พระอภิธรรมปิฎก ยมก [10. อินทรียยมก] 2. ปวัตติวาร 1. อุปปาทวาร 6. อตีตานาคตวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[429] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปา-
วจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้และมี
จิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด