พูดเปรยกระทบรูปพรรณทราม ว่าไม่ใช่พวกเรา . . .พวกเราไม่ใช่สูงเกินไป . . .ไม่ใช่ต่ำเกินไป . . .ไม่ใช่ดำเกินไป พูดเปรยกระทบรูปพรรณอุกฤษฏ์ ว่าไม่ใช่พวกเรา . . .พวกเราไม่ใช่ไม่สูงนัก . . .ไม่ใช่ไม่ต่ำนัก . . .ไม่ใช่ไม่ดำนัก พูดเปรยกระทบกิเลสทราม ว่าไม่ใช่พวกเรา . . .พวกเราไม่ใช่ถูกราคะกลุ้มรุม . . . ไม่ใช่ถูกโทสะย่ำยี . . . ไม่ใช่ พูดเปรยกระทบกิเลสอุกฤษฏ์ ว่าไม่ใช่พวกเรา . . .พวกเราไม่ใช่ปราศจากราคะ . . .ไม่ใช่ปราศจากโทสะ . . .ไม่ใช่ พูดเปรยกระทบอาบัติทราม ว่าไม่ใช่พวกเรา . . .พวกเราไม่ใช่เป็นผู้ต้องอาบัติปาราชิก . . .สังฆาทิเสส . . .ถุลลัจจัย
พูดเปรยกระทบอาบัติอุกฤษฏ์ ว่าไม่ใช่พวกเรา . . . พวกเราไม่ใช่เป็นผู้ต้องโสดาบัติ . . . ภิกษุนั้นไม่ว่าคนอื่น ว่า พูดเปรยกระทบคำสบประมาททราม ว่าไม่ใช่พวกเรา . . .พวกเราไม่ใช่มีความประพฤติดังอูฐ . . .ดังแพะ . . .ดังโค. . . .ดังลา พูดเปรยกระทบคำสบประมาทอุกฤษฏ์ ว่าไม่ใช่พวกเรา . . .พวกเราไม่ใช่เป็นบัณฑิต . . .ไม่ใช่เป็นคนฉลาด . . .ไม่ใช่เป็น ต้องอาบัติตามวัตถุ [282] อุปสัมบันได้ยินถ้อยคำของอุปสัมบันแล้ว เก็บเอาคำส่อเสียด |