เมนู

ที่มาของข้อมูล : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับ มจร.
MCUTRAI Version 1.0

พระไตรปิฎกเล่มที่ 23 สุตตันตปิฎกที่ 15 อังคุตตรนิกาย สัตตก อัฏฐก นวกนิบาต

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 1.ธนวรรค 1.ปฐมปิยสูตร

พระสุตตันตปิฎก
อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปัณณาสก์
1. ธนวรรค
หมวดว่าด้วยอริยทรัพย์
1. ปฐมปิยสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้เป็นที่รัก สูตรที่ 1

[1] ข้าพเจ้า1 ได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิก-
เศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาครับสั่งเรียกภิกษุทั้งหลายมา
ตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับสนองพระดำรัสแล้ว พระผู้มีพระภาคจึง
ได้ตรัสเรื่องนี้ว่า

เชิงอรรถ :
1 ข้าพเจ้า ในตอนเริ่มต้นของพระสูตรนี้ และพระสูตรอื่น ๆ ในเล่มนี้หมายถึง พระอานนท์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :1 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 1.ธนวรรค 1.ปฐมปิยสูตร
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 7 ประการ ย่อมไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่
พอใจ ไม่เป็นที่เคารพ และไม่เป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ธรรม 7 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้
1. เป็นผู้มุ่งลาภ 2. เป็นผู้มุ่งสักการะ
3. เป็นผู้มุ่งชื่อเสียง 4. เป็นผู้ไม่มีหิริ (ความอายบาป)
5. เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ (ความกลัวบาป)
6. เป็นผู้มีความปรารถนาชั่ว 7. เป็นมิจฉาทิฏฐิ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 7 ประการนี้แล ย่อมไม่เป็นที่รัก ไม่เป็น
ที่พอใจ ไม่เป็นที่เคารพ และไม่เป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 7 ประการ ย่อมเป็นที่รัก เป็นที่พอใจ
เป็นที่เคารพ และเป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ธรรม 7 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้

1. เป็นผู้ไม่มุ่งลาภ 2. เป็นผู้ไม่มุ่งสักการะ
3. เป็นผู้ไม่มุ่งชื่อเสียง 4. เป็นผู้มีหิริ
5. เป็นผู้มีโอตตัปปะ 6. เป็นผู้มักน้อย
7. เป็นสัมมาทิฏฐิ

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 7 ประการนี้แล ย่อมเป็นที่รัก เป็นทื่
พอใจ เป็นที่เคารพ และเป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ปฐมปิยสูตรที่ 1 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :2 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 1.ธนวรรค 2.ทุติยปิยสูตร
2. ทุติยปิยสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้เป็นที่รัก สูตรที่ 2
[2] ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 7 ประการ ย่อมไม่เป็นที่รัก
ไม่เป็นที่พอใจ ไม่เป็นที่เคารพ และไม่เป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ธรรม 7 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้

1. เป็นผู้มุ่งลาภ 2. เป็นผู้มุ่งสักการะ
3. เป็นผู้มุ่งชื่อเสียง 4. เป็นผู้ไม่มีหิริ
5. เป็นผู้ไม่มีโอตตัปปะ 6. เป็นผู้มีความริษยา
7. เป็นผู้มีความตระหนี่

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 7 ประการนี้แล ย่อมไม่เป็นที่รัก
ไม่เป็นที่พอใจ ไม่เป็นที่เคารพ และไม่เป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 7 ประการ ย่อมเป็นที่รัก เป็นที่พอใจ
เป็นที่เคารพ และเป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ธรรม 7 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้

1. เป็นผู้ไม่มุ่งลาภ 2. เป็นผู้ไม่มุ่งสักการะ
3. เป็นผู้ไม่มุ่งชื่อเสียง 4. เป็นผู้มีหิริ
5. เป็นผู้มีโอตตัปปะ 6. เป็นผู้ไม่มีความริษยา
7. เป็นผู้ไม่มีความตระหนี่

ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุประกอบด้วยธรรม 7 ประการนี้แล ย่อมเป็นที่รัก เป็นที่
พอใจ เป็นที่เคารพ และเป็นที่ยกย่องของเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ทุติยปิยสูตรที่ 2 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :3 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 1.ธนวรรค 3.สังขิตตพลสูตร
3. สังขิตตพลสูตร
ว่าด้วยพละโดยย่อ
[3] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิก-
เศรษฐี ฯลฯ1
ภิกษุทั้งหลาย พละ (กำลัง) 7 ประการนี้
พละ 7 ประการ อะไรบ้าง คือ

1. สัทธาพละ (กำลังคือศรัทธา)
2. วิริยพละ (กำลังคือวิริยะ)
3. หิริพละ (กำลังคือหิริ)
4. โอตตัปปพละ (กำลังคือโอตตัปปะ)
5. สติพละ (กำลังคือสติ)
6. สมาธิพละ (กำลังคือสมาธิ)
7. ปัญญาพละ (กำลังคือปัญญา)

