พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 4. ขณลยมุหุตตกถา (148)
ภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ 3 ประการนี้ 1
มีอยู่จริงมิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. ดังนั้น กาลจึงเป็นสภาวะสำเร็จแล้ว
อัทธากถา จบ
4. ขณลยมุหุตตกถา (148)
ว่าด้วยขณะ ลยะ และมุหุตตะ
[722] สก. ขณะหนึ่ง2 เป็นสภาวะสำเร็จแล้ว ลยะหนึ่งเป็นสภาวะสำเร็จแล้ว
มุหุตตะหนึ่งก็เป็นสภาวะสำเร็จแล้วใช่ไหม
ปร.3 ใช่
สก. เป็นรูปใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เป็นเวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ สังขาร ฯลฯ วิญญาณใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[723] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า มุหุตตะหนึ่งเป็นสภาวะสำเร็จแล้ว ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. พระสูตรที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า ภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ 3
ประการนี้
กถาวัตถุ 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ องฺ.ติก. (แปล) 20/68/270
2 ขณะหนึ่ง หมายถึงชั่วระยะเวลาดีดนิ้วมือ 10 ครั้ง, 10 ขณะเป็น 1 ลยะ, 10 ลยะเป็น 1 ขณลยะ,
10 ขณลยะเป็น 1 มุหุตตะ, 10 มุหุตตะ เป็น 1 ขณมุหุตตะ (อภิธานัปปทีปิกา คาถาที่ 66-67)
3 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายมหาสังฆิกะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 718-719/278)
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 5. อาสวกถา (149)
1. ควรกล่าวถ้อยคำย้อนอดีตกาลว่า อดีตกาลได้มีมาแล้วอย่างนี้
2. ควรกล่าวถ้อยคำมุ่งถึงอนาคตกาลว่า อนาคตกาลจักมีอย่างนี้
3. ควรกล่าวถ้อยคำสืบเนื่องกับปัจจุบันกาลว่า ปัจจุบันกาลมีอยู่
อย่างนี้
ภิกษุทั้งหลาย กถาวัตถุ 3 ประการนี้ 1
มีอยู่จริงมิใช่หรือ
สก. ใช่
ปร. ดังนั้น ขณะหนึ่งจึงเป็นสภาวะสำเร็จแล้ว
ขณลยมุหุตตกถา จบ
5. อาสวกถา (149)
ว่าด้วยอาสวะ
[724] สก. อาสวะ 4 ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะใช่ไหม
ปร.2 ใช่3
สก. เป็นมรรค ผล นิพพาน โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล ฯลฯ
โพชฌงค์ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[725] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า อาสวะ 4 ไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ ใช่ไหม
สก. ใช่
เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ องฺ.ติก. (แปล) 20/68/270
2 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายเหตุวาท (อภิ.ปญฺจ.อ. 724/280)
3 เพราะมีความเห็นว่า อาสวะมี 4 อย่างเท่านั้น ไม่อาจเป็นอารมณ์ของอาสวะได้ (อภิ.ปญฺจ.อ. 724/280)
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 6. ชรามรณกถา (150)
ปร. อาสวะเหล่านั้นเป็นอารมณ์ของอาสวะ ด้วยอาสวะเหล่าใด อาสวะเหล่านั้น
มีอยู่ใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. ดังนั้น อาสวะ 4 จึงไม่เป็นอารมณ์ของอาสวะ
อาสวกถา จบ
6. ชรามรณกถา (150)
ว่าด้วยชรามรณะ
[726] สก. ชรามรณะแห่งโลกุตตรธรรมเป็นโลกุตตระใช่ไหม
ปร.1 ใช่2
สก. เป็นมรรค ผล นิพพาน โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล ฯลฯ
โพชฌงค์ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ชรามรณะแห่งโสดาปัตติมรรคเป็นโสดาปัตติมรรคใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ชรามรณะแห่งโสดาปัตติมรรคเป็นโสดาปัตติมรรคใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ชรามรณะแห่งโสดาปัตติผลเป็นโสดาปัตติผลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
เชิงอรรถ :
1 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายมหาสังฆิกะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 726/280)
