เมนู

โส จ โหติ อภิรูโป ทสฺสนีโย ปาสาทิโก ปรมาย วณฺณโปกฺขรตาย สมนฺนาคโต, ลาภี อนฺนสฺส ปานสฺส วตฺถสฺส ยานสฺส มาลาคนฺธวิเลปนสฺส เสยฺยาวสถปทีเปยฺยสฺสฯ โส กาเยน สุจริตํ จรติ, วาจาย สุจริตํ จรติ, มนสา สุจริตํ จรติฯ โส กาเยน สุจริตํ จริตฺวา, วาจาย สุจริตํ จริตฺวา, มนสา สุจริตํ จริตฺวา, กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, อกฺขธุตฺโต ปฐเมเนว กฏคฺคเหน มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺเฉยฺย; อปฺปมตฺตโก โส, ภิกฺขเว, กฏคฺคโห ยํ โส อกฺขธุตฺโต ปฐเมเนว กฏคฺคเหน มหนฺตํ โภคกฺขนฺธํ อธิคจฺเฉยฺยฯ อถ โข อยเมว ตโต มหนฺตตโร กฏคฺคโห ยํ โส ปณฺฑิโต กาเยน สุจริตํ จริตฺวา, วาจาย สุจริตํ จริตฺวา, มนสา สุจริตํ จริตฺวา กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปชฺชติฯ อยํ, ภิกฺขเว, เกวลา ปริปูรา ปณฺฑิตภูมี’’ติฯ

อิทมโวจ ภควาฯ อตฺตมนา เต ภิกฺขู ภควโต ภาสิตํ อภินนฺทุนฺติฯ

พาลปณฺฑิตสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ นวมํฯ

10. เทวทูตสุตฺตํ

[261] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ทฺเว อคารา สทฺวารา [สนฺธิทฺวารา (ก.)], ตตฺถ จกฺขุมา ปุริโส มชฺเฌ ฐิโต ปสฺเสยฺย มนุสฺเส เคหํ ปวิสนฺเตปิ นิกฺขมนฺเตปิ อนุจงฺกมนฺเตปิ อนุวิจรนฺเตปิ; เอวเมว โข อหํ, ภิกฺขเว, ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน สตฺเต ปสฺสามิ จวมาเน อุปปชฺชมาเน หีเน ปณีเต สุวณฺเณ ทุพฺพณฺเณ, สุคเต ทุคฺคเต ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานามิ – ‘อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺฐิกา สมฺมาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา; เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา สุคติํ สคฺคํ โลกํ อุปปนฺนาฯ อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายสุจริเตน สมนฺนาคตา วจีสุจริเตน สมนฺนาคตา มโนสุจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อนุปวาทกา สมฺมาทิฏฺฐิกา สมฺมาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา; เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา มนุสฺเสสุ อุปปนฺนาฯ อิเม วต โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา ; เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา เปตฺติวิสยํ อุปปนฺนาฯ อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา; เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา ติรจฺฉานโยนิํ อุปปนฺนาฯ อิเม วา ปน โภนฺโต สตฺตา กายทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา วจีทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา มโนทุจฺจริเตน สมนฺนาคตา อริยานํ อุปวาทกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกา มิจฺฉาทิฏฺฐิกมฺมสมาทานา; เต กายสฺส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ทุคฺคติํ วินิปาตํ นิรยํ อุปปนฺนา’’’ติฯ

