5. ธรรมที่เป็นเจตสิก และธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก
เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปุเรชาตะ ฯลฯ
21. อัตถิปัจจัย
[110] 1. ธรรมที่เป็นเจตสิก เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น
เจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย มี 1 วาระ เหมือนกับปฏิจจวาระ.
2. ธรรมที่เป็นเจตสิก เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่
เจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ ฯลฯ
3. ธรรมที่เป็นเจตสิก เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น
เจตสิก และธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 1 วาระ เหมือนกับปฏิจจวาระ.
4. ธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่
เจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 5 อย่าง คือ ที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ
และ อินทริยะ ฯลฯ
5. ธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น
เจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปุเรชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
จิต เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ จิต ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเจตสิก
ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
บุคคลพิจารณาจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ
เหมือนปุเรชาตะ ไม่แตกต่างกัน.
6. ธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น
เจตสิก และธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปุเรชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
จิต เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลายที่เป็นเจตสิก
และจิต ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
บุคคลพิจารณาจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ
เหมือนกับปุเรชาตะ ไม่แตกต่างกัน.
เจตสก และ รรมท ไม่ใ ่เจตส้ก ดว่ยอำนาจ องอตั ปัจจัย
มี 2 อย่าง คือทีเป็น ส าตะ แล่ ปุเรฬาต
ท เป็น สทซาดะ ได้แก่ ้ ่
จิค เป็นปัจจัยยแก่สัมปยุต ชัน ์ และ.จิค สมุ ฐานรูปทง่หลาย คว้ย
อำนาจ องอั ่ ปัจจัยย.
ในปฏิสน ิขณะ จิ ฯลฯ
ในปฎิสนิ ณะ หทยวัตถุ เบ่หปัจจัยแก่ ัห์ ่งหลายทีเป็นเจตสิก
แล่จิค คว้ยอำนาจของอั ถิปัจจัย.
ท เป็น ปุเร าดะ ได้แก่
บุคคลพิจารณาจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ โคยความเบืหของไห่่เท ยง ฯลฯ
เหหือนกบั ปุเรชา ะ ไ ่แคกค่างกนั ่
7. ธรรมที่เป็นเจตสิก และธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก
เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นเจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ได้แก่
ขันธ์ 2 ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ และจักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 2 ฯลฯ ขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ ขันธ์ 1 ที่เป็นเจตสิก
และหทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์
2 ฯลฯ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ 1 ที่เป็นเจตสิก เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 ด้วยอำนาจ
ของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ พึงทำทั้ง 2 วาระ
8. ธรรมที่เป็นเจตสิก และธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก
เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 5 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ , สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ,
ปัจฉาชาตะ, ปัจฉาชาตะ รวมกับ อาหาระ และรวมกับ อินทริยะ
ที่เป็น สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ และจักขายตนะ เป็นปัจจัย
แก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเจตสิก และจิต เป็นปัจจัยแก่ จิตตสมุฏฐานรูป
ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเจตสิก, จิต และมหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเจตสิก และหทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่จิต ด้วย
อำนาจของอัตถิปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ พึงทำทั้ง 3 วาระ.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเจตสิก และจิต ที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่
กายนี้ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ รวมกับ อาหาระ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเจตสิก และจิต ที่เกิดภายหลัง และกวฬีการาหาร
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ ด้วยอำนาจอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ รวมกัน อินทริยะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นเจตสิก และจิต ที่เกิดภายหลัง และรูปชีวิตินทรีย์
เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
9. ธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก และธรรมที่เป็นเจตสิก
เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็นเจตสิก และธรรมที่ไม่ใช่เจตสิก ด้วย
อำนาจของอัตถิปัจจัย
มีอย่างเดียว คือที่เป็น สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ได้แก่
ขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ และจักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 2 และจักขุวิญญาณ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย, ขันธ์ 2 ฯลฯ.
ขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ และกายายตนะ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 2 และกายวิญญาณ ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย, ขันธ์ 2 ฯลฯ
ขันธ์ 1 ที่เป็นเจตสิก และหทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 2 และจิต
ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ขันธ์ 2 ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ พึงทำทั้ง 2 วาระ.
การนับจำนวนวาระในอนุโลม
[111] ในเหตุปัจจัย มี 3 วาระ ในอารัมมณปัจจัย มี 9 วาระ
ในอธิปติปัจจัย มี 9 วาระ ในอนันตรปัจจัย มี 9 วาระ ในสมนันตรปัจจัย
มี 9 วาระ ในสหชาตปัจจัย มี 9 วาระ ในอัญญมัญญปัจจัย มี 9 วาระ
ในนิสสยปัจจัย มี 9 วาระ ในอุปนิสสยปัจจัย มี 9 วาระ ในปุเรชาตปัจจัย
มี 3 วาระ ในปัจฉาชาตปัจจัย มี 3 วาระ ในอาเสวนปัจจัย มี 9 วาระ
ในกัมมปัจจัย 3 วาระ ในวิปากปัจจัยมี 9 วาระ ในอาหารปัจจัย มี 9 วาระ
ในอินทริยปัจจัย มี 9 วาระ ในฌานปัจจัย มี 3 วาระ ในมัคคปัจจัยมี 3 วาระ
ในสัมปยุตตปัจจัย มี 5 วาระ ในวิปปยุตตปัจจัย มี 5 วาระ ในอัตถิปัจจัย
มี 9 วาระ ในนัตถิปัจจัยมี 9 วาระ ในวิคตปัจจัย มี 9 วาระ ในอวิคตปัจจัย
มี 9 วาระ.
ปัจจนียนัย
การยกปัจจัยในปัจจนียะ
[112] 1. ธรรมที่เป็นเจตสิก เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่เป็น
เจตสิก ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของ