เมนู

8. รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา

[583-4] อฏฺฐเม สุวณฺณมยกหาปเณน กหาปโณปิ รชเต เอว สงฺคยฺหตีติ อาห ‘‘โสวณฺณมโย วา’’ติฯ รูปิยมโย วาติ รชเตน รูปํ สมุฏฺฐเปตฺวา กตกหาปโณฯ ปากติโก นาม เอตรหิ ปกติกหาปโณฯ

อิจฺเจตํ สพฺพมฺปีติ สิกฺขาปเทน, วิภงฺเคน จ วุตฺตํ สพฺพมฺปิ นิทสฺเสติฯ ตสฺส จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถูติ อิมินาว สมฺพนฺโธ, น ปน อนนฺตเรน ‘‘รชต’’นฺติ ปเทนฯ อิทานิ ตํ จตุพฺพิธํ นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘รชต’’นฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ กิญฺจาปิ เหฏฺฐา รชตมาสโกว วุตฺโต, น เกวลํ รชตํ, ตถาปิ สิกฺขาปเท ‘‘ชาตรูปรชต’’นฺติ ปเทเนว วุตฺตนฺติ ตมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘รชต’’นฺติ อิทํ วิสุํ วุตฺตํฯ ปทภาชเน ปน มาติกาปเทเนว สิทฺธตฺตา ตํ อวตฺวา เตน สห สงฺคยฺหมานเมว ทสฺเสตุํ ‘‘รชตํ นาม กหาปโณ’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํฯ ชาตรูปมาสโกติ สุวณฺณมยกหาปโณฯ วุตฺตปฺปเภโทติ ‘‘รูปิยมโย วา ปากติโก วา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปเภโทฯ ปโฏว ปฏโก, วตฺถํฯ ทุกฺกฏเมวาติ ปฏิคฺคาหกสฺเสว ปฏิคฺคหณปจฺจยา ทุกฺกฏํ, ปริโภเค ปน ปญฺจสหธมฺมิเกหิ ปฏิคฺคหิตานํ ธญฺญวิรหิตมุตฺตาทีนํ การณา อุปฺปนฺนปจฺจยํ ปริภุญฺชนฺตานํ สพฺเพสมฺปิ ทุกฺกฏเมวฯ เกจิ ปน ‘‘ธญฺญมฺปิ ปญฺจสหธมฺมิเกหิ ปฏิคฺคหิตํ มุตฺตาทิเขตฺตาทิ วิย สพฺเพสมฺปิ ปริภุญฺชิตุํ น วฏฺฏติ, เกวลํ สงฺฆิกภูมิยํ กปฺปิยโวหาเรน จ อุปฺปนฺนสฺส ธญฺญสฺส วิจารณเมว สนฺธาย ‘ตสฺเสเวตํ อกปฺปิย’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติฯ

เอโก สตํ วา สหสฺสํ วาติอาทิ รูปิเย เหฏฺฐิมโกฏิยา ปวตฺตนาการํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ, น ปน ‘‘เอวํ ปฏิปชฺชิตพฺพเมวา’’ติ ทสฺเสตุํฯ ‘‘อิธ นิกฺขิปาหี’’ติ วุตฺเต อุคฺคณฺหาปนํ โหตีติ อาห ‘‘อิธ นิกฺขิปาหีติ น วตฺตพฺพ’’นฺติฯ กปฺปิยญฺจ…เป.… โหตีติ ยสฺมา อสาทิตตฺตา ตโต อุปฺปนฺนปจฺจยา วฏฺฏนฺติ, ตสฺมา กปฺปิยํ นิสฺสาย ฐิตํฯ ยสฺมา ปน ทุพฺพิจารณาย สติ ตโต อุปฺปนฺนมฺปิ น กปฺปติ, ตสฺมา อกปฺปิยํ นิสฺสาย ฐิตนฺติ เวทิตพฺพํฯ

‘‘น เตน กิญฺจิ กปฺปิยภณฺฑํ เจตาปิต’’นฺติ อิมินา เจตาปิตํ เจ, นตฺถิ ปริโภคูปาโย อุคฺคเหตฺวา อนิสฺสฏฺฐรูปิเยน เจตาปิตตฺตาฯ อีทิสญฺหิ สงฺฆมชฺเฌ นิสฺสชฺชนํ กตฺวาว ฉฑฺเฑตฺวา ปาจิตฺติยํ เทเสตพฺพนฺติ ทสฺเสติฯ