[262] ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา นานาพาหาสุ คเหตฺวา ยมสฺส รญฺโญ ทสฺเสนฺติ – ‘อยํ, เทว, ปุริโส อมตฺเตยฺโย อเปตฺเตยฺโย อสามญฺโญ อพฺราหฺมญฺโญ, น กุเล เชฏฺฐาปจายีฯ อิมสฺส เทโว ทณฺฑํ ปเณตู’ติฯ ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา ปฐมํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชติ สมนุคาหติ สมนุภาสติ – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ ปฐมํ เทวทูตํ ปาตุภูต’นฺติ? โส เอวมาห – ‘นาทฺทสํ, ภนฺเต’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ ทหรํ กุมารํ มนฺทํ อุตฺตานเสยฺยกํ สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺนํ เสมาน’นฺติ? โส เอวมาห – ‘อทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ตสฺส เต วิญฺญุสฺส สโต มหลฺลกสฺส น เอตทโหสิ – อหมฺปิ โขมฺหิ ชาติธมฺโม, ชาติํ อนตีโตฯ หนฺทาหํ กลฺยาณํ กโรมิ กาเยน วาจาย มนสา’ติ? โส เอวมาห – ‘นาสกฺขิสฺสํ, ภนฺเต, ปมาทสฺสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ , ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ปมาทวตาย น กลฺยาณมกาสิ กาเยน วาจาย มนสาฯ ตคฺฆ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ตถา กริสฺสนฺติ ยถา ตํ ปมตฺตํฯ ตํ โข ปน เต เอตํ ปาปกมฺมํ [ปาปํ กมฺมํ (สี. ปี.)] เนว มาตรา กตํ น ปิตรา กตํ น ภาตรา กตํ น ภคินิยา กตํ น มิตฺตามจฺเจหิ กตํ น ญาติสาโลหิเตหิ กตํ น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ น เทวตาหิ กตํ, ตยาเวตํ ปาปกมฺมํ [ปาปํ กมฺมํ (สี. ปี.)] กตํ, ตฺวญฺเญเวตสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิสฺสสี’’’ติฯ

[263] ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา ปฐมํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชิตฺวา สมนุคาหิตฺวา สมนุภาสิตฺวา ทุติยํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชติ สมนุคาหติ สมนุภาสติ – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ ทุติยํ เทวทูตํ ปาตุภูต’นฺติ? โส เอวมาห – ‘นาทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ อิตฺถิํ วา ปุริสํ วา ( ) [(อาสีติกํ วา นาวุติกํ วา วสฺสสติกํ วา ชาติยา) (ก. สี. สฺยา. กํ. ปี.) ติกงฺคุตฺตเรปิ] ชิณฺณํ โคปานสิวงฺกํ โภคฺคํ ทณฺฑปรายนํ ปเวธมานํ คจฺฉนฺตํ อาตุรํ คตโยพฺพนํ ขณฺฑทนฺตํ ปลิตเกสํ วิลูนํ ขลิตสิรํ [ขลิตํสิโร (สี.), ขลิตํสิรํ (สฺยา. กํ. ปี.)] วลินํ ติลกาหตคตฺต’นฺติ? โส เอวมาห – ‘อทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ , ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ตสฺส เต วิญฺญุสฺส สโต มหลฺลกสฺส น เอตทโหสิ – อหมฺปิ โขมฺหิ ชราธมฺโม, ชรํ อนตีโตฯ หนฺทาหํ กลฺยาณํ กโรมิ กาเยน วาจาย มนสา’ติ? โส เอวมาห – ‘นาสกฺขิสฺสํ, ภนฺเต, ปมาทสฺสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ปมาทวตาย น กลฺยาณมกาสิ กาเยน วาจาย มนสาฯ ตคฺฆ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ตถา กริสฺสนฺติ ยถา ตํ ปมตฺตํฯ

ตํ โข ปน เต เอตํ ปาปกมฺมํ เนว มาตรา กตํ น ปิตรา กตํ น ภาตรา กตํ น ภคินิยา กตํ น มิตฺตามจฺเจหิ กตํ น ญาติสาโลหิเตหิ กตํ น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ น เทวตาหิ กตํ, ตยาเวตํ ปาปกมฺมํ กตํ, ตฺวญฺเญเวตสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิสฺสสี’’’ติฯ

