ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ
อภิธมฺมปิฏเก
สมฺโมหวิโนทนี นาม
วิภงฺค-อฏฺฐกถา
1. ขนฺธวิภงฺโค
1. สุตฺตนฺตภาชนียวณฺณนา
จตุสจฺจทโส นาโถ, จตุธา ธมฺมสงฺคณิํ;
ปกาสยิตฺวา สมฺพุทฺโธ, ตสฺเสว สมนนฺตรํฯ
อุเปโต พุทฺธธมฺเมหิ, อฏฺฐารสหิ นายโก;
อฏฺฐารสนฺนํ ขนฺธาทิ-วิภงฺคานํ วเสน ยํฯ
วิภงฺคํ เทสยี สตฺถา, ตสฺส สํวณฺณนากฺกโม;
อิทานิ ยสฺมา สมฺปตฺโต, ตสฺมา ตสฺสตฺถวณฺณนํฯ
กริสฺสามิ วิคาเหตฺวา, โปราณฏฺฐกถานยํ;
สทฺธมฺเม คารวํ กตฺวา, ตํ สุณาถ สมาหิตาติฯ
[1] ปญฺจกฺขนฺธา – รูปกฺขนฺโธ…เป.… วิญฺญาณกฺขนฺโธติ อิทํ วิภงฺคปฺปกรณสฺส อาทิภูเต ขนฺธวิภงฺเค สุตฺตนฺตภาชนียํ นามฯ ตตฺถ ปญฺจาติ คณนปริจฺเฉโทฯ เตน น ตโต เหฏฺฐา น อุทฺธนฺติ ทสฺเสติฯ ขนฺธาติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํฯ ตตฺรายํ ขนฺธ-สทฺโท สมฺพหุเลสุ ฐาเนสุ ทิสฺสติ – ราสิมฺหิ, คุเณ, ปณฺณตฺติยํ, รุฬฺหิยนฺติฯ
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, มหาสมุทฺเท น สุกรํ อุทกสฺส ปมาณํ คเหตุํ – เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสหสฺสานีติ วา เอตฺตกานิ อุทกาฬฺหกสตสหสฺสานีติ วา, อถ โข อสงฺเขฺยยฺโย อปฺปเมยฺโย มหาอุทกกฺขนฺโธตฺเวว สงฺขฺยํ คจฺฉตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. 4.51; 6.37) หิ ราสิโต ขนฺโธ นามฯ นหิ ปริตฺตกํ อุทกํ อุทกกฺขนฺโธติ วุจฺจติ, พหุกเมว วุจฺจติฯ ตถา น ปริตฺตโก รโช รชกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกา คาโว ควกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ พลํ พลกฺขนฺโธ, น อปฺปมตฺตกํ ปุญฺญํ ปุญฺญกฺขนฺโธติ วุจฺจติฯ พหุกเมว หิ รโช รชกฺขนฺโธ, พหุกาว ควาทโย ควกฺขนฺโธ, พลกฺขนฺโธ, ปุญฺญกฺขนฺโธติ วุจฺจนฺติฯ ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. 3.355) ปน คุณโต ขนฺโธ นามฯ ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธํ คงฺคาย นทิยา โสเตน วุยฺหมาน’’นฺติ (สํ. นิ. 4.241)ฯ เอตฺถ ปณฺณตฺติโต ขนฺโธ นามฯ ‘‘ยํ จิตฺตํ มโน มานสํ…เป.… วิญฺญาณํ วิญฺญาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ธ. ส. 63, 65) รุฬฺหิโต ขนฺโธ นามฯ สฺวายมิธ ราสิโต อธิปฺเปโตฯ อยญฺหิ ขนฺธฏฺโฐ นาม ปิณฺฑฏฺโฐ ปูคฏฺโฐ ฆฏฏฺโฐ ราสฏฺโฐฯ ตสฺมา ‘ราสิลกฺขณา ขนฺธา’ติ เวทิตพฺพาฯ โกฏฺฐาสฏฺโฐติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ; โลกสฺมิญฺหิ อิณํ คเหตฺวา โจทิยมานา ‘ทฺวีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสาม, ตีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสามา’ติ วทนฺติฯ อิติ ‘โกฏฺฐาสลกฺขณา ขนฺธา’ติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติฯ เอวเมตฺถ รูปกฺขนฺโธติ รูปราสิ รูปโกฏฺฐาโส, เวทนากฺขนฺโธติ เวทนาราสิ เวทนาโกฏฺฐาโสติ อิมินา นเยน สญฺญากฺขนฺธาทีนํ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ
เอตฺตาวตา สมฺมาสมฺพุทฺโธ ยฺวายํ ‘‘จตฺตาโร จ มหาภูตา จตุนฺนญฺจ มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนาทีสุ เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต ‘ปญฺจวีสติ รูปโกฏฺฐาสา’ติ จ ‘ฉนฺนวุติ รูปโกฏฺฐาสา’ติ จ เอวํปเภโท รูปราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา รูปกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิฯ โย ปนายํ ‘‘สุขา เวทนา, ทุกฺขา เวทนา, อทุกฺขมสุขา เวทนา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกเวทนาราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา เวทนากฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิฯ โย ปนายํ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา สญฺญา…เป.… มโนสมฺผสฺสชา สญฺญา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกสญฺญาราสิ , ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา สญฺญากฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิฯ โย ปนายํ ‘‘จกฺขุสมฺผสฺสชา เจตนา…เป.… มโนสมฺผสฺสชา เจตนา’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกเจตนาราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา สงฺขารกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิฯ
โย ปนายํ ‘‘จกฺขุวิญฺญาณํ, โสตฆานชิวฺหากายวิญฺญาณํ, มโนธาตุ, มโนวิญฺญาณธาตู’’ติ เตสุเยว เอกาทสสุ โอกาเสสุ วิภตฺโต จตุภูมิกจิตฺตราสิ, ตํ สพฺพํ ปริปิณฺเฑตฺวา วิญฺญาณกฺขนฺโธ นามาติ ทสฺเสสิฯ
อปิเจตฺถ สพฺพมฺปิ จตุสมุฏฺฐานิกํ รูปํ รูปกฺขนฺโธ, กามาวจรอฏฺฐกุสลจิตฺตาทีหิ เอกูนนวุติจิตฺเตหิ สหชาตา เวทนา เวทนากฺขนฺโธ, สญฺญา สญฺญากฺขนฺโธ, ผสฺสาทโย ธมฺมา สงฺขารกฺขนฺโธ, เอกูนนวุติ จิตฺตานิ วิญฺญาณกฺขนฺโธติฯ เอวมฺปิ ปญฺจสุ ขนฺเธสุ ธมฺมปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพฯ
1. รูปกฺขนฺธนิทฺเทโส