เกจิ ปน ‘‘ยสฺมา นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ ปฏิคฺคเหตฺวาปิ เจตาปิตํ กปฺปิยภณฺฑํ สงฺเฆ นิสฺสฏฺฐํ กปฺปิยการเกหิ นิสฺสฏฺฐรูปิยํ ปริวตฺเตตฺวา อานีตกปฺปิยภณฺฑสทิสํ โหติ, ตสฺมา วินาว อุปายํ ภาเชตฺวา ปริภุญฺชิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ปตฺตจตุกฺกาทิกถาย (ปารา. อฏฺฐ. 2.589) น สเมติฯ ตตฺถ รูปิเยน ปริวตฺติตปตฺตสฺส อปริโภโคว ทสฺสิโต, น นิสฺสชฺชนวิธานนฺติฯ อุปนิกฺเขปํ ฐเปตฺวาติ กปฺปิยการเกหิ วฑฺฒิยา ปโยชนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ อกปฺปิยนฺติ เตน วตฺถุนา คหิตตฺตา วุตฺตํฯ

[585] ‘‘ปติโตกาสํ อสมนฺนาหรนฺเตนา’’ติ อิทํ นิรเปกฺขภาวทสฺสนปรนฺติ เวทิตพฺพํฯ อสนฺตสมฺภาวนายาติ ปริยายาทินา อภูตาโรจนํ สนฺธาย วุตฺตํฯ เถยฺยปริโภโคติ ปจฺจยสามินา ภควตา อนนุญฺญาตตฺตา วุตฺตํฯ อิณปริโภโคติ ภควตา อนุญฺญาตมฺปิ กตฺตพฺพํ อกตฺวา ปริภุญฺชนโต วุตฺตํ, เตน จ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ วิปชฺชตีติ ทสฺเสติฯ ปริโภเค ปริโภเคติ กายโต โมเจตฺวา โมเจตฺวา ปริโภเคฯ ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ โยชนาฯ อิณปริโภคฏฺฐาเน ติฏฺฐตีติ เอตฺถ ‘‘หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺต’’นฺติอาทินาปิ อตีตปจฺจเวกฺขณา วฏฺฏตีติ วทนฺติฯ ปริโภเค ปริโภเคติ อุทกปตนฏฺฐานโต อนฺโตปเวสเนสุ, นิสีทนสยเนสุ จฯ สติปจฺจยตา วฏฺฏตีติ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยตฺตํ ลทฺธุํ วฏฺฏติฯ ปฏิคฺคหเณ จ ปริโภเค จ ปจฺจเวกฺขณาสติ อวสฺสํ ลทฺธพฺพาติ ทสฺเสติฯ เตนาห ‘‘สติํ กตฺวา’’ติอาทิฯ เกจิ ปน ‘‘สติปจฺจยตา ปจฺจเย สติ เภสชฺชปริโภคสฺส การเณ สตี’’ติ เอวมฺปิ อตฺถํ วทนฺติ, เตสมฺปิ ปจฺจเย สตีติ ปจฺจยสพฺภาวสลฺลกฺขเณ สตีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ ปจฺจยสพฺภาวมตฺเตน สีลสฺส อสุชฺฌนโตฯ ‘‘ปริโภเค อกโรนฺตสฺเสว อาปตฺตี’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส เภโท ทสฺสิโต, น ปจฺจยสนฺนิสฺสฺสิสีลสฺส, ตสฺส อตีตปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌนโตฯ เอตสฺมิํ, ปน เสสปจฺจเยสุ จ อิณปริโภคาทิวจเนน ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺเสว เภโทติ เอวมิเมสํ นานากรณํ เวทิตพฺพํฯ

เอวํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส วิสุทฺธิํ ทสฺเสตฺวา เตเนว ปสงฺเคน สพฺพาปิ วิสุทฺธิโย ทสฺเสตุํ ‘‘จตุพฺพิธา หิ สุทฺธี’’ติอาทิมาหฯ

