[ม. นิ. 3.237] ‘‘ปุถุสทฺโท สมชโน, น พาโล โกจิ มญฺญถ;
สงฺฆสฺมิํ ภิชฺชมานสฺมิํ, นาญฺญํ ภิยฺโย อมญฺญรุํฯ
[ม. นิ. 3.237] ‘‘ปริมุฏฺฐา ปณฺฑิตาภาสา, วาจาโคจรภาณิโน;
ยาวิจฺฉนฺติ มุขายามํ, เยน นีตา น ตํ วิทูฯ
[ม. นิ. 3.237] ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม;
เย จ ตํ อุปนยฺหนฺติ, เวรํ เตสํ น สมฺมติฯ
[ม. นิ. 3.237] ‘‘อกฺโกจฺฉิ มํ อวธิ มํ, อชินิ มํ อหาสิ เม;
เย จ ตํ นุปนยฺหนฺติ, เวรํ เตสูปสมฺมติฯ
[ม. นิ. 3.237] ‘‘น หิ เวเรน เวรานิ, สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ;
อเวเรน จ สมฺมนฺติ, เอสธมฺโม สนนฺตโนฯ
[ม. นิ. 3.237] ‘‘ปเร จ น วิชานนฺติ, มยเมตฺถ ยมามเส;
เย จ ตตฺถ วิชานนฺติ, ตโต สมฺมนฺติ เมธคาฯ
[ม. นิ. 3.237] ‘‘อฏฺฐิจฺฉินฺนา ปาณหรา, ควาสฺสธนหาริโน;
รฏฺฐํ วิลุมฺปมานานํ, เตสมฺปิ โหติ สงฺคติฯ
‘‘กสฺมา ตุมฺหาก โน สิยา;
[ม. นิ. 3.237] ‘‘สเจ ลเภถ นิปกํ สหายํ;
สทฺธิํจรํ สาธุวิหาริ ธีรํ;
อภิภุยฺย สพฺพานิ ปริสฺสยานิ;
จเรยฺย เตนตฺตมโน สตีมาฯ
[ม. นิ. 3.237] ‘‘โน เจ ลเภถ นิปกํ สหายํ;
สทฺธิํ จรํ สาธุวิหาริ ธีรํ;
ราชาว รฏฺฐํ วิชิตํ ปหาย;
เอโก จเร มาตงฺครญฺเญว นาโคฯ
[ม. นิ. 3.237] ‘‘เอกสฺส จริตํ เสยฺโย;
นตฺถิ พาเล สหายตา;
เอโก จเร น จ ปาปานิ กยิรา;
อปฺโปสฺสุกฺโก มาตงฺครญฺเญว นาโค’’ติฯ
ทีฆาวุวตฺถุ นิฏฺฐิตํฯ
273. พาลกโลณกคมนกถา
[465] อถ โข ภควา สงฺฆมชฺเฌ ฐิตโกว อิมา คาถาโย ภาสิตฺวา เยน พาลกโลณกคาโม [พาลกโลณการคาโม (สี. สฺยา.)] เตนุปสงฺกมิฯ เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา ภคุ พาลกโลณกคาเม วิหรติฯ อทฺทสา โข อายสฺมา ภคุ ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน อาสนํ ปญฺญเปสิ, ปาโททกํ ปาทปีฐํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิ, ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหสิฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเน, นิสชฺช โข ภควา ปาเท ปกฺขาเลสิฯ อายสฺมาปิ โข ภคุ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ ภคุํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ, ภิกฺขุ, ขมนียํ; กจฺจิ ยาปนียํ, กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมสี’’ติ? ‘‘ขมนียํ, ภควา, ยาปนียํ, ภควา; น จาหํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมามี’’ติฯ อถ โข ภควา อายสฺมนฺตํ ภคุํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน ปาจีนวํสทาโย เตนุปสงฺกมิฯ
พาลกโลณกคมนกถา นิฏฺฐิตาฯ
274. ปาจีนวํสทายคมนกถา