2 เพราะมีความเห็นว่า ชรา (ความแก่) และมรณะ (ความตาย) ของโลกุตตรธรรมจัดเป็นโลกุตตระ ซึ่งต่าง
กับความเห็นของสกวาทีที่เห็นว่า ชรามรณะเป็นสภาวธรรมที่ไม่สำเร็จ จึงไม่อาจจัดเป็นโลกิยะหรือ
โลกุตตระ (อภิ.ปญฺจ.อ. 726/280)
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 6. ชรามรณกถา (150)
สก. ชรามรณะแห่งสกทาคามิมรรค ฯลฯ สกทาคามิผล ฯลฯ อนาคามิ-
มรรค ฯลฯ อนาคามิผล ฯลฯ ชรามรณะแห่งอรหัตตมรรคเป็นอรหัตตมรรค
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ชรามรณะแห่งอรหัตตมรรคเป็นอรหัตตมรรคใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ชรามรณะแห่งอรหัตตผลเป็นอรหัตตผลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ชรามรณะแห่งสติปัฏฐาน ฯลฯ สัมมัปปธาน ฯลฯ อิทธิบาท ฯลฯ
อินทรีย์ ฯลฯ พละ ฯลฯ ชรามรณะแห่งโพชฌงค์ เป็นโพชฌงค์ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[727] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า ชรามรณะแห่งโลกุตตรธรรมเป็นโลกุตตระ
ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. เป็นโลกิยะใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. ดังนั้น ชรามรณะจึงเป็นโลกุตตระ
ชรามรณกถา จบ
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 7. สัญญาเวทยิตกถา (151)
7. สัญญาเวทยิตกถา (151)
ว่าด้วยสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ1
[728] สก. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นโลกุตตระใช่ไหม
ปร.2 ใช่3
สก. เป็นมรรค ผล นิพพาน โสดาปัตติมรรค โสดาปัตติผล ฯลฯ
โพชฌงค์ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[729] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นโลกุตตระ
ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. เป็นโลกิยะใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. ดังนั้น สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติจึงเป็นโลกุตตระ
สัญญาเวทยิตกถา จบ
เชิงอรรถ :
1 สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ มี 2 อย่าง คือ (1) อสัญญสมาบัติ ซึ่งเป็นเหตุให้ปุถุชนเกิดในภพแห่ง
อสัญญสัตว์ (2) นิโรธสมาบัติ เป็นสมาบัติของพระอริยะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 735/282)
2 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายเหตุวาท (อภิ.ปญฺจ.อ. 728-729/280-281)
3 เพราะมีความเห็นว่า เนื่องจากสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่ใช่โลกิยะจึงจัดเป็นโลกุตตระ ซึ่งต่างกับ
ความเห็นของสกวาทีที่เห็นว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นเพียงความดับแห่งขันธ์ 4 เท่านั้น จึงไม่เป็น
ทั้งโลกิยะและโลกุตตระ(อภิ.ปญฺจ.อ. 728-729/280-281)
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 8. ทุติยสัญญาเวทยิตกถา (152)
8. ทุติยสัญญาเวทยิตกถา (152)
ว่าด้วยสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ที่ 2
[730] สก. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นโลกิยะใช่ไหม
ปร.1 ใช่2
สก. เป็นรูปใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เป็นเวทนา ฯลฯ สัญญา ฯลฯ สังขาร ฯลฯ วิญญาณใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เป็นกามาวจรใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เป็นรูปาวจรใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. เป็นอรูปาวจรใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[731] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นโลกิยะ ใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. เป็นโลกุตตระใช่ไหม
สก. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
ปร. ดังนั้น สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติจึงเป็นโลกิยะ
ทุติยสัญญาเวทยิตกถา จบ
เชิงอรรถ :
1 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายเหตุวาท (อภิ.ปญฺจ.อ. 730/281)
2 เพราะมีความเห็นว่า เนื่องจากสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่ใช่โลกุตตระ จึงจัดเป็นโลกิยะ ซึ่งต่างกับ
ความเห็นของสกวาทีที่เห็นว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นเพียงความดับแห่งขันธ์ 4 เท่านั้น จึงไม่เป็น
ทั้งโลกิยะและโลกุตตระ(อภิ.ปญฺจ.อ. 730-731/281)
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 9. ตติยสัญญาเวทยิตกถา (153)
9. ตติยสัญญาเวทยิตกถา (153)
ว่าด้วยสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติที่ 3
[732] สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติอาจตายได้ใช่ไหม
ปร.1 ใช่2
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติยังมีผัสสะ เวทนา สัญญา
เจตนา จิต ที่เกิดในขณะใกล้จะตายใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่มีผัสสะ เวทนา สัญญา
เจตนา จิต ที่เกิดในขณะใกล้จะตายใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. หากบุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่มีผัสสะ เวทนา สัญญา
เจตนา จิต ที่เกิดในขณะใกล้ตาย ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า บุคคลผู้เข้าสัญญา
เวทยิตนิโรธสมาบัติอาจตายได้
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติอาจตายได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติมีผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา
จิตใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่มีผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา
จิตใช่ไหม
ปร. ใช่
เชิงอรรถ :
1 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายราชคิริกะ (อภิ.ปญฺจ.อ. 732/281)
2 เพราะมีความเห็นว่า ในขณะเข้านิโรธสมาบัติ บุคคลก็อาจตายได้ (อภิ.ปญฺจ.อ. 732/281)
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 9. ตติยสัญญาเวทยิตกถา (153)
สก. บุคคลผู้ไม่มีผัสสะ ไม่มีเวทนา ฯลฯ ไม่มีจิต ตายได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลผู้มีผัสสะ ฯลฯ มีจิต ตายได้มิใช่หรือ
ปร. ใช่
สก. หากบุคคลผู้มีผัสสะ ฯลฯ มีจิต ตายได้ ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า
บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติอาจตายได้
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติอาจตายได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ยาพิษ ศัสตรา ไฟ พึงกล้ำกรายเข้าไปในร่างกายของบุคคลผู้เข้า
สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. ยาพิษ ศัสตรา ไฟ ไม่พึงกล้ำกรายเข้าไปในร่างกายของบุคคลผู้เข้า
สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. หากยาพิษ ศัสตรา ไฟ ไม่พึงกล้ำกรายเข้าไปในร่างกายของบุคคล
ผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติได้ ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า ๊บุคคลผู้เข้าสัญญา
เวทยิตนิโรธสมาบัติอาจตายได้ ๋
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธอาจตายได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. ยาพิษ ศัสตรา ไฟ พึงกล้ำกรายเข้าไปในร่างกายของบุคคลผู้เข้า
สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 9. ตติยสัญญาเวทยิตกถา (153)
สก. ไม่ได้เข้านิโรธสมาบัติได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[733] ปร. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่อาจตายใช่ไหม
สก. ใช่
ปร. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่อาจตายแน่นอนด้วยนิยามใด
นิยาม นั้นมีอยู่หรือ
สก. ไม่มี
ปร. หากบุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ ไม่อาจตายแน่นอนด้วย