ตตฺถ สุชฺฌติ เทสนาทีหิ, โสธียตีติ วา สุทฺธิ, จตุพฺพิธสีลํฯ เตนาห ‘‘เทสนาย สุชฺฌนโต’’ติอาทิฯ เอตฺถ เทสนาคฺคหเณน วุฏฺฐานมฺปิ ฉินฺนมูลานํ อภิกฺขุตาปฏิญฺญาปิ สงฺคหิตาฯ ฉินฺนมูลานมฺปิ หิ ปาราชิกาปตฺติวุฏฺฐาเนน เหฏฺฐา ปริรกฺขิตํ ภิกฺขุสีลํ วิสุทฺธํ นาม โหติ, เตน เตสํ มคฺคปฏิลาโภปิ สมฺปชฺชติฯ

ทาตพฺพฏฺเฐน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทาสตฺตนฺนํ เสกฺขานนฺติ เอตฺถ กลฺยาณปุถุชฺชนาปิ สงฺคหิตา เตสํ อาณณฺยปริโภคสฺส ทายชฺชปริโภเค สงฺคหิตตฺตาติ เวทิตพฺพํ ธมฺมทายาทสุตฺตนฺติ ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’’ติอาทินา (ม. นิ. 1.29) ปวตฺตํ สุตฺตํฯ ตตฺถ มา เม อามิสทายาทาติ เอวํ เม-สทฺทํ อาเนตฺวา อตฺโถ คเหตพฺโพฯ เอวญฺหิ ตถา วุตฺตตฺถสาธกํ โหติฯ

ลชฺชินา สทฺธิํ ปริโภโคติ ธมฺมามิสวเสน มิสฺสภาโวฯ อลชฺชินา สทฺธินฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโยฯ ‘‘อาทิโต ปฏฺฐาย หิ อลชฺชี นาม นตฺถี’’ติ อิมินา ทิฏฺฐทิฏฺเฐสุ อาสงฺกา นาม น กาตพฺพา, ทิฏฺฐสุตาทิการเณ สติ เอว กาตพฺพาติ ทสฺเสติฯ อตฺตโน ภารภูตา สทฺธิวิหาริกาทโยฯ สเจ น โอรมตีติ อคติคมเนน ธมฺมามิสปริโภคโต น โอรมติฯ ‘‘อาปตฺติ นาม นตฺถี’’ติ อิทํ อลชฺชีนํ ธมฺเมน อุปฺปนฺนปจฺจยํ, ธมฺมกมฺมญฺจ สนฺธาย วุตฺตํฯ เตสมฺปิ หิ กุลทูสนาทิสมุปฺปนฺนปจฺจยํ ปริภุญฺชนฺตานํ, วคฺคกมฺมาทิํ กโรนฺตานญฺจ อาปตฺติ เอวฯ

‘‘ธมฺมิยาธมฺมิยปริโภโค ปจฺจยวเสน เวทิตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา เหฏฺฐา ลชฺชิปริโภโค ปจฺจยวเสน จ เอกกมฺมาทิวเสน จ วุตฺโต เอวาติ เวทิตพฺพํฯ เตเนว ทุฏฺฐโทสสิกฺขาปทฏฺฐกถายํ โจทกจุทิตกภาเว ฐิตา ทฺเว อลชฺชิโน ธมฺมปริโภคมฺปิ สนฺธาย ‘‘เอกสมฺโภคปริโภคา หุตฺวา ชีวถา’’ติ (ปารา. อฏฺฐ. 2.385-386) วุตฺตา เตสํ อญฺญมญฺญํ ธมฺมามิสปริโภเค วิโรธาภาวาฯ ลชฺชีนเมว หิ อลชฺชินา สห ตทุภยปริโภคา น วฏฺฏนฺตีติฯ