[264] ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา ทุติยํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชิตฺวา สมนุคาหิตฺวา สมนุภาสิตฺวา ตติยํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชติ สมนุคาหติ สมนุภาสติ – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ ตติยํ เทวทูตํ ปาตุภูต’นฺติ? โส เอวมาห – ‘นาทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ อิตฺถิํ วา ปุริสํ วา อาพาธิกํ ทุกฺขิตํ พาฬฺหคิลานํ สเก มุตฺตกรีเส ปลิปนฺนํ เสมานํ อญฺเญหิ วุฏฺฐาปิยมานํ อญฺเญหิ สํเวสิยมาน’นฺติ? โส เอวมาห – ‘อทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ตสฺส เต วิญฺญุสฺส สโต มหลฺลกสฺส น เอตทโหสิ – อหมฺปิ โขมฺหิ พฺยาธิธมฺโม , พฺยาธิํ อนตีโตฯ หนฺทาหํ กลฺยาณํ กโรมิ กาเยน วาจาย มนสา’ติ? โส เอวมาห – ‘นาสกฺขิสฺสํ, ภนฺเต, ปมาทสฺสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ปมาทวตาย น กลฺยาณมกาสิ กาเยน วาจาย มนสาฯ ตคฺฆ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ตถา กริสฺสนฺติ ยถา ตํ ปมตฺตํฯ ตํ โข ปน เต เอตํ ปาปกมฺมํ เนว มาตรา กตํ น ปิตรา กตํ น ภาตรา กตํ น ภคินิยา กตํ น มิตฺตามจฺเจหิ กตํ น ญาติสาโลหิเตหิ กตํ น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ น เทวตาหิ กตํ, ตยาเวตํ ปาปกมฺมํ กตํ, ตฺวญฺเญเวตสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิสฺสสี’’’ติฯ

[265] ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา ตติยํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชิตฺวา สมนุคาหิตฺวา สมนุภาสิตฺวา จตุตฺถํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชติ สมนุคาหติ สมนุภาสติ – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ จตุตฺถํ เทวทูตํ ปาตุภูต’นฺติ? โส เอวมาห – ‘นาทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ ราชาโน โจรํ อาคุจาริํ คเหตฺวา วิวิธา กมฺมการณา กาเรนฺเต – กสาหิปิ ตาเฬนฺเต เวตฺเตหิปิ ตาเฬนฺเต อทฺธทณฺฑเกหิปิ ตาเฬนฺเต หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺเต ปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺทนฺเต กณฺณมฺปิ ฉินฺทนฺเต นาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺทนฺเต พิลงฺคถาลิกมฺปิ กโรนฺเต สงฺขมุณฺฑิกมฺปิ กโรนฺเต ราหุมุขมฺปิ กโรนฺเต โชติมาลิกมฺปิ กโรนฺเต หตฺถปชฺโชติกมฺปิ กโรนฺเต เอรกวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต จีรกวาสิกมฺปิ กโรนฺเต เอเณยฺยกมฺปิ กโรนฺเต พฬิสมํสิกมฺปิ กโรนฺเต กหาปณิกมฺปิ กโรนฺเต ขาราปตจฺฉิกมฺปิ กโรนฺเต ปลิฆปริวตฺติกมฺปิ กโรนฺเต ปลาลปีฐกมฺปิ กโรนฺเต ตตฺเตนปิ เตเลน โอสิญฺจนฺเต สุนเขหิปิ ขาทาเปนฺเต ชีวนฺตมฺปิ สูเล อุตฺตาเสนฺเต อสินาปิ สีสํ ฉินฺทนฺเต’ติ? โส เอวมาห – ‘อทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ตสฺส เต วิญฺญุสฺส สโต มหลฺลกสฺส น เอตทโหสิ – เย กิร, โภ, ปาปกานิ กมฺมานิ กโรนฺติ เต ทิฏฺเฐว ธมฺเม เอวรูปา วิวิธา กมฺมการณา กรียนฺติ, กิมงฺคํ [กิมงฺค (สี. ปี.)] ปน ปรตฺถ ! หนฺทาหํ กลฺยาณํ กโรมิ กาเยน วาจาย มนสา’ติ? โส เอวมาห – ‘นาสกฺขิสฺสํ, ภนฺเต, ปมาทสฺสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ปมาทวตาย น กลฺยาณมกาสิ กาเยน วาจาย มนสาฯ ตคฺฆ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ตถา กริสฺสนฺติ ยถา ตํ ปมตฺตํฯ ตํ โข ปน เต เอตํ ปาปกมฺมํ เนว มาตรา กตํ น ปิตรา กตํ น ภาตรา กตํ น ภคินิยา กตํ น มิตฺตามจฺเจหิ กตํ น ญาติสาโลหิเตหิ กตํ น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ น เทวตาหิ กตํ, ตยาเวตํ ปาปกมฺมํ กตํ, ตฺวญฺเญเวตสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิสฺสสี’’’ติฯ