[466] [ม. นิ. 1.325 อาทโย ปสฺสิตพฺพํ] เตน โข ปน สมเยน อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล [กิมฺพิโล (สี. สฺยา.)] ปาจีนวํสทาเย วิหรนฺติฯ อทฺทสา โข ทายปาโล ภควนฺตํ ทูรโตว อาคจฺฉนฺตํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มา, สมณ, เอตํ ทายํ ปาวิสิฯ สนฺเตตฺถ ตโย กุลปุตฺตา อตฺตกามรูปา วิหรนฺติฯ มา เตสํ อผาสุมกาสี’’ติฯ อสฺโสสิ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ ทายปาลสฺส ภควตา สทฺธิํ มนฺตยมานสฺส, สุตฺวาน ทายปาลํ เอตทโวจ – ‘‘มาวุโส, ทายปาล, ภควนฺตํ วาเรสิ ฯ สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ เยนายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อายสฺมนฺตญฺจ นนฺทิยํ อายสฺมนฺตญฺจ กิมิลํ เอตทโวจ – ‘‘อภิกฺกมถายสฺมนฺโต อภิกฺกมถายสฺมนฺโต, สตฺถา โน ภควา อนุปฺปตฺโต’’ติฯ อถ โข อายสฺมา จ อนุรุทฺโธ อายสฺมา จ นนฺทิโย อายสฺมา จ กิมิโล ภควนฺตํ ปจฺจุคฺคนฺตฺวา เอโก ภควโต ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหสิ, เอโก อาสนํ ปญฺญเปสิ, เอโก ปาโททกํ ปาทปีฐํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปิฯ นิสีทิ ภควา ปญฺญตฺเต อาสเน , นิสชฺช โข ภควา ปาเท ปกฺขาเลสิฯ เตปิ โข อายสฺมนฺโต ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนํ โข อายสฺมนฺตํ อนุรุทฺธํ ภควา เอตทโวจ – ‘‘กจฺจิ โว, อนุรุทฺธา, ขมนียํ, กจฺจิ ยาปนียํ; กจฺจิ ปิณฺฑเกน น กิลมถา’’ติ? ‘‘ขมนียํ ภควา, ยาปนียํ ภควา; น จ มยํ, ภนฺเต, ปิณฺฑเกน กิลมามา’’ติฯ
‘‘กจฺจิ ปน โว อนุรุทฺธา สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘ตคฺฆ มยํ, ภนฺเต, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรามา’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘อิธ มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, โยหํ เอวรูเปหิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธิํ วิหรามี’’’ติฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อิเมสุ อายสฺมนฺเตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ; เมตฺตํ วจีกมฺมํ… เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘‘‘ยํนูนาหํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเตยฺย’นฺติฯ โส โข อหํ, ภนฺเต, สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตามิฯ นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายา, เอกญฺจ ปน มญฺเญ จิตฺต’’นฺติฯ
อายสฺมาปิ โข นนฺทิโย…เป.… อายสฺมาปิ โข กิมิโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหมฺปิ โข, ภนฺเต, เอวํ โหติ – ‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, โยหํ เอวรูเปหิ สพฺรหฺมจารีหิ สทฺธิํ วิหรามี’ติฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, อิเมสุ อายสฺมนฺเตสุ เมตฺตํ กายกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จ; เมตฺตํ วจีกมฺมํ เมตฺตํ มโนกมฺมํ ปจฺจุปฏฺฐิตํ อาวิ เจว รโห จฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวํ โหติ ‘ยํนูนาหํ สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺเตยฺย’นฺติฯ โส โข อหํ, ภนฺเต, สกํ จิตฺตํ นิกฺขิปิตฺวา อิเมสํเยว อายสฺมนฺตานํ จิตฺตสฺส วเสน วตฺตามิฯ นานา หิ โข โน, ภนฺเต, กายา, เอกญฺจ ปน มญฺเญ จิตฺตนฺติฯ เอวํ โข มยํ, ภนฺเต, สมคฺคา สมฺโมทมานา อวิวทมานา ขีโรทกีภูตา อญฺญมญฺญํ ปิยจกฺขูหิ สมฺปสฺสนฺตา วิหรามา’’ติฯ