ธมฺมปริโภโคติ ‘‘เอกกมฺมํ เอกุทฺเทโส’’ติอาทินา (ปารา. 55, 92, 172) วุตฺตสํวาโส เจว นิสฺสยคฺคหณทานาทิโก สพฺโพ นิรามิสปริโภโค จ เวทิตพฺโพ ‘‘น โส อาปตฺติยา กาเรตพฺโพ’’ติ วุตฺตตฺตา ลชฺชิโน อลชฺชิปคฺคเห อาปตฺตีติ เวทิตพฺพํฯ อิตโรปีติ ลชฺชีปิฯ ตสฺสาปิ อตฺตานํ ปคฺคณฺหนฺตสฺส อลชฺชิโน, อิมินา จ ลชฺชิโน วณฺณภณนาทิลาภํ ปฏิจฺจ อามิสครุกตาย วา เคหสิตเปเมน วา ตํ อลชฺชิํ ปคฺคณฺหนฺโต ลชฺชี สาสนํ อนฺตรธาเปติ นามาติ ทสฺเสติฯ เอวํ คหฏฺฐาทีสุ อุปตฺถมฺภิโต อลชฺชี พลํ ลภิตฺวา เปสเล อภิภวิตฺวา นจิรสฺเสว สาสนํ อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ กโรตีติฯ

‘‘ธมฺมปริโภโคปิ ตตฺถ วฏฺฏตี’’ติ อิมินา อามิสปริโภคโต ธมฺมปริโภโคว ครุโก, ตสฺมา อติวิย อลชฺชิวิเวเกน กาตพฺโพติ ทสฺเสติฯ ‘‘ธมฺมานุคฺคเหน อุคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏตี’’ติ วุตฺตตฺตา อลชฺชุสฺสนฺนตาย สาสเน โอสกฺกนฺเต, ลชฺชีสุ จ อปฺปโหนฺเตสุ อลชฺชิมฺปิ ปกตตฺตํ คณปูรกํ คเหตฺวา อุปสมฺปทาทิกรเณน เจว เกจิ อลชฺชิโน ธมฺมามิสปริโภเคน สงฺคเหตฺวา เสสาลชฺชิคณสฺส นิคฺคเหน จ สาสนํ ปคฺคณฺหิตุํ วฏฺฏติ เอวฯ

เกจิ ปน ‘‘โกฏิยํ ฐิโต คนฺโถติ วุตฺตตฺตา คนฺถปริยาปุณนเมว ธมฺมปริโภโค, น เอกกมฺมาทิฯ ตสฺมา อลชฺชีหิปิ สทฺธิํ อุโปสถาทิกํ กมฺมํ กาตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ นตฺถี’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, เอกกมฺมาทีสุ พหูสุ ธมฺมปริโภเคสุ อลชฺชินาปิ สทฺธิํ กตฺตพฺพาวตฺถายุตฺตํ ธมฺมปริโภคํ ทสฺเสตุํ อิธ นิทสฺสนวเสน คนฺถสฺเสว สมุทฺธฏตฺตาฯ น หิ เอกกมฺมาทิโก วิธิ ธมฺมปริโภโค น โหตีติ สกฺกา วตฺตุํ อนามิสตฺตา ธมฺมามิเสสุ อปริยาปนฺนสฺส กสฺสจิ อภาวาฯ เตเนว อฏฺฐสาลินิยํ ธมฺมปฏิสนฺธารกถายํ (ธ. ส. อฏฺฐ. 1351)‘‘กมฺมฏฺฐานํ กเถตพฺพํ, ธมฺโม วาเจตพฺโพ…เป.… อพฺภานวุฏฺฐานมานตฺตปริวาสา ทาตพฺพา, ปพฺพชฺชารโห ปพฺพาเชตพฺโพ, อุปสมฺปทารโห อุปสมฺปาเทตพฺโพ…เป.… อยํ ธมฺมปฏิสนฺธาโร นามา’’ติ เอวํ สงฺฆกมฺมาทิปิ ธมฺมโกฏฺฐาเส ทสฺสิตํฯ เตสุ ปน ธมฺมโกฏฺฐาเสสุ ยํ คณปูรณาทิวเสน อลชฺชิโน อเปกฺขิตฺวา อุโปสถาทิ วา เตสํ สนฺติกา ธมฺมุคฺคหณนิสฺสยคฺคหณาทิ วา กรียติ, ตํ ธมฺโม เจว ปริโภโค จาติ ธมฺมปริโภโคติ วุจฺจติ, เอตํ ตถารูปปจฺจยํ วินา กาตุํ น วฏฺฏติ, กโรนฺตสฺส อลชฺชิปริโภโค จ โหติ ทุกฺกฏญฺจฯ

