ปัจจนียนัย
1. นเหตุปัจจัย
[164] 1. จิตตสมุฏฐานธรรม อาศัยจิตตสมุฏฐานธรรม
เกิดขึ้น เพราะนเหตุปัจจัย
พึงกระทำหมดทั้ง 9 วาระ เหมือนกับปฏิจจวาระ แม้ปัญจวิญญาณ
ก็พึงกระทำ โมหะ มีทั้ง 3 วาระ.
การนับจำนวนวาระในปัจจนียะ
[165] ในนเหตุปัจจัย มี 9 วาระ ในนอารัมมณปัจจัย มี 6 วาระ
ในนอธิปติปัจจัย มี 9 วาระ ในนอนันตรปัจจัย มี 6 วาระ ในนสมนันตร-
ปัจจัย มี 6 วาระ ในนอัญญมัญญปัจจัย มี 6 วาระ ในนอุปนิสสยปัจจัย
มี 6 วาระ ในนปุเรชาตปัจจัย มี 9 วาระ ในนปัจฉาชาตปัจจัย มี 9 วาระ
ในนอาเสวนปัจจัย มี 9 วาระ ในนกัมมปัจจัย มี 4 วาระ ในนวิปากปัจจัย
มี 9 วาระ ในนอาหารปัจจัย มี 1 วาระ ในนอินทริยปัจจัย มี 1 วาระ
ในนฌานปัจจัย มี 9 วาระ ในนมัคคปัจจัย มี 9 วาระ ในนสัมปยุตตปัจจัย
มี 6 วาระ ในนวิปปยุตตปัจจัย มี 6 วาระ ในโนนัตถิปัจจัย มี 6 วาระ
ในโนวิคตปัจจัย มี 6 วาระ.
การนับทั้งสองนัยนอกนี้ก็ดี นิสสยวาระก็ดี พึงกระทำอย่างนี้.
สังสัฏฐวาระ
อนุโลมนัย
1. เหตุปัจจัย
[166] 1. จิตตสมุฏฐานธรรม เจือกับจิตตสมุฏฐานธรรม
เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ 2 เจือกับขันธ์ 1 ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ฯลฯ เจือกับ
ขันธ์ 2.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
2. ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เจือกับจิตต-
สมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ จิต เจือกับขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
3. จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตต-
สมุฏฐานธรรม เจือกับจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุ-
ปัจจัย
คือ ขันธ์ 2 และจิต เจือกับขันธ์ 1 ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ฯลฯ
เจือกับขันธ์ 2.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
4. จิตตสมุฏฐานธรรม เจือกับธรรมที่ไม่ใช่จิตต-
สมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย เจือกับจิต.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
5. จิตตสมุฏฐานธรรม เจือกับจิตตสมุฏฐานธรรม
และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น เพราะเหตุปัจจัย
คือ ขันธ์ 2 เจือกับขันธ์ 1 ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต ฯลฯ
เจือกับขันธ์ 2.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
การนับจำนวนวาระในอนุโลม
[167] ในเหตุปัจจัย มี 5 วาระ ในอารัมมณปัจจัย มี 5 วาระ
ในปัจจัยทั้งปวง มี 5 วาระ ในอวิคตปัจจัย มี 5 วาระ.
ปัจจนียนัย
[168] 1. จิตตสมุฏฐานธรรม เจือกับจิตตสมุฏฐานธรรม
เกิดขึ้น เพราะนเหตุปัจจัย
พึงกระทำเป็น 5 วาระ โมหะมีทั้ง 3 วาระ.
การนับจำนวนวาระในปัจจนียะ
[169] ในนเหตุปัจจัย มี 5 วาระ ในนอธิปติปัจจัย มี 5 วาระ
ในนปุเรชาตปัจจัย มี 5 วาระ ในนปัจฉาชาตปัจจัย มี 5 วาระ ในนอาเสวน-
ปัจจัย มี 5 วาระ ในนกัมมปัจจัย มี 3 วาระ ในนวิปากปัจจัย มี 5 วาระ
ในนฌานปัจจัย มี 5 วาระ ในนมัคคปัจจัย มี 5 วาระ ในนวิปปยุตตปัจจัย
มี 5 วาระ.
