เมนู

10. อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตํ

[453] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา คชงฺคลายํ [กชงฺคลายํ (สี. ปี.), กชฺชงฺคลายํ (สฺยา. กํ.)] วิหรติ สุเวฬุวเน [เวฬุวเน (สฺยา. กํ.), มุเขลุวเน (สี. ปี.)]ฯ อถ โข อุตฺตโร มาณโว ปาราสิวิยนฺเตวาสี [ปาราสริยนฺเตวาสี (สี. ปี.), ปาราสิริยนฺเตวาสี (สฺยา. กํ.)] เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อุตฺตรํ มาณวํ ปาราสิวิยนฺเตวาสิํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘เทเสติ, อุตฺตร, ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวน’’นฺติ? ‘‘เทเสติ, โภ โคตม, ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวน’’นฺติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน, อุตฺตร, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวน’’นฺติ? ‘‘อิธ, โภ โคตม, จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสติ, โสเตน สทฺทํ น สุณาติ – เอวํ โข, โภ โคตม, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวน’’นฺติฯ ‘‘เอวํ สนฺเต โข, อุตฺตร, อนฺโธ ภาวิตินฺทฺริโย ภวิสฺสติ, พธิโร ภาวิตินฺทฺริโย ภวิสฺสติ; ยถา ปาราสิวิยสฺส พฺราหฺมณสฺส วจนํฯ อนฺโธ หิ, อุตฺตร, จกฺขุนา รูปํ น ปสฺสติ, พธิโร โสเตน สทฺทํ น สุณาตี’’ติฯ เอวํ วุตฺเต, อุตฺตโร มาณโว ปาราสิวิยนฺเตวาสี ตุณฺหีภูโต มงฺกุภูโต ปตฺตกฺขนฺโธ อโธมุโข ปชฺฌายนฺโต อปฺปฏิภาโน นิสีทิฯ

อถ โข ภควา อุตฺตรํ มาณวํ ปาราสิวิยนฺเตวาสิํ ตุณฺหีภูตํ มงฺกุภูตํ ปตฺตกฺขนฺธํ อโธมุขํ ปชฺฌายนฺตํ อปฺปฏิภานํ วิทิตฺวา อายสฺมนฺตํ อานนฺทํ อามนฺเตสิ – ‘‘อญฺญถา โข, อานนฺท, เทเสติ ปาราสิวิโย พฺราหฺมโณ สาวกานํ อินฺทฺริยภาวนํ, อญฺญถา จ ปนานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหตี’’ติฯ ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล ยํ ภควา อริยสฺส วินเย อนุตฺตรํ อินฺทฺริยภาวนํ เทเสยฺยฯ ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติฯ ‘‘เตนหานนฺท, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ ภควา เอตทโวจ –

[454] ‘‘กถญฺจานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหติ? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ ฯ ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํฯ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติฯ ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติฯ

เสยฺยถาปิ, อานนฺท, จกฺขุมา ปุริโส อุมฺมีเลตฺวา วา นิมีเลยฺย, นิมีเลตฺวา วา อุมฺมีเลยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา จกฺขุวิญฺเญยฺเยสุ รูเปสุฯ

[455] ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน โสเตน สทฺทํ สุตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํฯ ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํฯ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติฯ ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติฯ เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส อปฺปกสิเรเนว อจฺฉรํ [อจฺฉริกํ (สฺยา. กํ. ปี. ก.)] ปหเรยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โสตวิญฺเญยฺเยสุ สทฺเทสุฯ

[456] ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํฯ ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํฯ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติฯ ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติฯ เสยฺยถาปิ, อานนฺท , อีสกํโปเณ [อีสกโปเณ (สี. สฺยา. กํ. ปี.), อีสกผเณ (สี. อฏฺฐ.), ‘‘มชฺเฌ อุจฺจํ หุตฺวา’’ติ ฏีกาย สํสนฺทิตพฺพา] ปทุมปลาเส [ปทุมินิปตฺเต (สี. สฺยา. กํ. ปี.)] อุทกผุสิตานิ ปวตฺตนฺติ, น สณฺฐนฺติ; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา ฆานวิญฺเญยฺเยสุ คนฺเธสุฯ

[457] ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํฯ ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํฯ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติฯ

ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติ ฯ เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส ชิวฺหคฺเค เขฬปิณฺฑํ สํยูหิตฺวา อปฺปกสิเรน วเมยฺย [สนฺธเมยฺย (ก.)]; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา ชิวฺหาวิญฺเญยฺเยสุ รเสสุฯ

[458] ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํฯ ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํฯ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติฯ ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติฯ เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา กายวิญฺเญยฺเยสุ โผฏฺฐพฺเพสุฯ

