no heading
พระวินัยปิฎก มหาวรรค [6. เภสัชชขันธกะ] 167. สัตถกัมมปฏิกเขปกถา
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเป็นริดสีดวงทวาร นายแพทย์อากาสโคตรกำลัง
ทำการผ่าตัดด้วยศัสตรา
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปตามเสนาสนะ เสด็จเข้าไปทางที่อยู่ของ
ภิกษุนั้น นายแพทย์อากาสโคตรเห็นพระผู้มีพระภาคกำลังเสด็จมาแต่ไกล จึงกราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า พระโคดมผู้เจริญโปรดเสด็จมาทอดพระเนตรวัจมรรค
ของภิกษุรูปนี้ เหมือนปากเหี้ย
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงพระดำริว่า โมฆบุรุษนี้เยาะเย้ยเรา จึงเสด็จกลับ
จากที่นั้นแล้วรับสั่งให้ประชุมสงฆ์เพราะเรื่องนี้เป็นต้นเหตุ ทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า
ภิกษุทั้งหลาย ในวิหารหลังโน้นมีภิกษุเป็นไข้หรือ
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า มีอยู่ พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุรูปนั้นอาพาธเป็นโรคอะไร
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ภิกษุนั้นเป็นริดสีดวงทวาร นายแพทย์อากาสโคตร
กำลังทำการผ่าตัดด้วยศัสตรา พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า การกระทำของโมฆบุรุษนั้นไม่สมควร
ไม่คล้อยตาม ไม่เหมาะสม ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำเลย ไฉน
โมฆบุรุษนั้นจึงให้ทำการผ่าตัดด้วยศัสตราในที่แคบเล่า ในที่แคบมีผิวเนื้ออ่อน แผล
หายยาก ผ่าตัดลำบาก ภิกษุทั้งหลาย การทำอย่างนี้มิได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้
เลื่อมใส ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้วแสดงธรรมีกถารับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงให้ผ่าตัดด้วยศัสตราในที่แคบ รูปใดให้ผ่าตัด ต้องอาบัติถุลลัจจัย
เรื่องทรงห้ามทำวัตถิกรรม1
สมัยนั้น พวกภิกษุฉัพพัคคีย์ทราบว่า พระผู้มีพระภาคทรงห้ามผ่าตัดด้วย
ศัสตรา จึงเลี่ยงให้ทำการบีบหัวริดสีดวง
เชิงอรรถ :
1 วัตถิกรรม คือ การใช้หนังหรือผ้าผูกรัดที่ทวารหนักเพื่อรัดหัวริดสีดวง (วิ.อ. 3/279/177)
พระวินัยปิฎก มหาวรรค [6. เภสัชชขันธกะ] 168. มนุสสมังสปฏิกเขปกถา
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย ฯลฯ ตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์จึงให้ทำการบีบหัวริดสีดวงเล่า แล้วนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มี
พระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่าพวก
ภิกษุฉัพพัคคีย์ให้ทำการบีบหัวริดสีดวง จริงหรือ
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริงพระพุทธเจ้าข้า ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิแล้ว
ทรงแสดงธรรมีกถาแล้วรับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงให้ผ่า
ตัดทวารหนักด้วยศัสตราหรือบีบหัวริดสีดวง ประมาณ 2 นิ้วรอบ ๆ ที่แคบ
รูปใดให้ผ่าหรือให้บีบ ต้องอาบัติถุลลัจจัย
168. มนุสสมังสปฏิกเขปกถา
ว่าด้วยทรงห้ามฉันเนื้อมนุษย์
เรื่องอุบาสิกาสุปปิยาเชือดเนื้อขาอ่อนถวาย
[280] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กรุงราชคฤห์ตามพระ
อัธยาศัยแล้ว เสด็จจาริกไปทางกรุงพาราณสี เสด็จจาริกไปโดยลำดับ จนถึงกรุง
พาราณสี ทราบว่า พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ใน
กรุงพาราณสีนั้น
สมัยนั้น อุบาสกสุปปิยะและอุบาสิกาสุปปิยา ทั้ง 2 คนมีศรัทธาทั้งเป็น
ทายก เป็นกัปปิยการก เป็นผู้บำรุงพระสงฆ์ในกรุงพาราณสี วันหนึ่งอุบาสิกา
สุปปิยาไปที่อาราม เดินเที่ยวไปตามวิหารและบริเวณทั่วทุกแห่งแล้วถามภิกษุทั้งหลาย
ว่า ภิกษุรูปใดอาพาธ รูปใดจะให้ดิฉันนำอะไรมาถวาย เจ้าข้า
สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งดื่มยาถ่าย ลำดับนั้น ท่านได้กล่าวกับอุบาสิกาสุปปิยา
ดังนี้ว่า น้องหญิง อาตมาดื่มยาถ่าย อาตมาต้องการน้ำต้มเนื้อ