เมนู

3. ติสฺสพฺรหฺมาสุตฺตํ

[56] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเตฯ อถ โข ทฺเว เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏํ โอภาเสตฺวา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข เอกา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย วิมุตฺตา’’ติฯ อปรา เทวตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เอตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย อนุปาทิเสสา สุวิมุตฺตา’’ติฯ อิทมโวจุํ ตา เทวตาฯ สมนุญฺโญ สตฺถา อโหสิฯ อถ โข ตา เทวตา ‘‘สมนุญฺโญ สตฺถา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิํสุฯ

อถ โข ภควา ตสฺสา รตฺติยา อจฺจเยน ภิกฺขู อามนฺเตสิ – ‘‘อิมํ, ภิกฺขเว, รตฺติํ ทฺเว เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ คิชฺฌกูฏํ โอภาเสตฺวา เยนาหํ เตนุปสงฺกมิํสุ; อุปสงฺกมิตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข, ภิกฺขเว, เอกา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘เอตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย วิมุตฺตา’ติฯ อปรา เทวตา มํ เอตทโวจ – ‘เอตา, ภนฺเต, ภิกฺขุนิโย อนุปาทิเสสา สุวิมุตฺตา’ติฯ อิทมโวจุํ, ภิกฺขเว, ตา เทวตาฯ อิทํ วตฺวา มํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิํสู’’ติฯ

เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต อวิทูเร นิสินฺโน โหติฯ อถ โข อายสฺมโต มหาโมคฺคลฺลานสฺส เอตทโหสิ – ‘‘กตเมสานํ โข เทวานํ เอวํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ? เตน โข ปน สมเยน ติสฺโส นาม ภิกฺขุ อธุนากาลงฺกโต อญฺญตรํ พฺรหฺมโลกํ อุปปนฺโน โหติฯ ตตฺราปิ นํ เอวํ ชานนฺติ – ‘‘ติสฺโส พฺรหฺมา มหิทฺธิโก มหานุภาโว’’ติฯ

อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย, เอวเมวํ – คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต อนฺตรหิโต ตสฺมิํ พฺรหฺมโลเก ปาตุรโหสิฯ

อทฺทสา โข ติสฺโส พฺรหฺมา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํฯ ทิสฺวา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ เอตทโวจ – ‘‘เอหิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน; สฺวาคตํ, มาริส โมคฺคลฺลาน! จิรสฺสํ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิมํ ปริยายมกาสิ , ยทิทํ อิธาคมนายฯ นิสีท, มาริส โมคฺคลฺลาน, อิทมาสนํ ปญฺญตฺต’’นฺติฯ นิสีทิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ปญฺญตฺเต อาสเนฯ ติสฺโสปิ โข พฺรหฺมา อายสฺมนฺตํ มหาโมคฺคลฺลานํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข ติสฺสํ พฺรหฺมานํ อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เอตทโวจ – ‘‘กตเมสานํ โข, ติสฺส , เทวานํ เอวํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ? ‘‘พฺรหฺมกายิกานํ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เทวานํ เอวํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติฯ

‘‘สพฺเพสญฺเญว โข, ติสฺส, พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ เอวํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติ? ‘‘น โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, สพฺเพสํ พฺรหฺมกายิกานํ เทวานํ เอวํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติฯ

‘‘เย โข เต, มาริส โมคฺคลฺลาน, พฺรหฺมกายิกา เทวา พฺรหฺเมน อายุนา สนฺตุฏฺฐา พฺรหฺเมน วณฺเณน พฺรหฺเมน สุเขน พฺรหฺเมน ยเสน พฺรหฺเมน อาธิปเตยฺเยน สนฺตุฏฺฐา, เต อุตฺตริ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ นปฺปชานนฺติฯ เตสํ น เอวํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’ติฯ เย จ โข เต, มาริส โมคฺคลฺลาน, พฺรหฺมกายิกา เทวา พฺรหฺเมน อายุนา อสนฺตุฏฺฐา, พฺรหฺเมน วณฺเณน พฺรหฺเมน สุเขน พฺรหฺเมน ยเสน พฺรหฺเมน อาธิปเตยฺเยน อสนฺตุฏฺฐา, เต จ อุตฺตริ นิสฺสรณํ ยถาภูตํ ปชานนฺติฯ เตสํ เอวํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติฯ

‘‘อิธ, มาริส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต โหติฯ ตเมนํ เต เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา อุภโตภาควิมุตฺโตฯ ยาวสฺส กาโย ฐสฺสติ ตาว นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสาฯ กายสฺส เภทา น นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา’ติฯ

เอวมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน , เตสํ เทวานํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติฯ

‘‘อิธ ปน, มาริส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ ปญฺญาวิมุตฺโต โหติฯ ตเมนํ เต เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา ปญฺญาวิมุตฺโตฯ ยาวสฺส กาโย ฐสฺสติ ตาว นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสาฯ กายสฺส เภทา น นํ ทกฺขนฺติ เทวมนุสฺสา’ติฯ เอวมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เตสํ เทวานํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติฯ

‘‘อิธ ปน, มาริส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ กายสกฺขี โหติฯ ตเมนํ เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา กายสกฺขีฯ อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’ติฯ เอวมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เตสํ เทวานํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติฯ

‘‘อิธ ปน, มาริส โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ ทิฏฺฐิปฺปตฺโต โหติ…เป.… สทฺธาวิมุตฺโต โหติ…เป.… ธมฺมานุสารี โหติฯ ตเมนํ เต เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา ธมฺมานุสารี ฯ อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’ติฯ เอวมฺปิ โข, มาริส โมคฺคลฺลาน, เตสํ เทวานํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติฯ

อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ติสฺสสฺส พฺรหฺมุโน ภาสิตํ อภินนฺทิตฺวา อนุโมทิตฺวา – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย, เอวเมวํ – พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต คิชฺฌกูเฏ ปพฺพเต ปาตุรโหสิฯ

อถ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ยาวตโก อโหสิ ติสฺเสน พฺรหฺมุนา สทฺธิํ กถาสลฺลาโป ตํ สพฺพํ ภควโต อาโรเจสิฯ

‘‘น หิ ปน เต, โมคฺคลฺลาน, ติสฺโส พฺรหฺมา สตฺตมํ อนิมิตฺตวิหาริํ ปุคฺคลํ เทเสติ’’ฯ ‘‘เอตสฺส, ภควา, กาโล; เอตสฺส, สุคต, กาโล! ยํ ภควา สตฺตมํ อนิมิตฺตวิหาริํ ปุคฺคลํ เทเสยฺยฯ ภควโต สุตฺวา ภิกฺขู ธาเรสฺสนฺตี’’ติฯ ‘‘เตน หิ, โมคฺคลฺลาน, สุณาหิ, สาธุกํ มนสิ กโรหิ; ภาสิสฺสามี’’ติฯ ‘‘เอวํ, ภนฺเต’’ติ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน ภควโต ปจฺจสฺโสสิฯ ภควา เอตทโวจ –

‘‘อิธ, โมคฺคลฺลาน, ภิกฺขุ สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธิํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ ตเมนํ เต เทวา เอวํ ชานนฺติ – ‘อยํ โข อายสฺมา สพฺพนิมิตฺตานํ อมนสิการา อนิมิตฺตํ เจโตสมาธิํ อุปสมฺปชฺช วิหรติฯ อปฺเปว นาม อยมายสฺมา อนุโลมิกานิ เสนาสนานิ ปฏิเสวมาโน กลฺยาณมิตฺเต ภชมาโน อินฺทฺริยานิ สมนฺนานยมาโน – ยสฺสตฺถาย กุลปุตฺตา สมฺมเทว อคารสฺมา อนคาริยํ ปพฺพชนฺติ ตทนุตฺตรํ – พฺรหฺมจริยปริโยสานํ ทิฏฺเฐว ธมฺเม สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยา’ติฯ เอวํ โข, โมคฺคลฺลาน, เตสํ เทวานํ ญาณํ โหติ – ‘สอุปาทิเสเส วา สอุปาทิเสโสติ, อนุปาทิเสเส วา อนุปาทิเสโส’’’ติฯ ตติยํฯ

4. สีหเสนาปติสุตฺตํ

[57] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ ภควา เวสาลิยํ วิหรติ มหาวเน กูฏาคารสาลายํฯ อถ โข สีโห เสนาปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข สีโห เสนาปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘สกฺกา นุ โข, ภนฺเต, สนฺทิฏฺฐิกํ ทานผลํ ปญฺญาเปตุ’’นฺติ?

‘‘เตน หิ, สีห, ตญฺเญเวตฺถ ปฏิปุจฺฉิสฺสามิ, ยถา เต ขเมยฺย ตถา นํ พฺยากเรยฺยาสิฯ