[2] อิทานิ เต รูปกฺขนฺธาทโย วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ตตฺถ กตโม รูปกฺขนฺโธติอาทิมาหฯ ตตฺถ ตตฺถาติ เตสุ ปญฺจสุ ขนฺเธสุฯ กตโมติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาฯ รูปกฺขนฺโธติ ปุจฺฉิตธมฺมนิทสฺสนํฯ อิทานิ ตํ วิภชนฺโต ยํ กิญฺจิ รูปนฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ยํ กิญฺจีติ อนวเสสปริยาทานํฯ รูปนฺติ อติปฺปสงฺคนิยมนํฯ เอวํ ปททฺวเยนาปิ รูปสฺส อนวเสสปริคฺคโห กโต โหติฯ
ตตฺถ เกนฏฺเฐน รูปนฺติ? รุปฺปนฏฺเฐน รูปํฯ วุตฺตญฺเหตํ ภควตา –
‘‘กิญฺจ , ภิกฺขเว, รูปํ วเทถ? รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจติฯ เกน รุปฺปติ? สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปติ, ชิฆจฺฉายปิ รุปฺปติ, ปิปาสายปิ รุปฺปติ, ฑํสมกสวาตาตปสริสปสมฺผสฺเสนปิ รุปฺปติฯ รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตี’’ติ (สํ. นิ. 3.79)ฯ
ตตฺถ กินฺติ การณปุจฺฉา; เกน การเณน รูปํ วเทถ, เกน การเณน ตํ รูปํ นามาติ อตฺโถฯ รุปฺปตีติ เอตฺถ อิตีติ การณุทฺเทโสฯ ยสฺมา รุปฺปติ ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจตีติ อตฺโถฯ รุปฺปตีติ กุปฺปติ ฆฏฺฏียติ ปีฬิยติ ภิชฺชตีติ อตฺโถฯ เอวํ อิมินา เอตฺตเกน ฐาเนน รุปฺปนฏฺเฐน รูปํ วุตฺตํฯ รุปฺปนลกฺขเณน รูปนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติฯ รุปฺปนลกฺขณญฺเหตํฯ
สีเตนปิ รุปฺปตีติอาทีสุ ปน สีเตน ตาว รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํฯ ติณฺณํ ติณฺณญฺหิ จกฺกวาฬานํ อนฺตเร เอเกโก โลกนฺตริกนิรโย นาม โหติ อฏฺฐโยชนสหสฺสปฺปมาโณ, ยสฺส เนว เหฏฺฐา ปถวี อตฺถิ, น อุปริ จนฺทิมสูริยทีปมณิอาโลโก, นิจฺจนฺธกาโรฯ ตตฺถ นิพฺพตฺตสตฺตานํ ติคาวุโต อตฺตภาโว โหติฯ เต วคฺคุลิโย วิย ปพฺพตปาเท ทีฆปุถุเลหิ นเขหิ ลคฺคิตฺวา อวํสิรา โอลมฺพนฺติฯ ยทา สํสปฺปนฺตา อญฺญมญฺญสฺส หตฺถปาสคตา โหนฺติ อถ ‘ภกฺโข โน ลทฺโธ’ติ มญฺญมานา ตตฺถ พฺยาวฏา วิปริวตฺติตฺวา โลกสนฺธารเก อุทเก ปตนฺติ, สีตวาเต ปหรนฺเตปิ ปกฺกมธุกผลานิ วิย ฉิชฺชิตฺวา อุทเก ปตนฺติฯ ปติตมตฺตาว อจฺจนฺตขาเรน สีโตทเกน ฉินฺนจมฺมนฺหารุมํสอฏฺฐีหิ ภิชฺชมาเนหิ ตตฺตเตเล ปติตปิฏฺฐปิณฺฑิ วิย ปฏปฏายมานา วิลียนฺติฯ เอวํ สีเตน รุปฺปนํ โลกนฺตริกนิรเย ปากฏํฯ มหิํสกรฏฺฐาทีสุปิ หิมปาตสีตเลสุ ปเทเสสุ เอตํ ปากฏเมวฯ ตตฺถ หิ สตฺตา สีเตน ภินฺนจฺฉินฺนสรีรา ชีวิตกฺขยมฺปิ ปาปุณนฺติฯ
อุณฺเหน รุปฺปนํ อวีจิมหานิรเย ปากฏํฯ ตตฺถ หิ ตตฺตาย โลหปถวิยา นิปชฺชาเปตฺวา ปญฺจวิธพนฺธนาทิกรณกาเล สตฺตา มหาทุกฺขํ อนุภวนฺติฯ
ชิฆจฺฉาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย เจว ทุพฺภิกฺขกาเล จ ปากฏํฯ เปตฺติวิสยสฺมิญฺหิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ กิญฺจิเทว อามิสํ หตฺเถน คเหตฺวา มุเข ปกฺขิปนฺตา นาม น โหนฺติ ฯ อนฺโตอุทรํ อาทิตฺตสุสิรรุกฺโข วิย โหติฯ ทุพฺภิกฺเข กญฺชิกมตฺตมฺปิ อลภิตฺวา มรณปฺปตฺตานํ ปมาณํ นาม นตฺถิฯ
ปิปาสาย รุปฺปนํ กาลกญฺชิกาทีสุ ปากฏํฯ ตตฺถ หิ สตฺตา ทฺเว ตีณิ พุทฺธนฺตรานิ หทยเตมนมตฺตํ วา ชิวฺหาเตมนมตฺตํ วา อุทกพินฺทุํ ลทฺธุํ น สกฺโกนฺติฯ ‘ปานียํ ปิวิสฺสามา’ติ นทิํ คตานมฺปิ นที วาลิกาตลํ สมฺปชฺชติฯ มหาสมุทฺทํ ปกฺขนฺตานมฺปิ มหาสมุทฺโท ปิฏฺฐิปาสาโณ โหติฯ เต สุสฺสนฺตา พลวทุกฺขปีฬิตา วิจรนฺติฯ
เอโก กิร กาลกญฺชิกอสุโร ปิปาสํ อธิวาเสตุํ อสกฺโกนฺโต โยชนคมฺภีรวิตฺถารํ มหาคงฺคํ โอตริฯ ตสฺส คตคตฏฺฐาเน อุทกํ ฉิชฺชติ, ธูโม อุคฺคจฺฉติ, ตตฺเต ปิฏฺฐิปาสาเณ จงฺกมนกาโล วิย โหติฯ ตสฺส อุทกสทฺทํ สุตฺวา อิโต จิโต จ วิจรนฺตสฺเสว รตฺติ วิภายิฯ อถ นํ ปาโตว ภิกฺขาจารํ คจฺฉนฺตา ติํสมตฺตา ปิณฺฑจาริกภิกฺขู ทิสฺวา – ‘‘โก นาม ตฺวํ, สปฺปุริสา’’ติ ปุจฺฉิํสุฯ ‘‘เปโตหมสฺมิ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘กิํ ปริเยสสี’’ติ? ‘‘ปานียํ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘อยํ คงฺคา ปริปุณฺณา, กิํ ตฺวํ น ปสฺสสี’’ติ? ‘‘น อุปกปฺปติ, ภนฺเต’’ติฯ ‘‘เตน หิ คงฺคาปิฏฺเฐ นิปชฺช, มุเข เต ปานียํ อาสิญฺจิสฺสามา’’ติฯ โส วาลิกาปุฬิเน อุตฺตาโน นิปชฺชิฯ ภิกฺขู ติํสมตฺเต ปตฺเต นีหริตฺวา อุทกํ อาหริตฺวา อาหริตฺวา ตสฺส มุเข อาสิญฺจิํสุฯ เตสํ ตถา กโรนฺตานํเยว เวลา อุปกฏฺฐา ชาตาฯ ตโต ‘‘ภิกฺขาจารกาโล อมฺหากํ, สปฺปุริส; กจฺจิ เต อสฺสาทมตฺตา ลทฺธา’’ติ อาหํสุฯ เปโต ‘‘สเจ เม, ภนฺเต, ติํสมตฺตานํ อยฺยานํ ติํสมตฺเตหิ ปตฺเตหิ อาสิตฺตอุทกโต อฑฺฒปสตมตฺตมฺปิ ปรคลคตํ, เปตตฺตภาวโต โมกฺโข มา โหตู’’ติ อาหฯ เอวํ ปิปาสาย รุปฺปนํ เปตฺติวิสเย ปากฏํฯ
ฑํสาทีหิ รุปฺปนํ ฑํสมกฺขิกาทิสมฺพพหุเลสุ ปเทเสสุ ปากฏํฯ เอตฺถ จ ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา, มกสาติ มกสาว วาตาติ กุจฺฉิวาตปิฏฺฐิวาตาทิวเสน เวทิตพฺพาฯ สรีรสฺมิญฺหิ วาตโรโค อุปฺปชฺชิตฺวา หตฺถปาทปิฏฺฐิอาทีนิ ภินฺทติ, กาณํ กโรติ, ขุชฺชํ กโรติ, ปีฐสปฺปิํ กโรติฯ อาตโปติ สูริยาตโปฯ เตน รุปฺปนํ มรุกนฺตาราทีสุ ปากฏํฯ เอกา กิร อิตฺถี มรุกนฺตาเร รตฺติํ สตฺถโต โอหีนา ทิวา สูริเย อุคฺคจฺฉนฺเต วาลิกาย ตปฺปมานาย ปาเท ฐเปตุํ อสกฺโกนฺตี สีสโต ปจฺฉิํ โอตาเรตฺวา อกฺกมิฯ กเมน ปจฺฉิยา อุณฺหาภิตตฺตาย ฐาตุํ อสกฺโกนฺตี ตสฺสา อุปริ สาฏกํ ฐเปตฺวา อกฺกมิฯ ตสฺมิมฺปิ สนฺตตฺเต องฺเกน คหิตํ ปุตฺตกํ อโธมุขํ นิปชฺชาเปตฺวา กนฺทนฺตํ กนฺทนฺตํ อกฺกมิตฺวา สทฺธิํ เตน ตสฺมิํเยว ฐาเน อุณฺหาภิตตฺตา กาลมกาสิฯ
