9. เมตฺตสุตฺตํ
[62] [อิติวุ. 22 อิติวุตฺตเกปิ] ‘‘มา , ภิกฺขเว, ปุญฺญานํ ภายิตฺถฯ สุขสฺเสตํ, ภิกฺขเว , อธิวจนํ ยทิทํ ปุญฺญานิ [ยทิทํ ปุญฺญนฺติ (สี.), ยทิทํ ปุญฺญานิ (ก.)]ฯ อภิชานามิ โข ปนาหํ [ภิกฺขเว ทีฆรตฺตํ อิฏฺฐํ (สฺยา.), ภิกฺขเว ทีฆรตฺตํ ปุญฺญานํ อิฏฺฐํ (?)], ภิกฺขเว, ทีฆรตฺตํ กตานํ ปุญฺญานํ ทีฆรตฺตํ อิฏฺฐํ [ภิกฺขเว ทีฆรตฺตํ อิฏฺฐํ (สฺยา.), ภิกฺขเว ทีฆรตฺตํ ปุญฺญานํ อิฏฺฐํ (?)] กนฺตํ มนาปํ วิปากํ ปจฺจนุภูตํฯ สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวสิํ ฯ สตฺต วสฺสานิ เมตฺตํ จิตฺตํ ภาเวตฺวา สตฺต สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป นยิมํ โลกํ ปุนาคมาสิํฯ สํวฏฺฏมาเน สุทาหํ [สํวฏฺฏมานสฺสุทาหํ (ก.)], ภิกฺขเว, โลเก อาภสฺสรูปโค โหมิ, วิวฏฺฏมาเน โลเก สุญฺญํ พฺรหฺมวิมานํ อุปปชฺชามิฯ
‘‘ตตฺร สุทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมา โหมิ มหาพฺรหฺมา อภิภู อนภิภูโต อญฺญทตฺถุทโส วสวตฺตีฯ ฉตฺติํสกฺขตฺตุํ โข ปนาหํ, ภิกฺขเว, สกฺโก อโหสิํ เทวานมินฺโท; อเนกสตกฺขตฺตุํ ราชา อโหสิํ จกฺกวตฺตี ธมฺมิโก ธมฺมราชา จาตุรนฺโต วิชิตาวี ชนปทตฺถาวริยปฺปตฺโต สตฺตรตนสมนฺนาคโตฯ ตสฺส มยฺหํ, ภิกฺขเว, อิมานิ สตฺต รตนานิ อเหสุํ, เสยฺยถิทํ – จกฺกรตนํ, หตฺถิรตนํ, อสฺสรตนํ, มณิรตนํ, อิตฺถิรตนํ, คหปติรตนํ, ปริณายกรตนเมว สตฺตมํฯ ปโรสหสฺสํ โข ปน เม, ภิกฺขเว, ปุตฺตา อเหสุํ สูรา วีรงฺครูปา ปรเสนปฺปมทฺทนาฯ โส อิมํ ปถวิํ สาครปริยนฺตํ อทณฺเฑน อสตฺเถน ธมฺเมน อภิวิชิย อชฺฌาวสิ’’นฺติ [อชฺฌาวสนฺติ (สฺยา.) อชฺฌาวสติ (สี. ก.)]ฯ
‘‘ปสฺส ปุญฺญานํ วิปากํ, กุสลานํ สุเขสิโน [สุเขสินํ (สี.)];
เมตฺตํ จิตฺตํ วิภาเวตฺวา, สตฺต วสฺสานิ ภิกฺขโว [ภิกฺขเว (ก.)];
สตฺตสํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป , นยิมํ โลกํ ปุนาคมิํ [ปุนาคมํ (สฺยา.)]ฯ
‘‘สํวฏฺฏมาเน โลกมฺหิ, โหมิ อาภสฺสรูปโค;
วิวฏฺฏมาเน โลกสฺมิํ, สุญฺญพฺรหฺมูปโค อหุํฯ
‘‘สตฺตกฺขตฺตุํ มหาพฺรหฺมา, วสวตฺตี ตทา อหุํ;
ฉตฺติํสกฺขตฺตุํ เทวินฺโท, เทวรชฺชมการยิํฯ
‘‘จกฺกวตฺตี อหุํ ราชา, ชมฺพุมณฺฑสฺส [ชพฺมุทีปสฺส (สี.), ชมฺพุสณฺฑสฺส (สฺยา.)] อิสฺสโร;
มุทฺธาวสิตฺโต [มุทฺธาภิสิตฺโต (ก.)] ขตฺติโย, มนุสฺสาธิปตี อหุํฯ
‘‘อทณฺเฑน อสตฺเถน, วิเชยฺย ปถวิํ อิมํ;
อสาหเสน กมฺเมน [ธมฺเมน (สี. สฺยา.)], สเมน อนุสาสิ ตํฯ
‘‘ธมฺเมน รชฺชํ กาเรตฺวา, อสฺมิํ ปถวิมณฺฑเล;
มหทฺธเน มหาโภเค, อฑฺเฒ อชายิหํ กุเลฯ
‘‘สพฺพกาเมหิ สมฺปนฺเน [สมฺปุณฺเณ (ก.)], รตเนหิ จ สตฺตหิ;
พุทฺธา สงฺคาหกา โลเก, เตหิ เอตํ สุเทสิตํฯ
‘‘เอโส เหตุ มหนฺตสฺส, ปถพฺโย เม น วิปชฺชติ [เอส เหตุ มหนฺตสฺส, ปุถพฺโย เยน วุจฺจติ (สี. สฺยา.)];
ปหูตวิตฺตูปกรโณ, ราชา โหติ [โหมิ (สี. สฺยา.)] ปตาปวาฯ
‘‘อิทฺธิมา ยสวา โหติ [โหมิ (สี. สฺยา.)], ชมฺพุมณฺฑสฺส [ชมฺพุสณฺฑสฺส (สี. สฺยา.)] อิสฺสโร;
โก สุตฺวา นปฺปสีเทยฺย, อปิ กณฺหาภิชาติโยฯ
‘‘ตสฺมา หิ อตฺตกาเมน [อตฺถกาเมน (สฺยา. ก.)], มหตฺตมภิกงฺขตา;
สทฺธมฺโม ครุกาตพฺโพ, สรํ พุทฺธานสาสน’’นฺติฯ นวมํ;
10. ภริยาสุตฺตํ
[63] อถ โข ภควา ปุพฺพณฺหสมยํ นิวาเสตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสนํ เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ปญฺญตฺเต อาสเน นิสีทิฯ เตน โข ปน สมเยน อนาถปิณฺฑิกสฺส คหปติสฺส นิเวสเน มนุสฺสา อุจฺจาสทฺทา มหาสทฺทา โหนฺติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อนาถปิณฺฑิกํ คหปติํ ภควา เอตทโวจ –