[266] ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา จตุตฺถํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชิตฺวา สมนุคาหิตฺวา สมนุภาสิตฺวา ปญฺจมํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชติ สมนุคาหติ สมนุภาสติ – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ ปญฺจมํ เทวทูตํ ปาตุภูต’นฺติ? โส เอวมาห – ‘นาทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, น ตฺวํ อทฺทส มนุสฺเสสุ อิตฺถิํ วา ปุริสํ วา เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา ตีหมตํ วา อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกชาต’นฺติ? โส เอวมาห – ‘อทฺทสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ , ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ตสฺส เต วิญฺญุสฺส สโต มหลฺลกสฺส น เอตทโหสิ – อหมฺปิ โขมฺหิ มรณธมฺโม, มรณํ อนตีโตฯ หนฺทาหํ กลฺยาณํ กโรมิ กาเยน วาจาย มนสา’ติ? โส เอวมาห – ‘นาสกฺขิสฺสํ, ภนฺเต, ปมาทสฺสํ, ภนฺเต’’’ติฯ

‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา เอวมาห – ‘อมฺโภ ปุริส, ปมาทวตาย น กลฺยาณมกาสิ กาเยน วาจาย มนสาฯ ตคฺฆ ตฺวํ, อมฺโภ ปุริส, ตถา กริสฺสนฺติ ยถา ตํ ปมตฺตํฯ ตํ โข ปน เต เอตํ ปาปกมฺมํ เนว มาตรา กตํ น ปิตรา กตํ น ภาตรา กตํ น ภคินิยา กตํ น มิตฺตามจฺเจหิ กตํ น ญาติสาโลหิเตหิ กตํ น สมณพฺราหฺมเณหิ กตํ น เทวตาหิ กตํ, ตยาเวตํ ปาปกมฺมํ กตํ, ตฺวญฺเญเวตสฺส วิปากํ ปฏิสํเวทิสฺสสี’’’ติฯ

[267] ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, ยโม ราชา ปญฺจมํ เทวทูตํ สมนุยุญฺชิตฺวา สมนุคาหิตฺวา สมนุภาสิตฺวา ตุณฺหี โหติฯ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา ปญฺจวิธพนฺธนํ นาม กมฺมการณํ กโรนฺติ – ตตฺตํ อโยขิลํ หตฺเถ คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขิลํ ทุติเย หตฺเถ คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขิลํ ปาเท คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขิลํ ทุติเย ปาเท คเมนฺติ, ตตฺตํ อโยขิลํ มชฺเฌอุรสฺมิํ คเมนฺติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลํ กโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา สํเวเสตฺวา กุฐารีหิ ตจฺฉนฺติ…เป.… ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ คเหตฺวา วาสีหิ ตจฺฉนฺติ…เป.… ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา รเถ โยเชตฺวา อาทิตฺตาย ปถวิยา สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย สาเรนฺติปิ, ปจฺจาสาเรนฺติปิ…เป.… ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา มหนฺตํ องฺคารปพฺพตํ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํ อาโรเปนฺติปิ โอโรเปนฺติปิ…เป.… ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา อุทฺธํปาทํ อโธสิรํ คเหตฺวา ตตฺตาย โลหกุมฺภิยา ปกฺขิปนฺติ อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตายฯ โส ตตฺถ เผณุทฺเทหกํ ปจฺจติฯ โส ตตฺถ เผณุทฺเทหกํ ปจฺจมาโน สกิมฺปิ อุทฺธํ คจฺฉติ, สกิมฺปิ อโธ คจฺฉติ, สกิมฺปิ ติริยํ คจฺฉติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา มหานิรเย ปกฺขิปนฺติฯ โส โข ปน, ภิกฺขเว, มหานิรโย –

‘‘จตุกฺกณฺโณ จตุทฺวาโร, วิภตฺโต ภาคโส มิโต;

อโยปาการปริยนฺโต, อยสา ปฏิกุชฺชิโตฯ

‘‘ตสฺส อโยมยา ภูมิ, ชลิตา เตชสายุตา;

สมนฺตา โยชนสตํ, ผริตฺวา ติฏฺฐติ สพฺพทา’’