สรีสปาติ เย เกจิ ทีฆชาติกา สรนฺตา คจฺฉนฺติฯ เตสํ สมฺผสฺเสน รุปฺปนํ อาสีวิสทฏฺฐาทีนํ วเสน เวทิตพฺพํฯ
อิทานิ ‘ยํ กิญฺจิ รูป’นฺติ ปเทน สํคหิตํ ปญฺจวีสติโกฏฺฐาสฉนฺนวุติโกฏฺฐาสปฺปเภทํ สพฺพมฺปิ รูปํ อตีตาทิโกฏฺฐาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติ อาหฯ ตโต ปรํ ตเทว อชฺฌตฺตทุกาทีสุ จตูสุ ทุเกสุ ปกฺขิปิตฺวา ทสฺเสตุํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วาติอาทิ วุตฺตํฯ ตโต ปรํ สพฺพมฺเปตํ เอกาทสสุ ปเทเสสุ ปริยาทิยิตฺวา ทสฺสิตํ รูปํ เอกโต ปิณฺฑํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ตเทกชฺฌนฺติอาทิ วุตฺตํฯ
ตตฺถ ตเทกชฺฌนฺติ ตํ เอกชฺฌํ; อภิสญฺญูหิตฺวาติ อภิสํหริตฺวา; อภิสงฺขิปิตฺวาติ สงฺเขปํ กตฺวา; อิทํ วุตฺตํ โหติ – สพฺพมฺเปตํ วุตฺตปฺปการํ รูปํ รุปฺปนลกฺขณสงฺขาเต เอกวิธภาเว ปญฺญาย ราสิํ กตฺวา รูปกฺขนฺโธ นามาติ วุจฺจตีติฯ เอเตน สพฺพมฺปิ รูปํ รุปฺปนลกฺขเณ ราสิภาวูปคมเนน รูปกฺขนฺโธติ ทสฺสิตํ โหติฯ น หิ รูปโต อญฺโญ รูปกฺขนฺโธ นาม อตฺถิฯ ยถา จ รูปํ, เอวํ เวทนาทโยปิ เวทยิตลกฺขณาทีสุ ราสิภาวูปคมเนนฯ น หิ เวทนาทีหิ อญฺเญ เวทนากฺขนฺธาทโย นาม อตฺถิฯ
[3] อิทานิ เอเกกสฺมิํ โอกาเส ปกฺขิตฺตํ รูปํ วิสุํ วิสุํ ภาเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ตตฺถ กตมํ รูปํ อตีตนฺติอาทิมาหฯ ตตฺถ ตตฺถาติ เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา ฐปิตมาติกาย ภุมฺมํฯ อิทํ วุตฺตํ โหติ – อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติอาทินา นเยน ฐปิตาย มาติกาย ยํ อตีตํ รูปนฺติ วุตฺตํ, ตํ กตมนฺติ? อิมินา อุปาเยน สพฺพปุจฺฉาสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ อตีตํ นิรุทฺธนฺติอาทีนิ ปทานิ นิกฺเขปกณฺฑสฺส อตีตตฺติกภาชนียวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺฐ. 1044) วุตฺตาเนวฯ จตฺตาโร จ มหาภูตาติ อิทํ อตีตนฺติ วุตฺตรูปสฺส สภาวทสฺสนํฯ ยถา เจตฺถ เอวํ สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพฯ อิมินา อิทํ ทสฺเสติ – อตีตรูปมฺปิ ภูตานิ เจว ภูตานิ อุปาทาย นิพฺพตฺตรูปญฺจ, อนาคตมฺปิ…เป.… ทูรสนฺติกมฺปิ ฯ น หิ ภูเตหิ เจว ภูตานิ อุปาทาย ปวตฺตรูปโต จ อญฺญํ รูปํ นาม อตฺถีติฯ
อปโร นโย – อตีตํเสน สงฺคหิตนฺติ อตีตโกฏฺฐาเสเนว สงฺคหิตํ, เอตฺเถว คณนํ คตํฯ