20. วิปปยุตตปัจจัย
[33] 1. สารัมมธรรม เป็นปัจจัยแก่อนารัมมณธรรม
ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
2. อนารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่สารัมมณธรรม
ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปุเรชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่สารัมมณขันธ์ทั้งหลาย ด้วย
อำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะ เป็นปัจจัย
แก่กายวิญญาณ ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
21. อัตถิปัจจัย
[34] 1. สารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่สารัมมณธรรม
ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
คือ ขันธ์ 1 ที่เป็นสารัมมณธรรม เป็นปัจจัยขันธ์ 3 ด้วยอำนาจ
ของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
2. สารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่อนารัมมณธรรม
ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ ฯลฯ
3. สารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่สารัมมณธรรม และ
อนารัมมณธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย. เหมือนกับปฏิจจวาระ
4. อนารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่อนารัมมณธรรม
ด้วยอำนาจอัตถิปัจจัย
มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ อินทริยะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
มหาภูตรูป 1 ฯลฯ ตลอดถึงอสัญญสัตว์.
5. อนารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่สารัมมณธรรม
ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ อาหาระ และ ปุเรชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่สารัมมณขันธ์ทั้งหลาย ด้วย
อำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
บุคคลพิจารณาจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ
โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ, ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ.
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณ.
จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักษุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะ เป็นปัจจัย
แก่กายวิญญาณ.
หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่สารัมมณขันธ์ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิ
ปัจจัย.
6. สารัมมณธรรม และอนารัมมณธรรม เป็นปัจจัย
แก่สารัมมณธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มีอย่างเดียว คือที่เป็น สหชาตะ รวมกับ ปุเรชาตะ ได้แก่
ขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ และจักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 3 ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ
ขันธ์ 1 ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ และกายายตนะ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ 3 ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ
ขันธ์ 1 ที่เป็นสารัมมณธรรม หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ 3 ด้วย
อำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ 2 ฯลฯ
7. สารัมณธรรม และอนารัมมณธรรม เป็นปัจจัย
แก่อนารัมมณธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ, ปัจฉาชาตะ รวมกับ อาหาระ
และรวมกับ อินทริยะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
สารัมมณขันธ์ และมหาภูตรูปทั้งหลาย เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
สารัมมณขันธ์ ที่เกิดภายหลัง และกพฬีการาหาร เป็นปัจจัยแก่กายนี้
ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
สารัมมณขันธ์ที่เกิดขึ้นภายหลัง และรูปชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กฏัตตา-
รูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย
การนับจำนวนวาระในอนุโลม
[35] ในเหตุปัจจัย มี 3 วาระ ในอารัมมณปัจจัย มี 2 วาระ ใน
อธิปติปัจจัย มี 4 วาระ ในอนันตรปัจจัย มี 1 วาระ ในสมนันตรปัจจัย มี 1
วาระ ในสหชาตปัจจัย มี 7 วาระ ในอัญญมัญญปัจจัย มี 6 วาระ ในนิสสย-
ปัจจัยมี 7 วาระ ในอุปนิสสยปัจจัย มี 2 วาระ ในปุเรชาตปัจจัย มี 1 วาระ
ในปัจฉาชาตปัจจัย มี 1 วาระ ในอาเสวนปัจจัย มี 1 วาระ ในกัมมปัจจัย มี 3
วาระ ในวิปากปัจจัย มี 3 วาระ ในอาหารปัจจัย มี 4 วาระ ในอินทริยปัจจัย
มี 6 วาระ ในฌานปัจจัยมี 3 วาระ ในมัคคปัจจัย มี 3 วาระ ในสัมปยุตต-
ปัจจัย มี 1 วาระ ในวิปปยุตตปัจจัย มี 2 วาระ ในอัตถิปัจจัย 7 วาระ ใน
นัตถิปัจจัย มี 1 วาระ ในวิคตปัจจัย มี 1 วาระ ในอวิคตปัจจัย มี 7 วาระ.
ปัจจนียนัย
การยกปัจจัยในปัจจนียะ
[36] 1. สารัมมณธรรม เป็นปัจจัยแก่สารัมมณธรรม
ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย, เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสหชาต-