เมนู

ฯ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺสฯ

วินยปิฏเก

มหาวคฺคปาฬิ

1. มหาขนฺธโก

1. โพธิกถา

[1] [อุทา. 1 อาทโย] เตน สมเยน พุทฺโธ ภควา อุรุเวลายํ วิหรติ นชฺชา เนรญฺชราย ตีเร โพธิรุกฺขมูเล ปฐมาภิสมฺพุทฺโธฯ อถ โข ภควา โพธิรุกฺขมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวที [วิมุตฺติสุขํ ปฏิสํเวที (ก.)]ฯ อถ โข ภควา รตฺติยา ปฐมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสากาสิ – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา สมฺภวนฺติ – เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติฯ ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา สงฺขารนิโรโธ, สงฺขารนิโรธา วิญฺญาณนิโรโธ, วิญฺญาณนิโรธา นามรูปนิโรโธ, นามรูปนิโรธา สฬายตนนิโรโธ, สฬายตนนิโรธา ผสฺสนิโรโธ, ผสฺสนิโรธา เวทนานิโรโธ, เวทนานิโรธา ตณฺหานิโรโธ, ตณฺหานิโรธา อุปาทานนิโรโธ , อุปาทานนิโรธา ภวนิโรโธ, ภวนิโรธา ชาตินิโรโธ, ชาตินิโรธา ชรามรณํ โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา นิรุชฺฌนฺติ – เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ โหตี’’ติฯ

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา;

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา;

ยโต ปชานาติ สเหตุธมฺม’’นฺติฯ

[2] [อุทา. 2] อถ โข ภควา รตฺติยา มชฺฌิมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสากาสิ – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี…เป.… นิโรโธ โหตี’’ติฯ

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา;

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

อถสฺส กงฺขา วปยนฺติ สพฺพา;

ยโต ขยํ ปจฺจยานํ อเวที’’ติฯ

[3] [อุทา. 3] อถ โข ภควา รตฺติยา ปจฺฉิมํ ยามํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ อนุโลมปฏิโลมํ มนสากาสิ – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิญฺญาณํ, วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ…เป.… เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ…เป.… นิโรโธ โหตี’’ติฯ

อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

‘‘ยทา หเว ปาตุภวนฺติ ธมฺมา;

อาตาปิโน ฌายโต พฺราหฺมณสฺส;

วิธูปยํ ติฏฺฐติ มารเสนํ;

สูริโยว [สุริโยว (สี. สฺยา. กํ.)] โอภาสยมนฺตลิกฺข’’นฺติฯ

โพธิกถา นิฏฺฐิตาฯ

2. อชปาลกถา

[4] [อุทา. 4] อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺฐหิตฺวา โพธิรุกฺขมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา อชปาลนิคฺโรธมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทีฯ อถ โข อญฺญตโร หุํหุงฺกชาติโก พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิฯ อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา สทฺธิํ สมฺโมทิฯ สมฺโมทนียํ กถํ สารณียํ วีติสาเรตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐาสิฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข โส พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘กิตฺตาวตา นุ โข, โภ โคตม, พฺราหฺมโณ โหติ, กตเม จ ปน พฺราหฺมณกรณา [พฺราหฺมณการกา (ก.) พฺราหฺมณกราณา (?)] ธมฺมา’’ติ? อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

[เนตฺติ. 103] โย พฺราหฺมโณ พาหิตปาปธมฺโม;

นิหุํหุงฺโก นิกฺกสาโว ยตตฺโต;

เวทนฺตคู วุสิตพฺรหฺมจริโย;

ธมฺเมน โส พฺรหฺมวาทํ วเทยฺย;