[268] ‘‘ตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, มหานิรยสฺส ปุรตฺถิมาย ภิตฺติยา อจฺจิ อุฏฺฐหิตฺวา ปจฺฉิมาย ภิตฺติยา ปฏิหญฺญติ, ปจฺฉิมาย ภิตฺติยา อจฺจิ อุฏฺฐหิตฺวา ปุรตฺถิมาย ภิตฺติยา ปฏิหญฺญติ, อุตฺตราย ภิตฺติยา อจฺจิ อุฏฺฐหิตฺวา ทกฺขิณาย ภิตฺติยา ปฏิหญฺญติ, ทกฺขิณาย ภิตฺติยา อจฺจิ อุฏฺฐหิตฺวา อุตฺตราย ภิตฺติยา ปฏิหญฺญติ, เหฏฺฐา อจฺจิ อุฏฺฐหิตฺวา อุปริ ปฏิหญฺญติ, อุปริโต อจฺจิ อุฏฺฐหิตฺวา เหฏฺฐา ปฏิหญฺญติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ตสฺส มหานิรยสฺส ปุรตฺถิมํ ทฺวารํ อปาปุรียติ [อวาปุรียติ (สี.)]ฯ โส ตตฺถ สีเฆน ชเวน ธาวติฯ ตสฺส สีเฆน ชเวน ธาวโต ฉวิมฺปิ ฑยฺหติ, จมฺมมฺปิ ฑยฺหติ, มํสมฺปิ ฑยฺหติ, นฺหารุมฺปิ ฑยฺหติ, อฏฺฐีนิปิ สมฺปธูปายนฺติ, อุพฺภตํ ตาทิสเมว โหติฯ ยโต จ โข โส, ภิกฺขเว, พหุสมฺปตฺโต โหติ, อถ ตํ ทฺวารํ ปิธียติ [ปิถียติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]ฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ตสฺส มหานิรยสฺส ปจฺฉิมํ ทฺวารํ อปาปุรียติ…เป.… อุตฺตรํ ทฺวารํ อปาปุรียติ…เป.… ทกฺขิณํ ทฺวารํ อปาปุรียติ ฯ โส ตตฺถ สีเฆน ชเวน ธาวติฯ ตสฺส สีเฆน ชเวน ธาวโต ฉวิมฺปิ ฑยฺหติ, จมฺมมฺปิ ฑยฺหติ, มํสมฺปิ ฑยฺหติ, นฺหารุมฺปิ ฑยฺหติ, อฏฺฐีนิปิ สมฺปธูปายนฺติ, อุพฺภตํ ตาทิสเมว โหติฯ ยโต จ โข โส, ภิกฺขเว, พหุสมฺปตฺโต โหติ, อถ ตํ ทฺวารํ ปิธียติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ กทาจิ กรหจิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ตสฺส มหานิรยสฺส ปุรตฺถิมํ ทฺวารํ อปาปุรียติฯ โส ตตฺถ สีเฆน ชเวน ธาวติฯ ตสฺส สีเฆน ชเวน ธาวโต ฉวิมฺปิ ฑยฺหติ, จมฺมมฺปิ ฑยฺหติ, มํสมฺปิ ฑยฺหติ, นฺหารุมฺปิ ฑยฺหติ, อฏฺฐีนิปิ สมฺปธูปายนฺติ, อุพฺภตํ ตาทิสเมว โหติฯ โส เตน ทฺวาเรน นิกฺขมติฯ

[269] ‘‘ตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, มหานิรยสฺส สมนนฺตรา สหิตเมว มหนฺโต คูถนิรโยฯ โส ตตฺถ ปตติฯ ตสฺมิํ โข ปน, ภิกฺขเว, คูถนิรเย สูจิมุขา ปาณา ฉวิํ ฉินฺทนฺติ, ฉวิํ เฉตฺวา จมฺมํ ฉินฺทนฺติ, จมฺมํ เฉตฺวา มํสํ ฉินฺทนฺติ, มํสํ เฉตฺวา นฺหารุํ ฉินฺทนฺติ, นฺหารุํ เฉตฺวา อฏฺฐิํ ฉินฺทนฺติ, อฏฺฐิํ เฉตฺวา อฏฺฐิมิญฺชํ ขาทนฺติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

‘‘ตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, คูถนิรยสฺส สมนนฺตรา สหิตเมว มหนฺโต กุกฺกุลนิรโยฯ โส ตตฺถ ปตติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

