พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 2. ปริหานิกถา
สก. พระอรหันต์หรือพระอนาคามี ใครเจริญมรรค ฯลฯ เจริญโพชฌงค์ได้
ยิ่งกว่ากัน
ปร. พระอรหันต์
สก. หากพระอรหันต์เจริญโพชฌงค์ได้ยิ่งกว่า พระอรหันต์ยังเสื่อมจาก
อรหัตตผลได้ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า พระอนาคามีเสื่อมจากอนาคามิผลได้
[245] สก. พระอนาคามีเสื่อมจากอนาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอนาคามีหรือพระโสดาบัน ใครเจริญมรรค ฯลฯ เจริญโพชฌงค์ได้
ยิ่งกว่ากัน
ปร. พระอนาคามี
สก. หากพระอนาคามีเจริญโพชฌงค์ได้ยิ่งกว่า พระอนาคามียังเสื่อมจาก
อนาคามิผลได้ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า พระโสดาบันเสื่อมจากโสดาปัตติผล
ได้
สก. พระอนาคามีเสื่อมจากอนาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสกทาคามีเสื่อมจากสกทาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอนาคามีหรือพระสกทาคามี ใครเจริญมรรค ฯลฯ เจริญโพชฌงค์ได้
ยิ่งกว่ากัน
ปร. พระอนาคามี
สก. หากพระอนาคามีเจริญโพชฌงค์ได้ยิ่งกว่า พระอนาคามียังเสื่อม
จากอนาคามิผลได้ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า พระสกทาคามีเสื่อมจาก
สกทาคามิผลได้
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 2. ปริหานิกถา
[246] สก. พระสกทาคามีเสื่อมจากสกทาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระสกทาคามีหรือพระโสดาบัน ใครเจริญมรรค ฯลฯ เจริญโพชฌงค์ได้
ยิ่งกว่ากัน
ปร. พระสกทาคามี
สก. หากพระสกทาคามีเจริญโพชฌงค์ได้ยิ่งกว่า พระสกทาคามียังเสื่อมจาก
สกทาคามิผลได้ ดังนั้น ท่านจึงควรยอมรับว่า พระโสดาบันเสื่อมจากโสดาปัตติผล
ได้ ฯลฯ
[247] สก. พระอรหันต์เห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์เห็นสมุทัยแล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นสมุทัยแล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์เห็นนิโรธแล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นนิโรธแล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 2. ปริหานิกถา
สก. พระอรหันต์เห็นมรรคแล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นมรรคแล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์เห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์เห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสกทาคามีเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากสกทาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์เห็นสมุทัย ฯลฯ เห็นนิโรธ ฯลฯ เห็นมรรค ฯลฯ เห็น
สัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสกทาคามีเห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากสกทาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์เห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระอนาคามีเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากอนาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 2. ปริหานิกถา
สก. พระอรหันต์เห็นสมุทัย ฯลฯ เห็นนิโรธ ฯลฯ เห็นมรรค ฯลฯ เห็น
สัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระอนาคามีเห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากอนาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[248] สก. พระอนาคามีเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากอนาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอนาคามีเห็นสมุทัย ฯลฯ เห็นนิโรธ ฯลฯ เห็นมรรค ฯลฯ เห็น
สัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากอนาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอนาคามีเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากอนาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสกทาคามีเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากสกทาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอนาคามีเห็นสมุทัย ฯลฯ เห็นนิโรธ ฯลฯ เห็นมรรค ฯลฯ
เห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากอนาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสกทาคามีเห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากสกทาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 2. ปริหานิกถา
[249] สก. พระสกทาคามีเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากสกทาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นทุกข์แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระสกทาคามีเห็นสมุทัย ฯลฯ เห็นนิโรธ ฯลฯ เห็นมรรค ฯลฯ
เห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากสกทาคามิผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันเห็นสัจจะ 4 แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
[250] สก. พระโสดาบันเห็นทุกข์แล้วไม่เสื่อมจากโสดาปัตติผลใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระอรหันต์เห็นทุกข์แล้วไม่เสื่อมจากอรหัตตผลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระโสดาบันเห็นสมุทัย ฯลฯ เห็นนิโรธ ฯลฯ เห็นมรรค ฯลฯ เห็น
สัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากโสดาปัตติผลใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระอรหันต์เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากอรหัตตผลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระสกทาคามีเห็นทุกข์ ฯลฯ เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจาก
สกทาคามิผลใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระอรหันต์เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากอรหัตตผลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 2. ปริหานิกถา
สก. พระอนาคามีเห็นทุกข์ ฯลฯ เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากอนาคามิผล
ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระอรหันต์เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากอรหัตตผลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระโสดาบันเห็นทุกข์ ฯลฯ เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากโสดาปัตติผล
ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระอนาคามีเห็นทุกข์ ฯลฯ เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากอนาคามิผล
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระสกทาคามีเห็นทุกข์ ฯลฯ เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจาก
สกทาคามิผลใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระอนาคามีเห็นทุกข์ ฯลฯ เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากอนาคามิผล
ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระโสดาบันเห็นทุกข์ ฯลฯ เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจากโสดาปัตติผล
ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระสกทาคามีเห็นทุกข์ ฯลฯ เห็นสัจจะ 4 แล้วไม่เสื่อมจาก
สกทาคามิผลใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
พระอภิธรรมปิฎก กถาวัตถุ [1. มหาวรรค] 2. ปริหานิกถา
[251] สก. พระอรหันต์ละราคะได้แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันละสักกายทิฏฐิได้แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์ละราคะได้แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันละวิจิกิจฉา ฯลฯ ละสีลัพพตปรามาส ฯลฯ ละราคะที่เป็น
เหตุให้สัตว์ไปสู่อบาย ฯลฯ ละโทสะที่เป็นเหตุให้สัตว์ไปสู่อบาย ฯลฯ ละโมหะที่เป็น
เหตุให้สัตว์ไปสู่อบายได้แล้ว ยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์ละโทสะ ฯลฯ ละโมหะ ฯลฯ ละมานะ ฯลฯ ละทิฏฐิ ฯลฯ
ละวิจิกิจฉา ฯลฯ ละถีนะ ฯลฯ ละอุทธัจจะ ฯลฯ ละอหิริกะ ฯลฯ ละ
อโนตตัปปะได้แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันละสักกายทิฏฐิได้แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์ละอโนตตัปปะได้แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่
สก. พระโสดาบันละวิจิกิจฉา ฯลฯ ละสีลัพพตปรามาส ฯลฯ ละราคะที่เป็น
เหตุให้สัตว์ไปสู่อบาย ฯลฯ ละโทสะที่เป็นเหตุให้สัตว์ไปสู่อบาย ฯลฯ ละโมหะที่เป็น
เหตุให้สัตว์ไปสู่อบายได้แล้วยังเสื่อมจากโสดาปัตติผลได้ใช่ไหม
ปร. ไม่ควรกล่าวอย่างนั้น ฯลฯ
สก. พระอรหันต์ละราคะได้แล้วยังเสื่อมจากอรหัตตผลได้ใช่ไหม
ปร. ใช่