ยสฺสุสฺสทา นตฺถิ กุหิญฺจิ โลเก’’ติฯ

อชปาลกถา นิฏฺฐิตาฯ

3. มุจลินฺทกถา

[5] [อุทา. 11] อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺฐหิตฺวา อชปาลนิคฺโรธมูลา เยน มุจลินฺโท เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา มุจลินฺทมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทีฯ เตน โข ปน สมเยน มหา อกาลเมโฆ อุทปาทิ, สตฺตาหวทฺทลิกา สีตวาตทุทฺทินีฯ อถ โข มุจลินฺโท นาคราชา สกภวนา นิกฺขมิตฺวา ภควโต กายํ สตฺตกฺขตฺตุํ โภเคหิ ปริกฺขิปิตฺวา อุปริมุทฺธนิ มหนฺตํ ผณํ กริตฺวา อฏฺฐาสิ – ‘‘มา ภควนฺตํ สีตํ, มา ภควนฺตํ อุณฺหํ, มา ภควนฺตํ ฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺโส’’ติ […สิริํ สป… (สี. สฺยา. กํ.)]ฯ อถ โข มุจลินฺโท นาคราชา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน วิทฺธํ วิคตวลาหกํ เทวํ วิทิตฺวา ภควโต กายา โภเค วินิเวเฐตฺวา สกวณฺณํ ปฏิสํหริตฺวา มาณวกวณฺณํ อภินิมฺมินิตฺวา ภควโต ปุรโต อฏฺฐาสิ ปญฺชลิโก ภควนฺตํ นมสฺสมาโนฯ อถ โข ภควา เอตมตฺถํ วิทิตฺวา ตายํ เวลายํ อิมํ อุทานํ อุทาเนสิ –

[กถา. 338 กถาวตฺถุปาฬิยมฺปิ]‘‘สุโข วิเวโก ตุฏฺฐสฺส, สุตธมฺมสฺส ปสฺสโต;

อพฺยาปชฺชํ สุขํ โลเก, ปาณภูเตสุ สํยโมฯ

[กถา. 338 กถาวตฺถุปาฬิยมฺปิ]‘‘สุขา วิราคตา โลเก, กามานํ สมติกฺกโม;

อสฺมิมานสฺส โย วินโย, เอตํ เว ปรมํ สุข’’นฺติฯ

มุจลินฺทกถา นิฏฺฐิตาฯ

4. ราชายตนกถา

[6] อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺฐหิตฺวา มุจลินฺทมูลา เยน ราชายตนํ เตนุปสงฺกมิ, อุปสงฺกมิตฺวา ราชายตนมูเล สตฺตาหํ เอกปลฺลงฺเกน นิสีทิ วิมุตฺติสุขปฏิสํเวทีฯ เตน โข ปน สมเยน ตปุสฺส [ตปสฺสุ (สี.)] ภลฺลิกา วาณิชา อุกฺกลา ตํ เทสํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนา โหนฺติฯ อถ โข ตปุสฺสภลฺลิกานํ วาณิชานํ ญาติสาโลหิตา เทวตา ตปุสฺสภลฺลิเก วาณิเช เอตทโวจ – ‘‘อยํ, มาริสา, ภควา ราชายตนมูเล วิหรติ ปฐมาภิสมฺพุทฺโธ; คจฺฉถ ตํ ภควนฺตํ มนฺเถน จ มธุปิณฺฑิกาย จ ปติมาเนถ; ตํ โว ภวิสฺสติ ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ อถ โข ตปุสฺสภลฺลิกา วาณิชา มนฺถญฺจ มธุปิณฺฑิกญฺจ อาทาย เยน ภควา เตนุปสงฺกมิํสุ, อุปสงฺกมิตฺวา ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุฯ เอกมนฺตํ ฐิตา โข ตปุสฺสภลฺลิกา วาณิชา ภควนฺตํ เอตทโวจุํ – ‘‘ปฏิคฺคณฺหาตุ โน, ภนฺเต, ภควา มนฺถญฺจ มธุปิณฺฑิกญฺจ, ยํ อมฺหากํ อสฺส ทีฆรตฺตํ หิตาย สุขายา’’ติฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘น โข ตถาคตา หตฺเถสุ ปฏิคฺคณฺหนฺติฯ กิมฺหิ นุ โข อหํ ปฏิคฺคณฺเหยฺยํ มนฺถญฺจ มธุปิณฺฑิกญฺจา’’ติ? อถ โข จตฺตาโร มหาราชาโน ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย จตุทฺทิสา จตฺตาโร เสลมเย ปตฺเต ภควโต อุปนาเมสุํ – ‘‘อิธ, ภนฺเต, ภควา ปฏิคฺคณฺหาตุ มนฺถญฺจ มธุปิณฺฑิกญฺจา’’ติฯ ปฏิคฺคเหสิ ภควา ปจฺจคฺเฆ เสลมเย ปตฺเต มนฺถญฺจ มธุปิณฺฑิกญฺจ, ปฏิคฺคเหตฺวา ปริภุญฺชิฯ อถ โข ตปุสฺสภลฺลิกา วาณิชา ภควนฺตํ โอนีตปตฺตปาณิํ วิทิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ (โอนีตปตฺตปาณิํ วิทิตฺวา ภควโต ปาเทสุ สิรสา นิปติตฺวา ภควนฺตํ) [( ) สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ] เอตทโวจุํ – ‘‘เอเต มยํ, ภนฺเต, ภควนฺตํ สรณํ คจฺฉาม ธมฺมญฺจ, อุปาสเก โน ภควา ธาเรตุ อชฺชตคฺเค ปาณุเปเต สรณํ คเต’’ติฯ เต จ โลเก ปฐมํ อุปาสกา อเหสุํ ทฺเววาจิกาฯ