‘‘กจฺจิ ปน โว, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘ตคฺฆ มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามา’’ติฯ ‘‘ยถา กถํ ปน ตุมฺเห, อนุรุทฺธา, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรถา’’ติ? ‘‘อิธ, ภนฺเต, อมฺหากํ โย ปฐมํ คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ โส อาสนํ ปญฺญเปติ, ปาโททกํ ปาทปีฐํ ปาทกถลิกํ อุปนิกฺขิปติ, อวกฺการปาติํ โธวิตฺวา อุปฏฺฐาเปติ, ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺฐาเปติฯ โย ปจฺฉา คามโต ปิณฺฑาย ปฏิกฺกมติ, สเจ โหติ ภุตฺตาวเสโส, สเจ อากงฺขติ ภุญฺชติ, โน เจ อากงฺขติ อปฺปหริเต วา ฉฑฺเฑติฯ อปฺปาณเก วา อุทเก โอปิลาเปติฯ โส อาสนํ อุทฺธรติ , ปาโททกํ ปาทปีฐํ ปาทกถลิกํ ปฏิสาเมติ, อวกฺการปาติํ โธวิตฺวา ปฏิสาเมติ, ปานียํ ปริโภชนียํ ปฏิสาเมติ, ภตฺตคฺคํ สมฺมชฺชติฯ โย ปสฺสติ ปานียฆฏํ วา ปริโภชนียฆฏํ วา วจฺจฆฏํ วา ริตฺตํ ตุจฺฉํ โส อุปฏฺฐาเปติฯ สจสฺส โหติ อวิสยฺหํ, หตฺถวิกาเรน ทุติยํ อามนฺเตตฺวา หตฺถวิลงฺฆเกน อุปฏฺฐาเปม, น ตฺเวว มยํ, ภนฺเต, ตปฺปจฺจยา วาจํ ภินฺทามฯ ปญฺจาหิกํ โข ปน มยํ, ภนฺเต, สพฺพรตฺติํ ธมฺมิยา กถาย สนฺนิสีทามฯ เอวํ โข มยํ, ภนฺเต, อปฺปมตฺตา อาตาปิโน ปหิตตฺตา วิหรามา’’ติฯ
ปาจินวํสทายคมนกถา นิฏฺฐิตาฯ
275. ปาลิเลยฺยกคมนกถา
[467] [อุทา. 35 อาทโย โถกํ วิสทิสํ] อถ โข ภควา อายสฺมนฺตญฺจ อนุรุทฺธํ อายสฺมนฺตญฺจ นนฺทิยํ อายสฺมนฺตญฺจ กิมิลํ ธมฺมิยา กถาย สนฺทสฺเสตฺวา สมาทเปตฺวา สมุตฺเตเชตฺวา สมฺปหํเสตฺวา อุฏฺฐายาสนา เยน ปาลิเลยฺยกํ [ปาริเลยฺยกํ (สี. สฺยา.)] เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน ปาลิเลยฺยกํ ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา ปาลิเลยฺยเก วิหรติ รกฺขิตวนสณฺเฑ ภทฺทสาลมูเลฯ อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อหํ โข ปุพฺเพ อากิณฺโณ น ผาสุ วิหาสิํ เตหิ โกสมฺพเกหิ [โกสพฺภิเกหิ (สฺยา.)] ภิกฺขูหิ ภณฺฑนการเกหิ กลหการเกหิ วิวาทการเกหิ ภสฺสการเกหิ สงฺเฆ อธิกรณการเกหิฯ โสมฺหิ เอตรหิ เอโก อทุติโย สุขํ ผาสุ วิหรามิ อญฺญตฺเรว เตหิ โกสมฺพเกหิ ภิกฺขูหิ ภณฺฑนการเกหิ กลหการเกหิ วิวาทการเกหิ ภสฺสการเกหิ สงฺเฆ อธิกรณการเกหี’’ติฯ
อญฺญตโรปิ โข หตฺถินาโค อากิณฺโณ วิหรติ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกฬเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทติ, โอภคฺโคภคฺคญฺจสฺส สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ, อาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวติ, โอคาหา จสฺส โอติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติฯ อถ โข ตสฺส หตฺถินาคสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ โข อากิณฺโณ วิหรามิ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกฬเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทามิ, โอภคฺโคภคฺคญฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทนฺติ, อาวิลานิ จ ปานียานิ ปิวามิ, โอคาหา จ เม โอติณฺณสฺส หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติฯ ยํนูนาหํ เอโกว คณสฺมา วูปกฏฺโฐ วิหเรยฺย’’นฺติฯ อถ โข โส หตฺถินาโค ยูถา อปกฺกมฺม เยน ปาลิเลยฺยกํ รกฺขิตวนสณฺโฑ ภทฺทสาลมูลํ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา โสณฺฑาย ภควโต ปานียํ ปริโภชนียํ อุปฏฺฐาเปติ, อปฺปหริตญฺจ กโรติฯ อถ โข ตสฺส หตฺถินาคสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อหํ โข ปุพฺเพ อากิณฺโณ น ผาสุ วิหาสิํ หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกฬเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหิ, ฉินฺนคฺคานิ เจว ติณานิ ขาทิํ, โอภคฺโคภคฺคญฺจ เม สาขาภงฺคํ ขาทิํสุ, อาวิลานิ จ ปานียานิ อปายิํ โอคาหา จ เม โอติณฺณสฺส [โอคาหญฺจสฺส โอติณฺณสฺส (สฺยา.), โอคาหา จสฺส อุตฺติณฺณสฺส (สี.)] หตฺถินิโย กายํ อุปนิฆํสนฺติโย อคมํสุฯ โสมฺหิ เอตรหิ เอโก อทุติโย สุขํ ผาสุ วิหรามิ อญฺญตฺเรว หตฺถีหิ หตฺถินีหิ หตฺถิกฬเภหิ หตฺถิจฺฉาเปหี’’ติฯ
อถ โข ภควา อตฺตโน จ ปวิเวกํ วิทิตฺวา ตสฺส จ หตฺถินาคสฺส เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –
[อุทา. 35] ‘‘เอตํ [เอวํ (ก.)] นาคสฺส นาเคน, อีสาทนฺตสฺส หตฺถิโน;
สเมติ จิตฺตํ จิตฺเตน, ยเทโก รมตี วเน’’ติฯ
อถ โข ภควา ปาลิเลยฺยเก ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน สาวตฺถิ เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ อนุปุพฺเพน จาริกํ จรมาโน เยน สาวตฺถิ ตทวสริฯ ตตฺร สุทํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปิณฺฑิกสฺส อาราเมฯ
อถ โข โกสมฺพกา อุปาสกา – ‘‘อิเม โข อยฺยา โกสมฺพกา ภิกฺขู พหุโน อมฺหากํ อนตฺถสฺส การกา ฯ อิเมหิ อุพฺพาฬฺโห ภควา ปกฺกนฺโตฯ หนฺท มยํ อยฺเย โกสมฺพเก ภิกฺขู เนว อภิวาเทยฺยาม, น ปจฺจุฏฺเฐยฺยาม, น อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ กเรยฺยาม, น สกฺกเรยฺยาม, น ครุํ กเรยฺยาม, น มาเนยฺยาม, น ภเชยฺยาม, น ปูเชยฺยาม, อุปคตานมฺปิ ปิณฺฑกํ น ทชฺเชยฺยาม – เอวํ อิเม อมฺเหหิ อสกฺกริยมานา อครุกริยมานา อมานิยมานา อภชิยมานา อปูชิยมานา อสกฺการปกตา ปกฺกมิสฺสนฺติ วา วิพฺภมิสฺสนฺติ วา ภควนฺตํ วา ปสาเทสฺสนฺตี’’ติฯ อถ โข โกสมฺพกา อุปาสกา โกสมฺพเก ภิกฺขู เนว อภิวาเทสุํ, น ปจฺจุฏฺเฐสุํ, น อญฺชลิกมฺมํ สามีจิกมฺมํ อกํสุ, น สกฺกริํสุ, น ครุํ กริํสุ, น มาเนสุํ, น ภเชสุํ น ปูเชสุํ, อุปคตานมฺปิ ปิณฺฑกํ น อทํสุฯ อถ โข โกสมฺพกา ภิกฺขู โกสมฺพเกหิ อุปาสเกหิ อสกฺกริยมานา อครุกริยมานา อมานิยมานา อภชิยมานา อปูชิยมานา อสกฺการปกตา เอวมาหํสุ – ‘‘หนฺท มยํ, อาวุโส, สาวตฺถิํ คนฺตฺวา ภควโต สนฺติเก อิมํ อธิกรณํ วูปสเมยฺยามา’’ติฯ
ปาลิเลยฺยกคมนกถา นิฏฺฐิตาฯ
276. อฏฺฐารสวตฺถุกถา
