เมนู

พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[361] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิต
ในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติในสุทธาวาสภูมิ บุคคล
ผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :478 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ และ
บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
อุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[362] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่
เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :479 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญ-
สัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่
เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[363] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :480 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 4. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[364] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่
ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและ
อสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :481 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปัญญินทรียมูลกนัย
[365] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิ
ใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[366] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นผู้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสตินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :482 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้
กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มี
จักขุเกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :483 }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 5. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มี
จักขุเกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 39 หน้า :484 }