ราชายตนกถา นิฏฺฐิตาฯ

5. พฺรหฺมยาจนกถา

[7] [อยํ พฺรหฺมยาจนกถา ที. นิ. 2.64 อาทโย; ม. นิ. 1.281 อาทโย; ม. นิ. 2.336 อาทโย; สํ. นิ. 1.172 อาทโย] อถ โข ภควา สตฺตาหสฺส อจฺจเยน ตมฺหา สมาธิมฺหา วุฏฺฐหิตฺวา ราชายตนมูลา เยน อชปาลนิคฺโรโธ เตนุปสงฺกมิฯ ตตฺร สุทํ ภควา อชปาลนิคฺโรธมูเล วิหรติฯ อถ โข ภควโต รโหคตสฺส ปฏิสลฺลีนสฺส เอวํ เจตโส ปริวิตกฺโก อุทปาทิ – ‘‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโยฯ อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตาฯ อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ ฐานํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปอจฺจสมุปฺปาโท; อิทมฺปิ โข ฐานํ สุทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํฯ อหญฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ, โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’’ติฯ อปิสฺสุ ภควนฺตํ อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –

‘‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;

ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธฯ

‘‘ปฏิโสตคามิํ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;

ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา [อาวฏา (สี.)]’’ติฯ

อิติห ภควโต ปฏิสญฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ, โน ธมฺมเทสนายฯ

[8] อถ โข พฺรหฺมุโน สหมฺปติสฺส ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมญฺญาย เอตทโหสิ – ‘‘นสฺสติ วต โภ โลโก, วินสฺสติ วต โภ โลโก, ยตฺร หิ นาม ตถาคตสฺส อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ [นมิสฺสติ (?)], โน ธมฺมเทสนายา’’ติฯ อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ – เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส สมิญฺชิตํ วา พาหํ ปสาเรยฺย, ปสาริตํ วา พาหํ สมิญฺเชยฺย เอวเมว – พฺรหฺมโลเก อนฺตรหิโต ภควโต ปุรโต ปาตุรโหสิฯ อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทกฺขิณชาณุมณฺฑลํ ปถวิยํ นิหนฺตฺวา เยน ภควา เตนญฺชลิํ ปณาเมตฺวา ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํฯ สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ , ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อญฺญาตาโร’’ติฯ อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวาน อถาปรํ เอตทโวจ –

