เมนู

ตนฺเต ฐิตํเยว อธิฏฺฐาตพฺพนฺติ เอตฺถ เอกวารํ อธิฏฺฐิเต ปจฺฉา วีตํ อธิฏฺฐิตคติกเมว โหติ, ปุน อธิฏฺฐานกิจฺจํ นตฺถิฯ สเจ ปน อนฺตรนฺตรา ทสา ฐเปตฺวา วิสุํ วิสุํ สปริจฺเฉทํ วีตํ โหติ, ปจฺเจกํ อธิฏฺฐาตพฺพเมวาติ ทฏฺฐพฺพํฯ เอตฺถ จ กปฺปิยสุตฺตํ คเหตฺวา อญฺญาตกอปฺปวาริเตนาปิ อกปฺปิยตนฺตวาเยน ‘‘สุตฺตมตฺถิ, วายนฺโต นตฺถี’’ติอาทิปริยายมุเขน วายาเปนฺตสฺส อนาปตฺติฯ เตเนว มาติกาฏฺฐกถายํ (กงฺขา. อฏฺฐ. สุตฺตวิญฺญตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา) ‘‘วายาเปยฺยา’’ติ ปทสฺส ‘‘จีวรํ เม, อาวุโส, วายถาติ อกปฺปิยวิญฺญตฺติยา วายาเปยฺยา’’ติ อตฺโถ วุตฺโต, เอวํ วทนฺโต อกปฺปิยตนฺตวาเยน วายาเปติ นาม, นาญฺญถาฯ

[640] อนาปตฺติ จีวรํ สิพฺเพตุนฺติอาทีสุ อิมินา สิกฺขาปเทเนว อนาปตฺติ, อกตวิญฺญตฺติปจฺจยา ปน ทุกฺกฏเมวาติ วทนฺติฯ อกปฺปิยสุตฺตตา, อตฺตุทฺเทสิกตา, อกปฺปิยตนฺตวาเยน อกปฺปิยวิญฺญตฺติยา วายาปนนฺติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ

สุตฺตวิญฺญตฺติสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

7. มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา

[642] สตฺตเม ‘‘กิญฺจิมตฺตํ อนุปทชฺเชยฺยา’’ติ อิทํ ปโยคเภททสฺสนํ, ทานํ ปเนตฺถ องฺคํ น โหติฯ เตเนว ตสฺส วิภงฺเค ‘‘อนฺตมโส ธมฺมมฺปิ ภณตี’’ติ วุตฺตํฯ เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวฯ อญฺญาตกอปฺปวาริตานํ ตนฺตวาเย อุปสงฺกมิตฺวา วิกปฺปมาปชฺชนตา, จีวรสฺส อตฺตุทฺเทสิกตา, ตสฺส วจเนน สุตฺตวฑฺฒนํ, จีวรปฏิลาโภติ อิมาเนตฺถ จตฺตาริ องฺคานิฯ

มหาเปสการสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

8. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา

[646] อฏฺฐเม ฉฏฺฐิยํ อุปฺปนฺนจีวรสฺส เอกาทสมารุโณ จีวรกาเล อุฏฺฐาตีติ อาห ‘‘ฉฏฺฐิโต ปฏฺฐายา’’ติอาทิ, เตน จ ‘‘ทสาหานาคต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปญฺจมิโต ปฏฺฐาย ปุณฺณมิโต ปุพฺเพ ทสสุ อรุเณสุ อุฏฺฐิเตสุปิ จีวรํ นิสฺสคฺคิยํ น โหติฯ ปุณฺณมิยา สห เอกาทส ทิวสา ลพฺภนฺตีติ เอตฺตกเมว อิมินา สิกฺขาปเทน ลทฺธํ, ฉฏฺฐิโต ปฏฺฐาย อุปฺปนฺนํ สพฺพจีวรํ ปฐมกถินสิกฺขาปทวเสเนว ยาว จีวรกาลํ นิสฺสคฺคิยํ น โหตีติ ทสฺเสติฯ

[650] อิทานิ ปฐมกถินาทิสิกฺขาปเทหิ ตสฺส ตสฺส จีวรสฺส ลพฺภมานํ ปริหารํ อิเธว เอกโต สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘อติเรกจีวรสฺสา’’ติอาทิมาหฯ ‘‘อนตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิโก มาโส, อตฺถเต กถิเน เอกาทสทิวสาธิกา ปญฺจ มาสา’’ติ อยเมว ปาโฐ ปาฬิยา สเมติฯ เกจิ ปน ‘‘ทสทิวสาธิโก มาโส, ทสทิวสาธิกา ปญฺจ มาสาติ ปาเฐน ภวิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, อญฺญถา ‘‘นวาหานาคต’’นฺติ วตฺตพฺพโตฯ ยํ ปเนตฺถ มาติกาฏฺฐกถายญฺจ ‘‘กามญฺเจส ‘ทสาหปรมํ อติเรกจีวรํ ธาเรตพฺพ’นฺติ อิมินาว สิทฺโธ, อฏฺฐุปฺปตฺติวเสน ปน อปุพฺพํ วิย อตฺถํ ทสฺเสตฺวา สิกฺขาปทํ ฐปิต’’นฺติ (กงฺขา. อฏฺฐ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) ลิขนฺติ, ตํ ปมาทลิขิตํ ‘‘ปวารณมาสสฺส ชุณฺหปกฺขปญฺจมิโต ปฏฺฐาย อุปฺปนฺนสฺส จีวรสฺส นิธานกาโล ทสฺสิโต โหตี’’ติ (กงฺขา. อฏฺฐ. อจฺเจกจีวรสิกฺขาปทวณฺณนา) วุตฺตตฺตาฯ อิมเมว จ ปมาทลิขิตํ คเหตฺวา ภทนฺตพุทฺธทตฺตาจริเยน จ ‘‘ปริหาเรกมาโสว, ทสาหปรโม มโต’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํฯ

อจฺเจกจีวรสทิเส อญฺญสฺมินฺติ ปุพฺเพ อธิฏฺฐิเต อุปฺปนฺนกาลาการาทิ สาทิเสน อจฺเจกจีวรสทิเส อญฺญสฺมิํ จีวเร อจฺเจกจีวรสญฺญาย จีวรกาลํ อติกฺกเมตีติ อตฺโถฯ เตเนเวตฺถ ทุกฺกฏํ, อนาปตฺติ จ วุตฺตา, อิตรถา ตีสุปิ ปเทสุ ปาจิตฺติยสฺเสว วตฺตพฺพโตฯ อนจฺเจกจีวรมฺปิ หิ จีวรกาลํ อติกฺกมยโต ปาจิตฺติยเมว อจฺเจกจีวรตฺติเก วิยาติ ทฏฺฐพฺพํฯ