ยํ ปน อลชฺชิสตํ อนเปกฺขิตฺวา ตชฺชนียาทินิคฺคหกมฺมํ วา ปริวาสาทิอุปการกมฺมํ วา อุคฺคหปริปุจฺฉาทานาทิ วา กรียติ, ตํ ธมฺโม เอว, โน ปริโภโคฯ เอตํ อนุรูปานํ กาตุํ วฏฺฏติ, อามิสทานํ วิย อาปตฺติ นตฺถิฯ นิสฺสยทานมฺปิ เตรสสมฺมุติทานาทิ จ วตฺตปฏิวตฺตสาทิยนาทิปริโภคสฺสาปิ เหตุตฺตา น วฏฺฏติฯ

โย ปน มหาอลชฺชี อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุ สาสนํ กโรติ, ตสฺส สทฺธิวิหาริกาทีนํ อุปสมฺปทาทิอุปการกมฺมมฺปิ อุคฺคหปริปุจฺฉาทานาทิ จ กาตุํ น วฏฺฏติ, อาปตฺติ เอว โหติ, นิคฺคหกมฺมเมว กาตพฺพํฯ เตเนว อลชฺชิปคฺคโหปิ ปฏิกฺขิตฺโตฯ ธมฺมามิสปริโภควิวชฺชเนนาปิ หิ ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคโห อธิปฺเปโต, โส จ เปสลานํ ผาสุวิหารสทฺธมฺมฏฺฐิติวินยานุคฺคหาทิอตฺถาย เอตทตฺถตฺตา สิกฺขาปทปญฺญตฺติยาฯ ตสฺมา ยํ ยํ ทุมฺมงฺกูนํ อุปตฺถมฺภาย เปสลานํ อผาสุวิหาราย สทฺธมฺมปริหานาทิอตฺถาย โหติ, ตํ สพฺพมฺปิ ปริโภโค วา โหตุ อปริโภโค วา กาตุํ น วฏฺฏติ, เอวํ กโรนฺตา สาสนํ อนฺตรธาเปนฺติ, อาปตฺติญฺจ อาปชฺชนฺติฯ ธมฺมามิสปริโภเคสุ เจตฺถ อลชฺชีหิ เอกกมฺมาทิธมฺมปริโภโค เอว เปสลานํ อผาสุวิหารสทฺธมฺมปริหานาทิอตฺถาย โหติ, น ตถา อามิสปริโภโคฯ น หิ อลชฺชีนํ ปจฺจยปริโภคมตฺเตน เปสลานํ อผาสุวิหาราทิ โหติ, ยถาวุตฺตธมฺมปริโภเคน ปน โหติ , ตปฺปริวชฺชเนน จ ผาสุวิหาราทโยฯ ตถา หิ กตสิกฺขาปทวีติกฺกมา อลชฺชิปุคฺคลา อุโปสถาทีสุ ปวิฏฺฐา ‘‘ตุมฺเห กายทฺวาเร, วจีทฺวาเร จ วีติกฺกมํ กโรถา’’ติอาทินา ภิกฺขูหิ วตฺตพฺพา โหนฺติ, ยถา วินยญฺจ อติฏฺฐนฺตา สงฺฆโต พหิกรณาทิวเสน สุฏฺฐุ นิคฺคเหตพฺพา, ตถา อกตฺวา เตหิ สห สํวสนฺตาปิ อลชฺชิโนว โหนฺติ ‘‘เอโกปิ อลชฺชี อลชฺชิสตมฺปิ กโรตี’’ติอาทิวจนโต (ปารา. อฏฺฐ. 2.585)ฯ ยทิ หิ เต เอวํ น นิคฺคหิตา สิยุํ, สงฺเฆ กลหาทิํ วฑฺเฒตฺวา อุโปสถาทิสามคฺคีกมฺมปฏิพาหนาทินา เปสลานํ อผาสุํ กตฺวา กเมน เต เทวทตฺตวชฺชิปุตฺตกาทโย วิย ปริสํ วฑฺเฒตฺวา อตฺตโน วิปฺปฏิปตฺติํ ธมฺมโต วินยโต ทีเปนฺตา สงฺฆเภทาทิมฺปิ กตฺวา นจิรสฺเสว สาสนํ อนฺตรธาเปยฺยุํ, เตสุ ปน สงฺฆโต พหิกรณาทิวเสน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปายํ อุปทฺทโว น โหติฯ วุตฺตญฺหิ –