‘‘ปาตุรโหสิ มคเธสุ ปุพฺเพ;

ธมฺโม อสุทฺโธ สมเลหิ จินฺติโต;

อปาปุเรตํ [อวาปุเรตํ (สี.)] อมตสฺส ทฺวารํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํฯ

‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺฐิโต;

ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;

ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ;

ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ;

โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก;

อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํฯ

‘‘อุฏฺเฐหิ วีร วิชิตสงฺคาม;

สตฺถวาห อณณ [อนณ (ก.)] วิจร โลเก;

เทสสฺสุ [เทเสตุ (ก.)] ภควา ธมฺมํ;

อญฺญาตาโร ภวิสฺสนฺตี’’ติฯ

[[ ] สี. สฺยา. โปตฺถเกสุ นตฺถิ, มูลปณฺณาสเกสุ ปาสราสิสุตฺเถ พฺรหฺมยาจนา สกิํ เยว อาคตา] [ เอวํ วุตฺเต ภควา พฺรหฺมานํ สหมฺปติํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหมฺปิ โข, พฺรหฺเม, เอตทโหสิ – ‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโยฯ อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตาฯ อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ ฐานํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท; อิทมฺปิ โข ฐานํ สุทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํฯ อหญฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ, โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’ติฯ อปิสฺสุ มํ, พฺรหฺเม, อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –

‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;

ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธฯ

‘ปฏิโสตคามิํ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;

ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา’ติฯ

อิติห เม, พฺรหฺเม, ปฏิสญฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ โน ธมฺมเทสนายา’’ติฯ

ทุติยมฺปิ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํ; สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อญฺญาตาโร’’ติฯ อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวาน อถาปรํ เอตทโวจ –

‘‘ปาตุรโหสิ มคเธสุ ปุพฺเพ;

ธมฺโม อสุทฺโธ สมเลหิ จินฺติโต;

อปาปุเรตํ อมตสฺส ทฺวารํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํฯ

‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺฐิโต;

ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;

ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ;

ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ;

โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก;

อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํฯ

‘‘อุฏฺเฐหิ วีร วิชิตสงฺคาม;

สตฺถวาห อณณ วิจร โลเก;

เทสสฺสุ ภควา ธมฺมํ;

อญฺญาตาโร ภวิสฺสนฺตี’’ติฯ

ทุติยมฺปิ โข ภควา พฺรหฺมานํ สหมฺปติํ เอตทโวจ – ‘‘มยฺหมฺปิ โข, พฺรหฺเม, เอตทโหสิ – ‘อธิคโต โข มฺยายํ ธมฺโม คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโยฯ อาลยรามา โข ปนายํ ปชา อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตาฯ อาลยรามาย โข ปน ปชาย อาลยรตาย อาลยสมฺมุทิตาย ทุทฺทสํ อิทํ ฐานํ ยทิทํ อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปาโท; อิทมฺปิ โข ฐานํ สุทุทฺทสํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํฯ อหญฺเจว โข ปน ธมฺมํ เทเสยฺยํ, ปเร จ เม น อาชาเนยฺยุํ, โส มมสฺส กิลมโถ, สา มมสฺส วิเหสา’ติฯ อปิสฺสุ มํ, พฺรหฺเม, อิมา อนจฺฉริยา คาถาโย ปฏิภํสุ ปุพฺเพ อสฺสุตปุพฺพา –

‘กิจฺเฉน เม อธิคตํ, หลํ ทานิ ปกาสิตุํ;

ราคโทสปเรเตหิ, นายํ ธมฺโม สุสมฺพุโธฯ

‘ปฏิโสตคามิํ นิปุณํ, คมฺภีรํ ทุทฺทสํ อณุํ;

ราครตฺตา น ทกฺขนฺติ, ตโมขนฺเธน อาวุฏา’ติฯ

อิติห เม, พฺรหฺเม, ปฏิสญฺจิกฺขโต อปฺโปสฺสุกฺกตาย จิตฺตํ นมติ, โน ธมฺมเทสนายา’’ติฯ

ตติยมฺปิ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘เทเสตุ, ภนฺเต, ภควา ธมฺมํ, เทเสตุ สุคโต ธมฺมํฯ สนฺติ สตฺตา อปฺปรชกฺขชาติกา, อสฺสวนตา ธมฺมสฺส ปริหายนฺติ, ภวิสฺสนฺติ ธมฺมสฺส อญฺญาตาโร’’ติฯ อิทมโวจ พฺรหฺมา สหมฺปติ, อิทํ วตฺวาน อถาปรํ เอตทโวจ –

‘‘ปาตุรโหสิ มคเธสุ ปุพฺเพ;

ธมฺโม อสุทฺโธ สมเลหิ จินฺติโต;

อปาปุเรตํ อมตสฺส ทฺวารํ;

สุณนฺตุ ธมฺมํ วิมเลนานุพุทฺธํฯ

‘‘เสเล ยถา ปพฺพตมุทฺธนิฏฺฐิโต;

ยถาปิ ปสฺเส ชนตํ สมนฺตโต;

ตถูปมํ ธมฺมมยํ สุเมธ;

ปาสาทมารุยฺห สมนฺตจกฺขุ;

โสกาวติณฺณํ ชนตมเปตโสโก;

อเวกฺขสฺสุ ชาติชราภิภูตํฯ

‘‘อุฏฺเฐหิ วีร วิชิตสงฺคาม;

สตฺถวาห อณณ วิจร โลเก;

เทสสฺสุ ภควา ธมฺมํ;

อญฺญาตาโร ภวิสฺสนฺตี’’ติฯ

[9] อถ โข ภควา พฺรหฺมุโน จ อชฺเฌสนํ วิทิตฺวา สตฺเตสุ จ การุญฺญตํ ปฏิจฺจ พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกสิฯ อทฺทสา โข ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิญฺญาปเย ทุวิญฺญาปเย, อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน [ทสฺสาวิโน (สี. สฺยา. กํ.)] วิหรนฺเต, อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเตฯ

เสยฺยถาปิ นาม อุปฺปลินิยํ วา ปทุมินิยํ วา ปุณฺฑรีกินิยํ วา อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกานุคฺคตานิ อนฺโต นิมุคฺคโปสีนิ , อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ สโมทกํ ฐิตานิ, อปฺเปกจฺจานิ อุปฺปลานิ วา ปทุมานิ วา ปุณฺฑรีกานิ วา อุทเก ชาตานิ อุทเก สํวฑฺฒานิ อุทกํ อจฺจุคฺคมฺม ฐิตานิ [ติฏฺฐนฺติ (สี. สฺยา.)] อนุปลิตฺตานิ อุทเกน, เอวเมวํ ภควา พุทฺธจกฺขุนา โลกํ โวโลเกนฺโต อทฺทส สตฺเต อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย สฺวากาเร ทฺวากาเร สุวิญฺญาปเย ทุวิญฺญาปเย, อปฺเปกจฺเจ ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต, อปฺเปกจฺเจ น ปรโลกวชฺชภยทสฺสาวิเน วิหรนฺเต; ทิสฺวาน พฺรหฺมานํ สหมฺปติํ คาถาย ปจฺจภาสิ –

‘‘อปารุตา เตสํ อมตสฺส ทฺวารา;

เย โสตวนฺโต ปมุญฺจนฺตุ สทฺธํ;

วิหิํสสญฺญี ปคุณํ น ภาสิํ;

ธมฺมํ ปณีตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม’’ติฯ

อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปติ ‘‘กตาวกาโส โขมฺหิ ภควตา ธมฺมเทสนายา’’ติ ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา ปทกฺขิณํ กตฺวา ตตฺเถวนฺตรธายิฯ

