เมนู

พระศาสดา. ก็ชนในกรุงสาวัตถีทำกาละวันละเท่าไร ?
นางวิสาขา. มาก พระเจ้าข้า.
พระศาสดา. เมื่อเป็นเช่นนี้ เวลาที่เธอจะเศร้าโศกก็จะไม่พึงมี
มิใช่หรือ ? เธอพึงเที่ยวร้องไห้อยู่ทั้งกลางคืนและกลางวันทีเดียวหรือ ?
นางวิสาขา. ยกไว้เถิด พระเจ้าข้า. หม่อมฉันทราบแล้ว.
ลำดับนั้น พระศาสดา ตรัสกะนางว่า " ถ้ากระนั้น เธออย่าเศร้า
โศก. ความโศกก็ดี ความกลัวก็ดี ย่อมเกิดแต่ความรัก " ดังนี้แล้ว
จึงตรัสพระคาถานี้ว่า :-
3. เปมโต ชายตี โสโก เปมโต ชายตี ภยํ
เปมโต วิปฺปมุตฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ.
" ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก ภัยย่อมเกิดแต่
ความรัก; ความโศกย่อมไม่มีแก่ผู้พ้นวิเศษแล้วจาก
ความรัก, ภัยจักมีแต่ไหน. "

แก้อรรถ


บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า เปมโต ความว่า เพราะอาศัยความรัก
ที่ทำไว้ในบุตรและธิดาเป็นต้นนั่นเอง.
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดา-
ปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.
เรื่องนางวิสาขาอุบาสิกา จบ.

4. เรื่องเจ้าลิจฉวี [168]


ข้อความเบื้องต้น


พระศาสดา เมื่อทรงอาศัยเมืองเวสาลี ประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา
ทรงปรารภพวกเจ้าลิจฉวี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า " รติยา ชายตี "
เป็นต้น.

พวกเจ้าลิจฉวีแต่งกายประกวดกัน


ได้ยินว่า ในวันมหรสพวันหนึ่ง เจ้าลิจฉวีเหล่านั้น ต่างองค์ต่าง
ประดับด้วยเครื่องประดับไม่เหมือนกัน ออกจากพระนครเพื่อทรงประสงค์
จะเสด็จไปอุทยาน. พระศาสดาเสด็จเข้าไปบิณฑบาต ทรงเห็นเจ้าลิจฉวี
เหล่านั้น จึงตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้ว ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย พวก
เธอจงดูพวกเจ้าลิจฉวี, พวกที่ไม่เคยเห็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ ก็จงดูเจ้าลิจฉวี
เหล่านี้เถิด " ดังนี้แล้ว เสด็จเข้าสู่พระนคร.

พวกเจ้าลิจฉวีวิวาทกันเพราะหญิงนครโสภิณี


แม้เจ้าลิจฉวีเหล่านั้น เมื่อไปสู่อุทยาน พาหญิงนครโสภิณีคนหนึ่ง
อาศัยหญิงนั้น อันความริษยาครอบงำแล้ว ประหารกันและกัน ยังเลือด
ให้ไหลนองดุจแม่น้ำ.
ครั้งนั้น พวกเจ้าพนักงานเอาเตียงหามเจ้าลิจฉวีเหล่านั้นมาแล้ว.
ฝ่ายพระศาสดา ทรงทำภัตกิจเสร็จแล้ว ก็เสด็จออกจากพระนคร. พวก
ภิกษุเห็นพวกเจ้าลิจฉวี อันเจ้าพนักงานนำไปอยู่อย่างนั้น จึงกราบทูล
พระศาสดาว่า " พระเจ้าข้า พวกเจ้าลิจฉวีเมื่อเช้าตรู่ ประดับประดา
แล้วออกจากพระนครราวกะพวกเทวดา. บัดนี้อาศัยหญิงคนหนึ่งถึงความ
พินาศนี้แล้ว."