ทีเปติฯ เตนาห ‘‘เสนาสนํ อาคนฺตฺวา สตฺตมํ อรุณํ อุฏฺฐาเปตุ’’นฺติอาทิฯ วสิตฺวาติ อรุณํ อุฏฺฐาเปตฺวาฯ ตตฺเถวาติ ตสฺมิญฺเญว คตฏฺฐาเนฯ องฺคานิ ปเนตฺถ อฏฺฐกถายเมว วุตฺตานิฯ

สาสงฺกสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