‘‘ทุสฺสีลปุคฺคเล นิสฺสาย อุโปสโถ น ติฏฺฐติ, ปวารณา น ติฏฺฐติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺติ, สามคฺคี น โหติ…เป.… ทุสฺสีเลสุ ปน นิคฺคหิเตสุ สพฺโพปิ อยํ อุปทฺทโว น โหติ, ตโต เปสลา ภิกฺขู ผาสุ วิหรนฺตี’’ติ (ปารา. อฏฺฐ. 1.39)ฯ

ตสฺมา เอกกมฺมาทิธมฺมปริโภโคว อามิสปริโภคโตปิ อติวิย อลชฺชิวิเวเกน กาตพฺโพ, อาปตฺติกโร จ สทฺธมฺมปริหานิเหตุตฺตาติ เวทิตพฺพํฯ

อปิจ อุโปสโถ น ติฏฺฐติ, ปวารณา น ติฏฺฐติ, สงฺฆกมฺมานิ นปฺปวตฺตนฺตีติ เอวํ อลชฺชีหิ สทฺธิํ สงฺฆกมฺมากรณสฺส อฏฺฐกถายํ ปกาสิตตฺตาปิ เจตํ สิชฺฌติ, ตถา ปริวตฺตลิงฺคสฺส ภิกฺขุโน ภิกฺขุนุปสฺสยํ คจฺฉนฺตสฺส ปฏิปตฺติกถายํ ‘‘อาราธิกา จ โหนฺติ สงฺคาหิกา ลชฺชินิโย, ตา โกเปตฺวา อญฺญตฺถ น คนฺตพฺพํฯ คจฺฉติ เจ, คามนฺตรนทีปารรตฺติวิปฺปวาสคณโอหียนาปตฺตีหิ น มุจฺจติ…เป.… อลชฺชินิโย โหนฺติ, สงฺคหํ ปน กโรนฺติ, ตาปิ ปริจฺจชิตฺวา อญฺญตฺถ คนฺตุํ ลพฺภตี’’ติ เอวํ อลชฺชินีสุ ทุติยิกาคหณาทีสุ สํวาสาปตฺติปริหาราย นทีปารคมนาทิครุกาปตฺติฏฺฐานานํ อนุญฺญาตตฺตา ตโตปิ อลชฺชิสํวาสาปตฺติ เอว สทฺธมฺมปริหานิเหตุโต ครุกตราติ วิญฺญายติฯ น หิ ลหุกาปตฺติฏฺฐานํ, อนาปตฺติฏฺฐานํ วา ปริหริตุํ ครุกาปตฺติฏฺฐานวีติกฺกมํ อาจริยา อนุชานนฺติ, ตถา อสํวาสปทสฺส อฏฺฐกถายํ ‘‘สพฺเพหิปิ ลชฺชิปุคฺคเลหิ สมํ สิกฺขิตพฺพภาวโต สมสิกฺขาตา นามฯ เอตฺถ ยสฺมา สพฺเพปิ ลชฺชิโน เอเตสุ กมฺมาทีสุ สห วสนฺติ, น เอโกปิ ตโต พหิทฺธา สนฺทิสฺสติ, ตสฺมา ตานิ สพฺพานิปิ คเหตฺวา เอโส สํวาโส นามา’’ติ เอวํ ลชฺชีเหว เอกกมฺมาทิสํวาโส วฏฺฏตีติ ปกาสิโตฯ

ยทิ เอวํ, กสฺมา อสํวาสิเกสุ อลชฺชี น คณิโตติ? นายํ วิโรโธ, เย คณปูรเก กตฺวา กตํ กมฺมํ กุปฺปติ, เตสํ ปาราชิกาทิอปกตตฺตานญฺเญว อสํวาสิกตฺเต คหิตตฺตาฯ