นิยามใด นิยามนั้นไม่มี ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธ-
สมาบัติไม่อาจตาย
[734] สก. บุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยจักขุวิญญาณไม่อาจตายใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยจักขุวิญญาณไม่อาจตายแน่นอนด้วยนิยามใด นิยามนั้น
มีอยู่ใช่ไหม
ปร. ไม่มี
สก. หากบุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยจักขุวิญญาณไม่อาจตายแน่นอนด้วยนิยามใด
นิยามนั้นไม่มี ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า บุคคลผู้พรั่งพร้อมด้วยจักขุวิญญาณไม่อาจตาย
ตติยสัญญาเวทยิตกถา จบ
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 10. อสัญญสัตตูปิกากถา (154)
10. อสัญญสัตตูปิกากถา (154)
ว่าด้วยสมาบัติที่เป็นเหตุให้เข้าถึงภพแห่งอสัญญสัตว์
[735] สก. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ1เป็นเหตุให้เข้าถึงภพแห่งอสัญญสัตว์2
ได้ใช่ไหม
ปร.3 ใช่
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติยังมีกุศลมูลคืออโลภะ อโทสะ อโมหะ
มีสัทธา ฯลฯ วิริยะ ฯลฯ สติ ฯลฯ สมาธิ ฯลฯ ปัญญาใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่มีกุศลมูลคืออโลภะ อโทสะ
ฯลฯ ไม่มีปัญญาใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. หากบุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่มีกุศลมูลคืออโลภะ
อโทสะ อโมหะ ไม่มีสัทธา ฯลฯ วิริยะ ฯลฯ สติ ฯลฯ สมาธิ ฯลฯ ปัญญา
ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นเหตุให้เข้าถึงภพแห่ง
อสัญญสัตว์ได้
สก. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นเหตุให้เข้าถึงภพแห่งอสัญญสัตว์ได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
เชิงอรรถ :
1 สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ มี 2 อย่าง คือ (1) อสัญญสมาบัติ ซึ่งเป็นเหตุให้ปุถุชนเกิดในภพแห่ง
อสัญญสัตว์ (2) นิโรธสมาบัติ เป็นสมาบัติของพระอริยะ ในที่นี้ปรวาทีถือรวม ๆ โดยไม่แยกว่าอสัญญ-
สมาบัติหรือนิโรธสมาบัติ (อภิ.ปญฺจ.อ. 735/282)
2 ภพแห่งอสัญญสัตว์ หมายถึงภพแห่งสัตว์ไม่มีสัญญา ซึ่งเป็นภพหรือภูมิที่นักบวชในลัทธิเดียรถีย์ เป็นต้น
เมื่อเจริญวาโยกสิณจนบรรลุจตุตถฌานแล้วได้เจริญภาวนาบนแนวทางที่เบื่อหน่ายในนามธรรมมีสัญญา
เป็นต้นเป็นนิจ ครั้นละจากอัตภาพนั้นแล้วก็จะไปบังเกิดที่อสัญญสัตตภพอันเป็นภพที่ปราศจากจิต
วิญญาณหรือความรู้สึกใด ๆ (ที.สี.อ. 68-73/108-109)
3 ปร. หมายถึงภิกษุในนิกายเหตุวาท (อภิ.ปญฺจ.อ. 735/282)
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [15. ปัณณรสมวรรค] 10. อสัญญสัตตูปิกากถา (154)
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติยังมีผัสสะ เวทนา สัญญา
เจตนา จิตใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติไม่มีผัสสะ เวทนา สัญญา เจตนา
จิตใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. บุคคลผู้ไม่มีผัสสะมีการเจริญมรรค ฯลฯ ผู้ไม่มีจิตมีการเจริญมรรคได้
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. บุคคลผู้มีผัสสะมีการเจริญมรรค ฯลฯ ผู้มีจิตมีการเจริญมรรคได้มิใช่
หรือ
ปร. ใช่
สก. หากบุคคลผู้มีผัสสะมีการเจริญมรรค ฯลฯ ผู้มีจิตมีการเจริญมรรคได้
ท่านก็ไม่ควรยอมรับว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นเหตุให้เข้าถึงภพแห่ง
อสัญญสัตว์ได้
สก. สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นเหตุให้เข้าถึงภพแห่งอสัญญสัตว์ได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. เหล่าชนผู้เข้าสัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติทั้งหมดนั้นเป็นผู้เข้าถึงภพแห่ง
อสัญญสัตว์ได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[736] ปร. ท่านไม่ยอมรับว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นเหตุให้เข้าถึง
ภพแห่งอสัญญสัตว์ได้ ใช่ไหม
สก. ใช่