เมนู

. . .ภิกษุใดบริโภคเครื่องยาอันเป็นปัจจัยของภิกษุไข้ของท่าน ภิกษุนั้น
เข้าแล้ว . . . ซึ่งจตุตถฌานในสุญญาคาร. . . ต้องอาบัติทุกกฏ.
[339] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า วิหารของท่าน
อันภิกษุใดอาศัยแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้
ชำนาญ ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน. . . ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ*
. . . วิหารของท่านอันภิกษุใดอาศัยแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว . . . ซึ่ง
จตุตถฌานในสุญญาคาร...ต้องอาบัติทุกกฏ.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า จีวรของท่านอันภิกษุใด
ใช้สอยแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้ชำนาญ
ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน . . . ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ*
. . .จีวรของท่านอันภิกษุใดใช้สอยแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว . . . ซึ่ง
จตุตถฌาน ในสุญญาคาร. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสันบันว่า บิณฑบาตของท่านอัน
ภิกษุใดบริโภคแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้แล้ว เป็นผู้ ได้ เป็นผู้
ชำนาญ ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ*
. . .บิณฑบาตของท่านอันภิกษุใดบริโภคแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว. . .ซึ่ง
จตุตถฌานนสุญญาคาร. .. ต้องอาบัติทุกกฏ.
* ที่ ฯลฯ ไว้นี้ พึงทราบตามนัยแห่งจตุตถปาราชิกโน้นเถิด.

บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า เสนาสนะของท่านอัน
ภิกษุใดใช้สอยแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้
ชำนาญ ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน. .. ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
...เสนาสนะของท่านอันภิกษุใดใช้สอยแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว .. . ซึ่ง
จตุตถฌานในสุญญาคาร...ต้องอาบัติทุกกฏ.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า เครื่องยาอันเป็นปัจจัย
ของภิกษุไข้ของท่านอันภิกษุใดบริโภคแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้
แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้ชำนาญ ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน. . .ต้องอาบัติทุกกฏ .
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
. . .เครื่องยาอันเป็นปัจจัยของภิกษุไข้ของท่านอัน ภิกษุใดบริโภคแล้ว
ภิกษุนั้นเข้าแล้ว . ..ซึ่งจตุตถฌานในสุญญาคาร ... ต้องอาบัติทุกกฏ.
[340] บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ท่านอาศัย
ภิกษุใด ได้ถวายวิหารแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้แล้ว เป็นผู้ได้
เป็นผู้ชำนาญ ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน...ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
. . .ท่านอาศัยภิกษุใด ได้ถวายวิหารแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว . . . ซึ่ง
จตุตถฌานในสุญญาคาร. . ต้องอาบัติทุกกฏ.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ท่านอาศัยภิกษุใดได้
ถวายจีวรแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่เข้าได้แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้ชำนาญ
ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน.. .ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ

. . .ท่านอาศัยภิกษุใด ได้ถวายจีวรแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว . . . ซึ่ง
จตุตถฌานในสุญญาคาร . . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
. . .บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ท่านอาศัยภิกษุใด ได้
ถวายบิณฑบาตแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้
ชำนาญ ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน ดังนี้ ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
. . .ท่านอาศัยภิกษุใด ได้ถวายบิณฑบาตแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว . . .ซึ่ง
จตุตถฌานในสุญญาคาร . . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ท่านอาศัยภิกษุใดได้
ถวายเสนาสนะแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้
ชำนาญ ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน . . . ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
. . .ท่านอาศัยภิกษุใด ได้ถวายเสนาสนะแล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว . . .ซึ่ง
จตุตถฌานในสุญญาคาร. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
บทว่า บอก คือ ภิกษุบอกแก่อนุปสัมบันว่า ท่านอาศัยภิกษุใดได้
ถวายเครื่องยาอันเป็นปัจจัยของภิกษุไข้แล้ว ภิกษุนั้นเข้าแล้ว เข้าอยู่ เข้าได้
แล้ว เป็นผู้ได้ เป็นผู้ชำนาญ ทำให้แจ้ง ซึ่งปฐมฌาน. . .ต้องอาบัติทุกกฏ.
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
. . .ท่านอาศัยภิกษุใด ได้ถวายเครื่องยาอันเป็นปัจจัยของภิกษุไข้แล้ว
ภิกษุนั้นเข้าแล้ว. . . ซึ่งจตุตถฌานในสุญญาคาร.. .ต้องอาบัติทุกกฏ.

อนาปัตติวาร


[341] ภิกษุบอกอุตริมนุสธรรมที่มีจริง แก่อุปสัมบัน 1 ภิกษุ
อาทิกัมมิกะ 1 ไม่ต้องอาบัติแล.
มุสาวาทวรรค สิกขาบทที่ 8 จบ

มุสาวาทวรรค ภูตาโรจนสิกขาบทที่ 8


พึงทราบวินิจฉัย ในสิกขาบทที่ 8 ดังต่อไปนี้.

[แก้อรรถปฐมบัญญัติ เรื่องภิกษุพวกฝั่งแม่น้ำวัคคุมุทา]


คำใดที่ข้าพเจ้าควรจะกล่าวก่อนในวัตถุกถา, คำนั้นทั้งหมด มีนัยดัง
ที่กล่าวแล้วในจตุตถปาราชิกวรรณนานั่นแล. ส่วนความแปลกกัน ดังต่อไปนี้.
ในจตุตถปาราชิกนั้น พวกภิกษุบอกอุตริมนุสธรรมอันไม่มีจริง ในสิกขาบทนี้
บอกอุตริมนุสธรรมที่มีจริง. ปุถุชนทั้งหลาย บอกอุตริมนุสธรรมแม้ที่มีจริง.
อริยเจ้าทั้งหลายไม่บอก. จริงอยู่ ชื่อว่า ปยุตตวาจา (วาจาที่เปล่งเพราะเหตุ
เเห่งท้อง) ไม่มีแก่พระอริยเจ้าทั้งหลาย. แต่เมื่อผู้อื่น บอกคุณของตนเอง
ท่านก็ไม่ห้ามคนเหล่าอื่น และยินดีปัจจัยทั้งหลายที่เกิดขึ้น โดยอาการที่ไม่
ทราบว่าเกิดขึ้น (เพราะการบอกคุณของตน).
ก็ในคำว่า อถโข เต ภิกฺขุ ภควโต เอตมตฺถํ อาโรเจสุํ เป็นต้น
บัณฑิตพึงทราบว่า ภิกษุทั้งหลายเหล่าใด กล่าวคุณแห่งอุตริมนุสธรรม
ภิกษุเหล่านั้น ได้กราบทูลแล้ว. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย คุณวิเสสของพวกเธอ มีจริงหรือ ? ก็ภิกษุเหล่านั้นแม้ทั้งหมดทูล
รับปฏิญาณว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า ! มีจริง, เพราะว่า อุตริมนุสธรรม