เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[387] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่าใดมี
อิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่า
นั้นกำลังจุติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :526 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้จัก
อุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้
ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคล
เหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็
ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :527 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใด
มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :528 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและในอรูปาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[388] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจร-
ภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :529 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้
และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ โสมนัส-
สินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ และบุคคลเหล่าใดมี
ปุริสะเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :530 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[389] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่ง
จิตนั้น ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :531 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิด
ในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่
สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่ง
จิตนั้น ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดใน
ลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จัก
เกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :532 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[390] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
ในภังคขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขา ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิต
นั้น อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :533 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
สัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :534 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุเปกขินทรียมูลกนัย
[391] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่
สัมปยุตด้วยโสมนัส อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัส สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่
สัมปยุตด้วยโสมนัส อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :535 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัส มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[392] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปัญญินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัญญินทรีบ์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จัก
เกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :536 }