[468] อถ โข โกสมฺพกา ภิกฺขู เสนาสนํ สํสาเมตฺวา ปตฺตจีวรมาทาย เยน สาวตฺถิ เตนุปสงฺกมิํสุฯ อสฺโสสิ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, สาริปุตฺต, ยถา ธมฺโม ตถา ติฏฺฐาหี’’ติฯ ‘‘กถาหํ, ภนฺเต, ชาเนยฺยํ ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา’’ติ?
อฏฺฐารสหิ โข, สาริปุตฺต, วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตพฺโพฯ
อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ; อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ – อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, อฏฺฐารสหิ วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตพฺโพฯ
อฏฺฐารสหิ จ โข, สาริปุตฺต, วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตพฺโพฯ อิธ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ; อวินยํ อวินโยติ ทีเปติ, วินยํ วินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ ; อนาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ – อิเมหิ โข, สาริปุตฺต, อฏฺฐารสหิ วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตพฺโพติฯ
[469] อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหาโมคฺคลฺลาโน…เป.… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหากสฺสโป… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหากจฺจาโน… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหาโกฏฺฐิโก … อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหากปฺปิโน… อสฺโสสิ โข อายสฺมา มหาจุนฺโท… อสฺโสสิ โข อายสฺมา อนุรุทฺโธ… อสฺโสสิ โข อายสฺมา เรวโต … อสฺโสสิ โข อายสฺมา อุปาลิ… อสฺโสสิ โข อายสฺมา อานนฺโท… อสฺโสสิ โข อายสฺมา ราหุโล – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ อถ โข อายสฺมา ราหุโล เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา ราหุโล ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, ราหุล, ยถา ธมฺโม ตถา ติฏฺฐาหี’’ติฯ ‘‘กถาหํ, ภนฺเต, ชาเนยฺยํ ธมฺมํ วา อธมฺมํ วา’’ติ?
อฏฺฐารสหิ โข, ราหุล, วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตพฺโพฯ อิธ, ราหุล, ภิกฺขุ อธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ; อวินยํ วินโยติ ทีเปติ, วินยํ อวินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ – อิเมหิ โข, ราหุล, อฏฺฐารสหิ วตฺถูหิ อธมฺมวาที ชานิตพฺโพฯ
อฏฺฐารสหิ จ โข, ราหุล, วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตพฺโพฯ
อิธ, ราหุล, ภิกฺขุ อธมฺมํ อธมฺโมติ ทีเปติ, ธมฺมํ ธมฺโมติ ทีเปติ; อวินยํ อวินโยติ ทีเปติ, วินยํ วินโยติ ทีเปติ; อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตน อภาสิตํ อลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตน ภาสิตํ ลปิตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาจิณฺณํ ตถาคเตน อนาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, อาจิณฺณํ ตถาคเตน อาจิณฺณํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อปญฺญตฺตํ ตถาคเตน อปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ, ปญฺญตฺตํ ตถาคเตน ปญฺญตฺตํ ตถาคเตนาติ ทีเปติ; อนาปตฺติํ อนาปตฺตีติ ทีเปติ, อาปตฺติํ อาปตฺตีติ ทีเปติ; ลหุกํ อาปตฺติํ ลหุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ, ครุกํ อาปตฺติํ ครุกา อาปตฺตีติ ทีเปติ; สาวเสสํ อาปตฺติํ สาวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อนวเสสํ อาปตฺติํ อนวเสสา อาปตฺตีติ ทีเปติ; ทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ ทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ, อทุฏฺฐุลฺลํ อาปตฺติํ อทุฏฺฐุลฺลา อาปตฺตีติ ทีเปติ – อิเมหิ โข, ราหุล, อฏฺฐารสหิ วตฺถูหิ ธมฺมวาที ชานิตพฺโพติฯ
[470] อสฺโสสิ โข มหาปชาปติ [มหาปชาปตี (สี. สฺยา.)] โคตมี – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ อถ โข มหาปชาปติ โคตมี เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข มหาปชาปติ โคตมี ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, โคตมิ, อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณฯ อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฏฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหิฯ ยญฺจ กิญฺจิ ภิกฺขุนิสงฺเฆน ภิกฺขุสงฺฆโต ปจฺจาสีสิตพฺพํ สพฺพํ ตํ ธมฺมวาทิโตว ปจฺจาสีสิตพฺพ’’นฺติฯ
[471] อสฺโสสิ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติฯ อถ โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ
เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อนาถปิณฺฑิโก คหปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, คหปติ, อุภยตฺถ ทานํ เทหิฯ อุภยตฺถ ทานํ ทตฺวา อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณฯ อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฏฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหี’’ติฯ
[472] อสฺโสสิ โข วิสาขา มิคารมาตา – ‘‘เต กิร โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ ฯ อถ โข วิสาขา มิคารมาตา เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข วิสาขา มิคารมาตา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อาคจฺฉนฺติฯ กถาหํ, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ ปฏิปชฺชามี’’ติ? ‘‘เตน หิ ตฺวํ, วิสาเข, อุภยตฺถ ทานํ เทหิฯ อุภยตฺถ ทานํ ทตฺวา อุภยตฺถ ธมฺมํ สุณฯ อุภยตฺถ ธมฺมํ สุตฺวา เย ตตฺถ ภิกฺขู ธมฺมวาทิโน เตสํ ทิฏฺฐิญฺจ ขนฺติญฺจ รุจิญฺจ อาทายญฺจ โรเจหี’’ติฯ
[473] อถ โข โกสมฺพกา ภิกฺขู อนุปุพฺเพน เยน สาวตฺถิ ตทวสรุํฯ อถ โข อายสฺมา สาริปุตฺโต เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิฯ เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อายสฺมา สาริปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เต กิร, ภนฺเต, โกสมฺพกา ภิกฺขู ภณฺฑนการกา กลหการกา วิวาทการกา ภสฺสการกา สงฺเฆ อธิกรณการกา สาวตฺถิํ อนุปฺปตฺตาฯ กถํ นุ โข, ภนฺเต, เตสุ ภิกฺขูสุ เสนาสเน [เสนาสเนสุ (ก.), เสนาสนํ (สฺยา.)] ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘เตน หิ, สาริปุตฺต, วิวิตฺตํ เสนาสนํ ทาตพฺพ’’นฺติฯ ‘‘สเจ ปน, ภนฺเต, วิวิตฺตํ น โหติ, กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘เตน หิ, สาริปุตฺต, วิวิตฺตํ กตฺวาปิ ทาตพฺพํ, น ตฺเววาหํ, สาริปุตฺต, เกนจิ ปริยาเยน วุฑฺฒตรสฺส ภิกฺขุโน เสนาสนํ ปฏิพาหิตพฺพนฺติ วทามิฯ โย ปฏิพาเหยฺย, อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺสา’’ติฯ
‘‘อามิเส ปน, ภนฺเต, กถํ ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อามิสํ โข, สาริปุตฺต, สพฺเพสํ สมกํ ภาเชตพฺพ’’นฺติฯ
อฏฺฐารสวตฺถุกถา นิฏฺฐิตาฯ
277. โอสารณานุชานนา
[474] อถ โข ตสฺส อุกฺขิตฺตกสฺส ภิกฺขุโน ธมฺมญฺจ วินยญฺจ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส เอตทโหสิ – ‘‘อาปตฺติ เอสา, เนสา อนาปตฺติฯ อาปนฺโนมฺหิ, นมฺหิ อนาปนฺโนฯ อุกฺขิตฺโตมฺหิ, นมฺหิ อนุกฺขิตฺโตฯ ธมฺมิเกนมฺหิ กมฺเมน อุกฺขิตฺโต อกุปฺเปน ฐานารเหนา’’ติฯ อถ โข โส อุกฺขิตฺตโก ภิกฺขุ เยน อุกฺขิตฺตานุวตฺตกา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺขิตฺตานุวตฺตเก ภิกฺขู เอตทโวจ – ‘‘อาปตฺติ เอสา, อาวุโส; เนสา อนาปตฺติฯ อาปนฺโนมฺหิ, นมฺหิ อนาปนฺโนฯ อุกฺขิตฺโตมฺหิ, นมฺหิ อนุกฺขิตฺโตฯ ธมฺมิเกนมฺหิ กมฺเมน อุกฺขิตฺโต อกุปฺเปน ฐานารเหนฯ เอถ มํ อายสฺมนฺโต โอสาเรถา’’ติฯ อถ โข เต อุกฺขิตฺตานุวตฺตกา ภิกฺขู ตํ อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุํ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ นิสีทิํสุฯ เอกมนฺตํ นิสินฺนา โข เต ภิกฺขู ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘อยํ, ภนฺเต, อุกฺขิตฺตโก ภิกฺขุ เอวมาห – ‘อาปตฺติ เอสา , อาวุโส; เนสา อนาปตฺติฯ อาปนฺโนมฺหิ, นมฺหิ อนาปนฺโนฯ อุกฺขิตฺโตมฺหิ, นมฺหิ อนุกฺขิตฺโตฯ ธมฺมิเกนมฺหิ กมฺเมน อุกฺขิตฺโต อกุปฺเปน ฐานารเหนฯ เอถ มํ อายสฺมนฺโต โอสาเรถา’ติฯ กถํ นุ โข, ภนฺเต, ปฏิปชฺชิตพฺพ’’นฺติ? ‘‘อาปตฺติ เอสา, ภิกฺขเว; เนสา อนาปตฺติฯ อาปนฺโน เอโส ภิกฺขุ, เนโส ภิกฺขุ อนาปนฺโนฯ อุกฺขิตฺโต เอโส ภิกฺขุ, เนโส ภิกฺขุ อนุกฺขิตฺโต ฯ ธมฺมิเกน กมฺเมน อุกฺขิตฺโต อกุปฺเปน ฐานารเหนฯ ยโต จ โข โส, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อาปนฺโน จ อุกฺขิตฺโต จ ปสฺสติ จ, เตน หิ, ภิกฺขเว, ตํ ภิกฺขุํ โอสาเรถา’’ติฯ
โอสารณานุชานนา นิฏฺฐิตาฯ
278. สงฺฆสามคฺคีกถา
[475] อถ โข เต อุกฺขิตฺตานุวตฺตกา ภิกฺขู ตํ อุกฺขิตฺตกํ ภิกฺขุํ โอสาเรตฺวา เยน อุกฺเขปกา ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา อุกฺเขปเก ภิกฺขู เอตทโวจุํ – ‘‘ยสฺมิํ, อาวุโส, วตฺถุสฺมิํ อโหสิ สงฺฆสฺส ภณฺฑนํ กลโห วิคฺคโห วิวาโท สงฺฆเภโท สงฺฆราชิ สงฺฆววตฺถานํ สงฺฆนานากรณํ , โส เอโส ภิกฺขุ อาปนฺโน จ อุกฺขิตฺโต จ ปสฺสิ [ปสฺสี (อิติปิ)] จ โอสาริโต จฯ หนฺท มยํ, อาวุโส, ตสฺส วตฺถุสฺส วูปสมาย สงฺฆสามคฺคิํ กโรมา’’ติฯ