ภิกษุทั้งหลาย พละ 7 ประการนี้แล
ภิกษุผู้เป็นบัณฑิตมีพละ 7 ประการนี้ คือ
สัทธาพละ วิริยพละ หิริพละ โอตตัปปพละ
สติพละ สมาธิพละ และปัญญาพละ
ย่อมอยู่อย่างเป็นสุข

เชิงอรรถ :
1 ดูความเต็มในข้อ 1 (ปฐมปิยสูตร) หน้า 1 ในเล่มนี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :4 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 1.ธนวรรค 4.วิตถตพลสูตร
เลือกเฟ้นธรรมโดยแยบคาย
เห็นแจ้งอรรถด้วยปัญญา1
ความหลุดพ้นแห่งใจย่อมมีได้
เหมือนความดับไปแห่งประทีป ฉะนั้น
สังขิตตพลสูตรที่ 3 จบ

4. วิตถตพลสูตร2
ว่าด้วยพละโดยพิสดาร
[4] ภิกษุทั้งหลาย พละ 7 ประการนี้
พละ 7 ประการ อะไรบ้าง คือ

1. สัทธาพละ 2. วิริยพละ
3. หิริพละ 4. โอตตัปปพละ
5. สติพละ 6. สมาธิพละ
7. ปัญญาพละ

สัทธาพละ เป็นอย่างไร
คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อปัญญาเครื่องตรัสรู้ของตถาคตว่า
‘แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง

เชิงอรรถ :
1 เลือกเฟ้นธรรมโดยแยบคาย หมายถึงพิจารณาเห็นธรรมคืออริยสัจ 4
เห็นแจ้งอรรถด้วยปัญญา หมายถึงเห็นแจ้งสัจธรรมด้วยปัญญาในอริยมรรค (องฺ.สตฺตก.อ.3/1-5/159)
2 ดูเทียบ ที.ปา. 11/331/222, ขุ.ม. (แปล) 29/5/16, องฺ.ปญฺจก. (แปล) 22/2/2-5, 14/17

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :5 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 1.ธนวรรค 4.วิตถตพลสูตร
โดยชอบ ฯลฯ1 เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นพระพุทธเจ้า2 เป็นพระ
ผู้มีพระภาค‘3 นี้เรียกว่า สัทธาพละ
วิริยพละ เป็นอย่างไร
คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้ปรารภความเพียร4 เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อ
ให้กุศลธรรมเกิด มีความเข้มแข็ง5 มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม
ทั้งหลายอยู่ นี้เรียกว่า วิริยพละ
หิริพละ เป็นอย่างไร
คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีหิริ คือ ละอายต่อกายทุจริต วจีทุจริต
มโนทุจริต ละอายต่อการประกอบบาปอกุศลธรรมทั้งหลาย นี้เรียกว่า หิริพละ
โอตตัปปพละ เป็นอย่างไร
คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีโอตตัปปะ คือ สะดุ้งกลัวต่อกายทุจริต
วจีทุจริต มโนทุจริต สะดุ้งกลัวต่อการประกอบบาปอกุศลธรรมทั้งหลาย นี้เรียกว่า
โอตตัปปพละ

เชิงอรรถ :
1 ดูความเต็มในอัฏฐกนิบาต ข้อ 29 (อักขณสูตร) หน้า 276 ในเล่มนี้
2 ชื่อว่า พระพุทธเจ้า เพราะทรงรู้สิ่งที่ควรรู้ทั้งหมดด้วยพระองค์เอง และทรงสอนผู้อื่นให้รู้ตาม
3 ชื่อว่า พระผู้มีพระภาค เพราะ (1) ทรงมีโชค (2) ทรงทำลายข้าศึกคือกิเลส (3) ทรงประกอบด้วยภคธรรม
6 ประการ (คือ ความเป็นใหญ่เหนือจิตของตน โลกุตตรธรรม ยศ สิริ ความสำเร็จประโยชน์ตามต้องการ
และความเพียร) (4) ทรงจำแนกแจกแจงธรรม (5) ทรงเสพอริยธรรม (6) ทรงคายตัณหาในภพทั้งสาม
(7) ทรงเป็นที่เคารพของชาวโลก (8) ทรงอบรมพระองค์ดีแล้ว (9) ทรงมีส่วนแห่งปัจจัย 4 เป็นต้น
(ตามนัย วิ.อ.1/1/103-118, สารตฺถ.ฏีกา 1/270, วิสุทธิ. 1/124-145/215-232)
4 ปรารภความเพียรในที่นี้หมายถึงทำความเพียรทางกายและทางใจไม่ย่อหย่อน (องฺ.เอกก.อ. 1/394/440,
องฺ.ปญฺจก.อ. 3/2/1)
5 มีความเข้มแข็ง ในที่นี้หมายถึงมีกำลังความเพียร (องฺ.ปญฺจก.อ. 3/2/1)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :6 }