[459] ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส เอวํ ปชานาติ – ‘อุปฺปนฺนํ โข เม อิทํ มนาปํ, อุปฺปนฺนํ อมนาปํ, อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํฯ ตญฺจ โข สงฺขตํ โอฬาริกํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํฯ เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ – อุเปกฺขา’ติฯ ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ; อุเปกฺขา สณฺฐาติฯ เสยฺยถาปิ, อานนฺท, พลวา ปุริโส ทิวสํสนฺตตฺเต [ทิวสสนฺเตตฺเต (สี.)] อโยกฏาเห ทฺเว วา ตีณิ วา อุทกผุสิตานิ นิปาเตยฺยฯ ทนฺโธ, อานนฺท, อุทกผุสิตานํ นิปาโต, อถ โข นํ ขิปฺปเมว ปริกฺขยํ ปริยาทานํ คจฺเฉยฺย; เอวเมว โข, อานนฺท, ยสฺส กสฺสจิ เอวํสีฆํ เอวํตุวฏํ เอวํอปฺปกสิเรน อุปฺปนฺนํ มนาปํ อุปฺปนฺนํ อมนาปํ อุปฺปนฺนํ มนาปามนาปํ นิรุชฺฌติ, อุเปกฺขา สณฺฐาติ – อยํ วุจฺจตานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา มโนวิญฺเญยฺเยสุ ธมฺเมสุฯ เอวํ โข, อานนฺท, อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา โหติฯ

[460] ‘‘กถญฺจานนฺท , เสโข โหติ ปาฏิปโท? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ

โส เตน อุปฺปนฺเนน มนาเปน อุปฺปนฺเนน อมนาเปน อุปฺปนฺเนน มนาปามนาเปน อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติฯ โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา…, ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส เตน อุปฺปนฺเนน มนาเปน อุปฺปนฺเนน อมนาเปน อุปฺปนฺเนน มนาปามนาเปน อฏฺฏียติ หรายติ ชิคุจฺฉติฯ เอวํ โข, อานนฺท, เสโข โหติ ปาฏิปโทฯ

[461] ‘‘กถญฺจานนฺท, อริโย โหติ ภาวิตินฺทฺริโย? อิธานนฺท, ภิกฺขุโน จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล [ปฏิกฺกูเล (สพฺพตฺถ)] อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูลญฺจ อปฺปฏิกูลญฺจ ตทุภยํ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ

[462] ‘‘ปุน จปรํ, อานนฺท, ภิกฺขุโน โสเตน สทฺทํ สุตฺวา…เป.… ฆาเนน คนฺธํ ฆายิตฺวา… ชิวฺหาย รสํ สายิตฺวา… กาเยน โผฏฺฐพฺพํ ผุสิตฺวา… มนสา ธมฺมํ วิญฺญาย อุปฺปชฺชติ มนาปํ, อุปฺปชฺชติ อมนาปํ, อุปฺปชฺชติ มนาปามนาปํฯ โส สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูเล จ อปฺปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’นฺติ, อปฺปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘อปฺปฏิกูเล จ ปฏิกูเล จ ปฏิกูลสญฺญี วิหเรยฺย’นฺติ, ปฏิกูลสญฺญี ตตฺถ วิหรติฯ สเจ อากงฺขติ – ‘ปฏิกูลญฺจ อปฺปฏิกูลญฺจ ตทุภยมฺปฺมฺปฺปิ อภินิวชฺเชตฺวา อุเปกฺขโก วิหเรยฺยํ สโต สมฺปชาโน’ติ, อุเปกฺขโก ตตฺถ วิหรติ สโต สมฺปชาโนฯ เอวํ โข, อานนฺท, อริโย โหติ ภาวิตินฺทฺริโยฯ

[463] ‘‘อิติ โข, อานนฺท, เทสิตา มยา อริยสฺส วินเย อนุตฺตรา อินฺทฺริยภาวนา, เทสิโต เสโข ปาฏิปโท, เทสิโต อริโย ภาวิตินฺทฺริโย ฯ ยํ โข, อานนฺท, สตฺถารา กรณียํ สาวกานํ หิเตสินา อนุกมฺปเกน อนุกมฺปํ อุปาทาย, กตํ โว ตํ มยาฯ เอตานิ, อานนฺท, รุกฺขมูลานิ, เอตานิ สุญฺญาคารานิ, ฌายถานนฺท, มา ปมาทตฺถ, มา ปจฺฉา วิปฺปฏิสาริโน อหุวตฺถฯ อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี’’ติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมโน อายสฺมา อานนฺโท ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทีติฯ

อินฺทฺริยภาวนาสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทสมํฯ

สฬายตนวคฺโค นิฏฺฐิโต ปญฺจโมฯ

ตสฺสุทฺทานํ –

อนาถปิณฺฑิโก ฉนฺโน, ปุณฺโณ นนฺทกราหุลา;

ฉฉกฺกํ สฬายตนิกํ, นครวินฺเทยฺยสุทฺธิกา;

อินฺทฺริยภาวนา จาปิ, วคฺโค โอวาทปญฺจโมติฯ

อิทํ วคฺคานมุทฺทานํ –

เทวทโหนุปโท จ, สุญฺญโต จ วิภงฺคโก;

สฬายตโนติ วคฺคา, อุปริปณฺณาสเก ฐิตาติฯ

อุปริปณฺณาสกํ สมตฺตํฯ

ตีหิ ปณฺณาสเกหิ ปฏิมณฺฑิโต สกโล

มชฺฌิมนิกาโย สมตฺโตฯ