พระวินัยปิฎก มหาวรรค [9. จัมเปยยขันธกะ] 235. อธัมมวัคคาทิกัมมกถา
235. อธัมมวัคคาทิกัมมกถา
ว่าด้วยกรรมที่แบ่งพวกโดยไม่ชอบธรรมเป็นต้น
เรื่องภิกษุชาวกรุงจัมปาทำกรรมแบ่งพวกโดยไม่ชอบธรรมเป็นต้น
[382] สมัยนั้น พวกภิกษุในกรุงจัมปาทำกรรมเช่นนี้ คือ ทำกรรม
แบ่งพวกโดยไม่ชอบธรรม ทำกรรมพร้อมเพรียงกันโดยไม่ชอบธรรม ทำกรรม
แบ่งพวกโดยชอบธรรม ทำกรรมแบ่งพวกโดยธรรมปฏิรูป1 ทำกรรมพร้อมเพรียง
กันโดยธรรมปฏิรูป ภิกษุรูปเดียวลงอุกเขปนียกรรมภิกษุรูปเดียวบ้าง ภิกษุรูป
เดียวลงอุกเขปนียกรรมภิกษุ 2 รูปบ้าง ภิกษุรูปเดียวลงอุกเขปนียกรรมภิกษุ
หลายรูปบ้าง ภิกษุรูปเดียวลงอุกเขปนียกรรมสงฆ์บ้าง ภิกษุ 2 รูปลง
อุกเขปนียกรรมภิกษุรูปเดียวบ้าง ภิกษุ 2 รูปลงอุกเขปนียกรรมภิกษุ 2 รูปบ้าง
ภิกษุ 2 รูปลงอุกเขปนียกรรมภิกษุหลายรูปบ้าง ภิกษุ 2 รูปลงอุกเขปนียกรรม
สงฆ์บ้าง ภิกษุหลายรูปลงอุกเขปนียกรรมภิกษุรูปเดียวบ้าง ภิกษุหลายรูปลง
อุกเขปนียกรรมภิกษุ 2 รูปบ้าง ภิกษุหลายรูปลงอุกเขปนียกรรมภิกษุหลายรูปบ้าง
ภิกษุหลายรูปลงอุกเขปนียกรรมสงฆ์บ้าง สงฆ์ลงอุกเขปนียกรรมสงฆ์บ้าง
เชิงอรรถ :
1 ธรรมปฏิรูป แปลว่า ธรรมปลอม,ธรรมเทียม,ธรรมที่ไม่แท้ ในคัมภีร์อรรถกถา กล่าวถึงสัทธรรมที่ไม่แท้
ที่ชื่อว่าสัทธรรมปฏิรูป 2 อย่างคือ
1. อธิคมสัทธรรมปฏิรูป คือ ธรรมที่เป็นเหตุเศร้าหมองแห่งวิปัสสนาญาณ เช่น โอภาส ญาณ ปีติ
ปัสสัทธิ สุข เป็นต้น ที่เป็นเหตุให้จิตหวั่นไหว
2. ปริยัตติสัทธรรมปฏิรูป ได้แก่ สิ่งที่ไม่ใช่พระพุทธพจน์ คือ คัมภีร์คุฬหวินัย คัมภีร์คุฬห
เวสสันดรชาดก คัมภีร์คุฬหมโหสธชาดก คัมภีร์วรรณปิฎก คัมภีร์องคุลิมาลปิฎก คัมภีร์เวทัลลปิฎก
คัมภีร์รัฏฐปาลคัชชิตะ คัมภีร์อาฬวกคัชชิตะ ที่ไม่ได้ยกขึ้นสู่การสังคายนา 3 ครั้ง อยู่นอกเหนือจาก
กถาวัตถุ 5 เหล่านี้ ธาตุกถา อารัมมณกถา อสุภกถา ญาณกถา วิชชากรัณฑกะ (สํ.นิ.อ. 2/156/
223-224)เป็นคำสอนของอธรรมวาทีนิกายต่าง ๆ ที่แสดงช่วงก่อนสังคายนาครั้งที่ 3 และมีการสอบ
ถามเมื่อคราวสังคายนาครั้งที่ 3 ชื่อคัมภีร์เหล่านี้มีกล่าวถึงในอรรถกถา
พระวินัยปิฎก มหาวรรค [9. จัมเปยยขันธกะ] 235. อธัมมวัคคาทิกัมมกถา
บรรดาภิกษุผู้มักน้อย จึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า ไฉนพวกภิกษุใน
กรุงจัมปาจึงทำกรรมเช่นนี้เล่า คือ ทำกรรมแบ่งพวกโดยไม่ชอบธรรม ฯลฯ สงฆ์
ลงอุกเขปนียกรรมสงฆ์บ้าง ครั้นแล้วจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้
ทรงทราบ ฯลฯ
พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามว่า ภิกษุทั้งหลาย ทราบว่า พวกภิกษุในกรุง
จัมปาทำกรรมเช่นนี้ คือ ทำกรรมแบ่งพวกโดยไม่ชอบธรรม ฯลฯ สงฆ์ลงอุกเขปนีย
กรรมสงฆ์บ้าง จริงหรือ
ภิกษุทั้งหลายทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิ ฯลฯ ครั้นทรงตำหนิทรงแสดงธรรมีกถา
แล้วรับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า
เรื่องพระผู้มีพระภาคตรัสห้ามเพราะไม่ชอบธรรม
[383] ภิกษุทั้งหลาย ถ้าเป็นกรรมที่แบ่งพวกโดยไม่ชอบธรรม ไม่จัดเป็น
กรรมและไม่ควรทำ ถ้าเป็นกรรมที่พร้อมเพรียงกันโดยไม่ชอบธรรม ไม่จัดเป็น
กรรมและไม่ควรทำ ถ้าเป็นกรรมที่แบ่งพวกโดยชอบธรรม ไม่จัดเป็นกรรมและไม่
ควรทำ ถ้าเป็นกรรมที่แบ่งพวกโดยธรรมปฏิรูป ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ถ้า
กรรมที่พร้อมเพรียงกันโดยธรรมปฏิรูป ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ภิกษุรูป
เดียวลงอุกเขปนียกรรมภิกษุรูปเดียว ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ภิกษุรูปเดียว
ลงอุกเขปนียกรรมภิกษุ 2 รูป ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ภิกษุรูปเดียวลง
อุกเขปนียกรรมภิกษุหลายรูป ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ภิกษุรูปเดียวลง
อุกเขปนียกรรมสงฆ์ ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ภิกษุ 2 รูปลงอุกเขปนีย
กรรมภิกษุรูปเดียว ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ภิกษุ 2 รูปลงอุกเขปนียกรรม
ภิกษุ 2 รูป ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ภิกษุ 2 รูปลงอุกเขปนียกรรมภิกษุ
หลายรูป ไม่จัดเป็นกรรมและไม่ควรทำ ภิกษุ 2 รูปลงอุกเขปนียกรรมสงฆ์ ไม่