พฺรหฺมยาจนกถา นิฏฺฐิตาฯ

6. ปญฺจวคฺคิยกถา

[10] [ม. นิ. 1.284 อาทโย; ม. นิ. 2.339 อาทโย] อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ? โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ? อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อาฬาโร กาลาโม ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺขชาติโก; ยํนูนาหํ อาฬารสฺส กาลามสฺส ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, โส อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติฯ อถ โข อนฺตรหิตา เทวตา ภควโต อาโรเจสิ – ‘‘สตฺตาหกาลงฺกโต, ภนฺเต, อาฬาโร กาลาโม’’ติฯ ภควโตปิ โข ญาณํ อุทปาทิ – ‘‘สตฺตาหกาลงฺกโต อาฬาโร กาลาโม’’ติฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘มหาชานิโย โข อาฬาโร กาลาโม; สเจ หิ โส อิมํ ธมฺมํ สุเณยฺย, ขิปฺปเมว อาชาเนยฺยา’’ติฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ? โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ? อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘อยํ โข อุทโก [อุทฺทโก (สี. สฺยา.)] รามปุตฺโต ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี ทีฆรตฺตํ อปฺปรชกฺขชาติโก; ยํนูนาหํ อุทกสฺส รามปุตฺตสฺส ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ, โส อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติฯ อถ โข อนฺตรหิตา เทวตา ภควโต อาโรเจสิ – ‘‘อภิโทสกาลงฺกโต, ภนฺเต, อุทโก รามปุตฺโต’’ติฯ ภควโตปิ โข ญาณํ อุทปาทิ – ‘‘อภิโทสกาลงฺกโต อุทโก รามปุตฺโต’’ติฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘มหาชานิโย โข อุทโก รามปุตฺโต; สเจ หิ โส อิมํ ธมฺมํ สุเณยฺย, ขิปฺปเมว อาชาเนยฺยา’’ติ

อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กสฺส นุ โข อหํ ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺยํ? โก อิมํ ธมฺมํ ขิปฺปเมว อาชานิสฺสตี’’ติ? อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘พหุการา โข เม ปญฺจวคฺคิยา ภิกฺขู, เย มํ ปธานปหิตตฺตํ อุปฏฺฐหิํสุ; ยํนูนาหํ ปญฺจวคฺคิยานํ ภิกฺขูนํ ปฐมํ ธมฺมํ เทเสยฺย’’นฺติฯ อถ โข ภควโต เอตทโหสิ – ‘‘กหํ นุ โข เอตรหิ ปญฺจวคฺคิยา ภิกฺขู วิหรนฺตี’’ติ? อทฺทสา โข ภควา ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน ปญฺจวคฺคิเย ภิกฺขู พาราณสิยํ วิหรนฺเต อิสิปตเน มิคทาเยฯ อถ โข ภควา อุรุเวลายํ ยถาภิรนฺตํ วิหริตฺวา เยน พาราณสี เตน จาริกํ ปกฺกามิฯ

[11] อทฺทสา โข อุปโก อาชีวโก ภควนฺตํ อนฺตรา จ คยํ อนฺตรา จ โพธิํ อทฺธานมคฺคปฺปฏิปนฺนํ, ทิสฺวาน ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘วิปฺปสนฺนานิ โข เต, อาวุโส, อินฺทฺริยานิ, ปริสุทฺโธ ฉวิวณฺโณ ปริโยทาโตฯ กํสิ ตฺวํ, อาวุโส, อุทฺทิสฺส ปพฺพชิโต? โก วา เต สตฺถา? กสฺส วา ตฺวํ ธมฺมํ โรเจสี’’ติ? เอวํ วุตฺเต ภควา อุปกํ อาชีวกํ คาถาหิ อชฺฌภาสิ –