อลชฺชิโน ปน ปกตตฺตภูตาปิ สนฺติ, เต เจ คณปูรณา หุตฺวา กมฺมํ สาเธนฺติ, เกวลํ กตฺวา อคติคมเนน กโรนฺตานํ อาปตฺติกรา โหนฺติ สภาคาปตฺติอาปนฺนา วิย อญฺญมญฺญํฯ ยสฺมา อลชฺชิตญฺจ ลชฺชิตญฺจ ปุถุชฺชนานํ จิตฺตกฺขณปฏิพทฺธํ, น สพฺพกาลิกํฯ สญฺจิจฺจ หิ วีติกฺกมจิตฺเต อุปฺปนฺเน อลชฺชิโน ‘‘น ปุน อีทิสํ กริสฺสามี’’ติ จิตฺเตน ลชฺชิโน จ โหนฺติ, เตสุ จ เย เปสเลหิ โอวทิยมานาปิ น โอรมนฺติ, ปุนปฺปุนํ วีติกฺกมนฺติ, เต เอว อสํวสิตพฺพา, น อิตเร ลชฺชิธมฺเม โอกฺกนฺตตฺตาฯ ตสฺมาปิ อลชฺชิโน อสํวาสิเกสุ อคเณตฺวา ตปฺปริวชฺชนตฺถํ โสเธตฺวาว อุโปสถาทิกรณํ อนุญฺญาตํฯ ตถา หิ ‘‘ปาริสุทฺธิํ อายสฺมนฺโต อาโรเจถ, ปาติโมกฺขํ อุทฺทิสิสฺสามี’’ติอาทินา (มหาว. 134) อปริสุทฺธาย ปริสาย อุโปสถกรณสฺส อยุตฺตตา ปกาสิตา, ‘‘ยสฺส สิยา อาปตฺติ โส อาวิกเรยฺย…เป.… ผาสุ โหตี’’ติ (มหาว. 134) เอวํ อลชฺชิมฺปิ ลชฺชิธมฺเม ปติฏฺฐาเปตฺวา อุโปสถกรณปฺปกาโร จ วุตฺโต, ‘‘กจฺจิตฺถ ปริสุทฺธา…เป.… ปริสุทฺเธตฺถายสฺมนฺโต’’ติ (ปารา. 442, 458, 662; ปาจิ. 551, 575, 655) จ ปาริสุทฺธิอุโปสเถ ‘‘ปริสุทฺโธ อหํ ภนฺเต, ปริสุทฺโธติ มํ ธาเรถา’’ติ (มหาว. 168) จ เอวํ อุโปสถํ กโรนฺตานํ ปริสุทฺธตา จ ปกาสิตา, วจนมตฺเตน อโนรมนฺตานญฺจ อุโปสถปวอารณฏฺฐปนวิธิ จ วุตฺตา, สพฺพถา ลชฺชิธมฺมํ อโนกฺกมนฺเตหิ สํวาสสฺส อยุตฺตตาย นิสฺสยทานคฺคหณปฏิกฺเขโป, ตชฺชนียาทินิคฺคหกมฺมกรณญฺจ อุกฺเขปนียกมฺมกรเณน สานุวตฺตกปริสสฺส อลชฺชิสฺส อสํวาสิกตฺตปาปนวิธิ จ วุตฺตาฯ ตสฺมา ยถาวุตฺเตหิ สุตฺตนเยหิ, อฏฺฐกถาวจเนหิ จ ปกตตฺเตหิปิ อปกตตฺเตหิปิ สพฺเพหิ อลชฺชีหิ เอกกมฺมาทิสํวาโส น วฏฺฏติ, กโรนฺตานํ อาปตฺติ เอว ทุมฺมงฺกูนํ ปุคฺคลานํ นิคฺคหตฺถาเยว สพฺพสิกฺขาปทานํ ปญฺญตฺตตฺตาติ นิฏฺฐเมตฺถ คนฺตพฺพํฯ เตเนว ทุติยสงฺคีติยํ ปกตตฺตาปิ อลชฺชิโน วชฺชิปุตฺตกา ยสตฺเถราทีหิ มหนฺเตน วายาเมน สงฺฆโต วิโยชิตาฯ น หิ เตสุ ปาราชิกาทิอสํวาสิกา อตฺถิ เตหิ ทีปิตานํ ทสนฺนํ วตฺถูนํ (จูฬว. 452) ลหุกาปตฺติวิสยตฺตาฯ