‘‘ตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, กุกฺกุลนิรยสฺส สมนนฺตรา สหิตเมว มหนฺตํ สิมฺพลิวนํ อุทฺธํ [อุจฺจํ (สฺยา. กํ.), อุพฺภโต (ก.)] โยชนมุคฺคตํ โสฬสงฺคุลกณฺฏกํ [โสฬสงฺคุลกณฺฑกํ (สี.)] อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํฯ ตตฺถ อาโรเปนฺติปิ โอโรเปนฺติปิฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

‘‘ตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, สิมฺพลิวนสฺส สมนนฺตรา สหิตเมว มหนฺตํ อสิปตฺตวนํฯ โส ตตฺถ ปวิสติฯ ตสฺส วาเตริตานิ ปตฺตานิ ปติตานิ หตฺถมฺปิ ฉินฺทนฺติ, ปาทมฺปิ ฉินฺทนฺติ, หตฺถปาทมฺปิ ฉินฺทนฺติ, กณฺณมฺปิ ฉินฺทนฺติ, นาสมฺปิ ฉินฺทนฺติ, กณฺณนาสมฺปิ ฉินฺทนฺติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

‘‘ตสฺส โข ปน, ภิกฺขเว, อสิปตฺตวนสฺส สมนนฺตรา สหิตเมว มหตี ขาโรทกา นที [ขาโรทิกา นที (สี.)]ฯ โส ตตฺถ ปตติฯ

โส ตตฺถ อนุโสตมฺปิ วุยฺหติ , ปฏิโสตมฺปิ วุยฺหติ, อนุโสตปฏิโสตมฺปิ วุยฺหติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

[270] ‘‘ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา พลิเสน อุทฺธริตฺวา ถเล ปติฏฺฐาเปตฺวา เอวมาหํสุ – ‘อมฺโภ ปุริส, กิํ อิจฺฉสี’ติ? โส เอวมาห – ‘ชิฆจฺฉิโตสฺมิ, ภนฺเต’ติฯ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา ตตฺเตน อโยสงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อาทิตฺเตน สมฺปชฺชลิเตน สโชติภูเตน ตตฺตํ โลหคุฬํ มุเข ปกฺขิปนฺติ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํฯ โส ตสฺส [ตํ ตสฺส (ก.), ตสฺส (สี. ปี.)] โอฏฺฐมฺปิ ทหติ [ฑยฺหติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)], มุขมฺปิ ทหติ, กณฺฐมฺปิ ทหติ, อุรมฺปิ [อุทรมฺปิ (สี. สฺยา. กํ.)] ทหติ, อนฺตมฺปิ อนฺตคุณมฺปิ อาทาย อโธภาคา นิกฺขมติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ

‘‘ตเมนํ , ภิกฺขเว, นิรยปาลา เอวมาหํสุ – ‘อมฺโภ ปุริส, กิํ อิจฺฉสี’ติ? โส เอวมาห – ‘ปิปาสิโตสฺมิ, ภนฺเต’ติฯ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา ตตฺเตน อโยสงฺกุนา มุขํ วิวริตฺวา อาทิตฺเตน สมฺปชฺชลิเตน สโชติภูเตน ตตฺตํ ตมฺพโลหํ มุเข อาสิญฺจนฺติ อาทิตฺตํ สมฺปชฺชลิตํ สโชติภูตํฯ ตํ ตสฺส [เอตฺถ ปน ปาฐเภโท นตฺถิ] โอฏฺฐมฺปิ ทหติ, มุขมฺปิ ทหติ, กณฺฐมฺปิ ทหติ, อุรมฺปิ ทหติ, อนฺตมฺปิ อนฺตคุณมฺปิ อาทาย อโธภาคา นิกฺขมติฯ โส ตตฺถ ทุกฺขา ติพฺพา ขรา กฏุกา เวทนา เวเทติ, น จ ตาว กาลงฺกโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตีโหติฯ ตเมนํ, ภิกฺขเว, นิรยปาลา ปุน มหานิรเย ปกฺขิปนฺติฯ

‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, ยมสฺส รญฺโญ เอตทโหสิ – ‘เย กิร , โภ, โลเก ปาปกานิ อกุสลานิ กมฺมานิ กโรนฺติ เต เอวรูปา วิวิธา กมฺมการณา กรียนฺติฯ อโห วตาหํ มนุสฺสตฺตํ ลเภยฺยํฯ ตถาคโต จ โลเก อุปฺปชฺเชยฺย อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธฯ ตญฺจาหํ ภควนฺตํ ปยิรุปาเสยฺยํฯ โส จ เม ภควา ธมฺมํ เทเสยฺยฯ ตสฺส จาหํ ภควโต ธมฺมํ อาชาเนยฺย’นฺติฯ ตํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, นาญฺญสฺส สมณสฺส วา พฺราหฺมณสฺส วา สุตฺวา วทามิ, อปิ จ ยเทว สามํ ญาตํ สามํ ทิฏฺฐํ สามํ วิทิตํ ตเทวาหํ วทามี’’ติฯ

[271] อิทมโวจ ภควาฯ อิทํ วตฺวาน [อิทํ วตฺวา (สี. ปี.) เอวมีทิเสสุ ฐาเนสุ] สุคโต อถาปรํ เอตทโวจ สตฺถา –

‘‘โจทิตา เทวทูเตหิ, เย ปมชฺชนฺติ มาณวา;

เต ทีฆรตฺตํ โสจนฺติ, หีนกายูปคา นราฯ

‘‘เย จ โข เทวทูเตหิ, สนฺโต สปฺปุริสา อิธ;

โจทิตา นปฺปมชฺชนฺติ, อริยธมฺเม กุทาจนํฯ

‘‘อุปาทาเน ภยํ ทิสฺวา, ชาติมรณสมฺภเว;

อนุปาทา วิมุจฺจนฺติ, ชาติมรณสงฺขเยฯ

‘‘เต เขมปฺปตฺตา สุขิโน, ทิฏฺฐธมฺมาภินิพฺพุตา;

สพฺพเวรภยาตีตา, สพฺพทุกฺขํ [สพฺพทุกฺขา (ก.)] อุปจฺจคุ’’นฺติฯ

เทวทูตสุตฺตํ นิฏฺฐิตํ ทสมํฯ

สุญฺญตวคฺโค นิฏฺฐิโต ตติโยฯ

ตสฺสุทฺทานํ

ทฺวิธาว สุญฺญตา โหติ, อพฺภุตธมฺมพากุลํ;

อจิรวตภูมิชนาโม, อนุรุทฺธุปกฺกิเลสํ;

พาลปณฺฑิโต เทวทูตญฺจ เต ทสาติฯ

4. วิภงฺควคฺโค

1. ภทฺเทกรตฺตสุตฺตํ

[272] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘ภิกฺขโว’’ติฯ ‘‘ภทนฺเต’’ติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ – ‘‘ภทฺเทกรตฺตสฺส โว, ภิกฺขเว, อุทฺเทสญฺจ วิภงฺคญฺจ เทเสสฺสามิฯ ตํ สุณาถ, สาธุกํ มนสิ กโรถ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสุํฯ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อตีตํ นานฺวาคเมยฺย, นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ;

ยทตีตํ ปหีนํ ตํ, อปฺปตฺตญฺจ อนาคตํฯ

‘‘ปจฺจุปฺปนฺนญฺจ โย [ยํ (เนตฺติปาฬิ)] ธมฺมํ, ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ;

อสํหีรํ [อสํหิรํ (สฺยา. กํ. ก.)] อสํกุปฺปํ, ตํ วิทฺวา มนุพฺรูหเยฯ

‘‘อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ [กิจฺจํ อาตปฺปํ (สี. ก.)], โก ชญฺญา มรณํ สุเว;

น หิ โน สงฺครํ เตน, มหาเสเนน มจฺจุนาฯ

‘‘เอวํ วิหาริํ อาตาปิํ, อโหรตฺตมตนฺทิตํ;

ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ, สนฺโต อาจิกฺขเต มุนิ’’ [มุนีติ (สี. สฺยา. กํ. ปี.)]

[273] ‘‘กถญฺจ , ภิกฺขเว, อตีตํ อนฺวาคเมติ? ‘เอวํรูโป อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํเวทโน อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสญฺโญ อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํสงฺขาโร อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ, ‘เอวํวิญฺญาโณ อโหสิํ อตีตมทฺธาน’นฺติ ตตฺถ นนฺทิํ สมนฺวาเนติ – เอวํ โข, ภิกฺขเว, อตีตํ อนฺวาคเมติฯ