การนับทั้งสองนัยนอกนี้ก็ดี สัมปยุตตวาระก็ดี พึงกระทำอย่างนี้.
ปัญหาวาระ
อนุโลมนัย
1. เหตุปัจจัย
[170] 1. จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน-
ธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
2. จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่
จิตตสมุฏฐานธรรม ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย
คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่จิต ด้วย
อำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ เหตุทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่
จิต และกฏัตตารูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
3. จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน-
ธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม ด้วยอำนาจของเหตุ-
ปัจจัย
คือ เหตุทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
ทั้งหลาย, จิต และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของเหตุปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
2. อารัมมณปัจจัย
[171] 1. จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน-
ธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม ปรารภขันธ์ทั้งหลายที่เป็น
จิตตสมุฎฐานธรรม เกิดขึ้น.
พึงกระทำมูล (วาระที่ 2)
คือ จิต ปรารภขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น.
พึงกระทำมูล (วาระที่ 3)
คือ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม และจิต ปรารภขันธ์
ทั้งหลายที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม เกิดขึ้น.
4. ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัย
แก่ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย
คือ พระอริยะทั้งหลาย ฯลฯ พิจารณานิพพาน.
นิพพาน เป็นปัจจัยแก่ โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล,
แก่อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตุ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่จิตต-
สมุฏฐานธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง
เพราะปรารภจักษุเป็นต้นนั้น จิต ย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ.
บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้มีความพร้อมเพรียงด้วยจิต ที่ไม่ใช่จิตต-
สมุฏฐานธรรม ด้วยเจโตปริยญาณ.
อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ อากิญจัญญายตนะ ฯลฯ
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ ฯลฯ
ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ,
แก่เจโตปริยญาณ, แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ, แก่ยถากัมมูปคญาณ, แก่
อนาคตังสญาณ, แก่อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
5. ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย
คือ พระอริยะทั้งหลาย ฯลฯ พิจารณานิพพาน.
มีคำอธิบายเหมือนกับข้อความตามบาลีที่มีอยู่ข้างต้น.
บุคคลพิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่จิตต-
สมุฏฐานธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ ฯลฯ
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลาย ที่สหรคตด้วยจักษุวิญญาณฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะ ฯลฯ
ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ
แก่เจโตปริยญาณ แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ฯลฯ แก่อนาคตังสญาณ, แก่
อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
6. ธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม ด้วย
อำนาจของอารัมมณปัจจัย
คือ พระอริยะทั้งหลาย ฯลฯ พิจารณานิพพาน.
มีคำอธิบายเหมือนกับข้อความตามบาลีที่มีอยู่ข้างต้น
บุคคลพิจารณาเห็นขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม โดยความ
เป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภขันธ์นั้น
จิต และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้น ฯลฯ ด้วยทิพยจักษุ ฯลฯ
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะ ฯลฯ
ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ,
แก่เจโตปริยญาณ, แก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ แก่อนาคตังสญาณ แก่
อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
7. จิตตสมุฏฐานธรรม และธรรมที่ไม่ใช่จิตต-
สมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานธรรม ด้วยอำนาจของ
อารัมมณปัจจัย พึงกระทำเพราะปรารภ 3 วาระ (วาระที่ 7-8-9)
3. อธิปติปัจจัย
[172] 1. จิตตสมุฏฐานธรรม เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน-
ธรรม ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น อารัมมณาธิปติ และ สหชาตาธิปติ
ที่เป็น อารัมมณาธิปติ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็นจิตตสมุฏฐานธรรม กระทำขันธ์ทั้งหลาย ที่เป็น
จิตตสมุฏฐานธรรมให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นแล้ว ย่อมเกิดขึ้น.