ตสฺส ปน สนฺติเกติ มหารกฺขิตตฺเถรสฺส สนฺติเกฯ ขรปตฺตนฺติ ขรสงฺขาตํ สุวณฺณปติรูปกํ วตฺถุฯ

ทายเกหิ อสติยา ทินฺนํ รูปิยํ เตหิ ปุน สกสญฺญาย คณฺหนฺเต อทาตุํ, นิสฺสคฺคิยวตฺถุํ คณฺหาหีติ ทาตุญฺจ น วฏฺฏตีติ อาห ‘‘ตว โจฬกํ ปสฺสาหี’’ติฯ เอวํ วตฺวาปิ ปน นฏฺฐวตฺถุสฺมิํ วิย นิสฺสชฺชิตพฺพาภาเวปิ อาปตฺติ เทเสตพฺพาวฯ อสติยาปิ หิ ตํ วตฺถุํ วตฺถาทินา สหตฺเถน คเหตฺวา ‘‘อิทํ เทมี’’ติ ทินฺนํ, ตทา ปริจฺจาคสพฺภาวโต ทานเมว โหติ ‘‘อปฺปคฺฆํ ทสฺสามี’’ติ มหคฺฆสฺส ทาเน วิยฯ ปฏิคฺคณฺหนฺตสฺส จ อสติยา ทิยฺยมานตฺเต ญาเตปิ อทินฺนาทานํ น โหติ ทายเกหิ ทินฺนตฺตา, ตสฺมา รูปิยํ นิสฺสคฺคิยเมว โหติฯ เกจิ ปน ‘‘อีทิสํ นาม น โหติ, เตเนว เจตฺถ ‘ตว โจฬกํ ปสฺสา’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ โน นกฺขมติ, วีมํสิตพฺพํฯ

[586] เอกปริจฺเฉทานีติ สิยา กิริยตฺตํ, สิยา อกิริยตฺตญฺจ สนฺธาย วุตฺตํฯ ชาตรูปรชตภาโว, อตฺตุทฺเทสิกตา, คหณาทีสุ อญฺญตรภาโวติ อิมาเนตฺถ ตีณิ องฺคานิฯ

รูปิยสิกฺขาปทวณฺณนา นิฏฺฐิตาฯ

9. รูปิยสํโวหารสิกฺขาปทวณฺณนา

[587] นวเม ชาตรูปาทิจตุพฺพิธนิสฺสคฺคิยวตฺถุ อิธ รูปิยคฺคหเณเนว คหิตนฺติ อาห ‘‘ชาตรูปรชตปริวตฺตน’’นฺติฯ ปฏิคฺคหิตปริวตฺตเนติ กปฺปิยโวหาเรน, อกปฺปิยโวหาเรน วา ปฏิคฺคหิตสฺส รูปิยสฺส ปริวตฺตเนฯ

[589] ปาฬิยํ ฆนกตนฺติ อิฏฺฐกาทิฯ รูปิยํ นาม สตฺถุวณฺโณติอาทีสุ กิญฺจาปิ เกวลํ รชตํ น คหิตํ, ตถาปิ รูปิยปเทเนว ตํ คหิตนฺติ ทฏฺฐพฺพํฯ สุทฺโธ รูปิยสํโวหาโร เอว วุตฺโตติ อชฺฌาหริตพฺพํฯ รูปิเย รูปิยสญฺญีติอาทิมฺหิ วินิจฺฉยํ วกฺขามาติ ปาฐเสโสฯ

[591] ปาฬิยํ รูปิเย รูปิยสญฺญีติ อตฺตนา ทิยฺยมานํ สกสนฺตกํ สนฺธาย วุตฺตํฯ รูปิยํ เจตาเปตีติ ปรสนฺตกํฯ เอส นโย เสเสสุปิฯ ตตฺถ อรูปิย-สทฺเทน ทุกฺกฏวตฺถุมฺปิ สงฺคณฺหาติฯ ปจฺฉิเม ปน ติเก ‘‘อรูปิเย รูปิยสญฺญี อรูปิยํ เจตาเปติ, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติ อิมินา นเยน สพฺพตฺถ โยชนา เวทิตพฺพาฯ