เมนู

คือ ในปฏิสนธิขณะ อินทรีย์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม และ
พาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ กฏัตตารูปทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติก-
ธรรม และพาหิรธรรม ด้วยอำนาจของอินทริยปัจจัย.
จักขุนทรีย์ และอุเบกขินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ และ
สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอินทริยปัจจัย ฯลฯ กายินทรีย์ และ
สุขินทรีย์, กายินทรีย์ และทุกขินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ และ
สัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอินทริยปัจจัย.

17. ฌานปัจจัย ฯลฯ 19. สัมปยุตตปัจจัย


[285] พาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่พาหิรธรรม ด้วยอำนาจ
ของฌานปัจจัย
มี 3 วาระ
เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของนัตถิปัจจัย มี 3 วาระ.
เป็นปัจจัย ด้วยอำนาจของสัมปยุตตปัจจัย มี 5 วาระ.

20. วิปปยุตตปัจจัย


[286] 1. อัชฌัตติกธรรม เป็นปัจจัยแก่อัชฌัตติกธรรม
ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ.
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ จิตที่เกิดพร้อมกัน เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลาย
ที่เป็นอัชฌัตติกธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
จักขายตนะที่เกิดก่อน เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายตนะ
ที่เกิดก่อน เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรมที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่กายนี้
ที่เป็นอัชฌัตติกธรรม ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
2. อัชฌัตติกธรรม เป็นปัจจัยแก่พาหิรธรรม ด้วย
อำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม ที่เกิดพร้อมกัน เป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
จักขายตนะ ที่เกิดก่อน เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคตด้วย
จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะที่เกิดก่อน เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่สหรคต
ด้วยกายวิญญาณ ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรมที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่กายนี้
ที่เป็นพาหิรธรรม ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

3. อัชฌัตติกธรรม เป็นปัจจัยแก่อัชฌัตติกธรรม
และพาหิรธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรมที่เกิดพร้อมกัน
เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม และพาหิรธรรม ด้วย
อำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
จักขายตนะที่เกิดก่อน เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ และสัมปยุตตขันธ์
ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย ฯลฯ กายายตนะที่เกิดก่อน เป็นปัจจัย
แก่กายวิญญาณ และสัมปยุตตขันธ์ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม ที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่กายนี้
ที่เป็นอัชฌัตติกธรรม และพาหิรธรรม ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของวิปปยุตต-
ปัจจัย.
4. พาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่พาหิรธรรม ด้วย
อำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นพาหิรธรรมที่เกิดพร้อมกัน เป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.

ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลาย เป็นปัจจัยแก่หทยวัตถุ ด้วยอำนาจ
ของวิปปยุตตปัจจัย, หทยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลาย ด้วยอำนาจของ
วิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุที่เกิดก่อน เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นพาหิรธรรม
ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นพาหิรธรรมที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่
เป็นพาหิรธรรม ที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
5. พาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่อัชฌัตติกธรรม ด้วย
อำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นพาหิรธรรมที่เกิดพร้อมกัน
เป็นปัจจัย แก่กฏัตตารูปทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตต-
ปัจจัย.
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นพาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่กฏัตตา
รูปทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
หทยวัตถุที่เกิดก่อน เป็นปัจจัยแก่จิต ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่

ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นพาหิรธรรมที่เกิดภายหลัง เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่
เป็นอัชฌัตติกธรรมที่เกิดก่อน ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย.
6. พาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่อัชฌัตติกธรรม และ
พาหิรธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
7. อัชฌัตติกธรรม และพาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่
อัชฌัตติกธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม และพาหิรธรรม
เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตต-
ปัจจัย.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ฯลฯ ที่เกิดภายหลัง ฯลฯ
8. อัชฌัตติกธรรน และพาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่
พาหิรธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ ฯลฯ
9. อัชฌัตติกธรรม และพาหิรธรรม เป็นปัจจัยแก่
อัชฌัตติกธรรม และพาหิรธรรม ด้วยอำนาจของวิปปยุตตปัจจัย

มี 2 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่

ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม และพาหิรธรรม
ฯลฯ

21. อัตถิปัจจัย


[287] 1. อัชฌัตติกธรรม เป็นปัจจัยแก่อัชฌัตติกธรรม ด้วย
อำนาจของอัตถิปัจจัย

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ จิต เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติก-
ธรรม ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย.
ที่เป็น ปุเรชาตะ ได้แก่
พิจารณาเห็นจักษุ ฯลฯ กายะ โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ เหมือน
กับปุเรชาตะ ไม่มีแตกต่างกัน.
ที่เป็น ปัจฉาชาตะ พึงกระทำเหมือนปัจฉาชาตปัจจัย.
2. อัชฌัตติกธรรม เป็นปัจจัยแก่พาหิรธรรม ด้วย
อำนาจของอัตถิปัจจัย

มี 3 อย่าง คือที่เป็น สหชาตะ ปุเรชาตะ และ ปัจฉาชาตะ
ที่เป็น สหชาตะ ได้แก่
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอัชฌัตติกธรรม ที่เกิดพร้อมกัน เป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์ และจิตตสมุฏฐานรูปทั้งหลาย ด้วยอำนาจของอัตถิปัจจัย ฯลฯ
สหชาตะในที่ทั้งปวง มีในที่นี้ เหมือนกับปัจจยวาระ